วันที่ 1 เมษายน 2558 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทูตสหภาพยุโรป (อียู) ได้เชิญแกนนำพรรคเพื่อไทย ไปพูดคุยถึงสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศ หลังจากที่ทูตอียูได้พูดคุยแลกเปลี่ยนความเห็นกับพรรคการเมืองและกลุ่มต่าง ๆ มาก่อนหน้านี้
โดยทูตอียูได้สอบถามถึงปัญหาของการร่างรัฐธรรมนูญที่หลายฝ่ายแสดงความเห็นวิพากษ์วิจารณ์กัน รวมทั้งการประกาศใช้กฎอัยการศึก ที่เป็นอยู่ในขณะนี้ว่าส่งผลกระทบกับประเทศไทยอย่างไร รวมถึงการสอบถามเรื่องที่ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เตรียมประกาศใช้มาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญชั่วคราวแทนกฎอัยการศึกว่าจะเกิดผลกระทบอย่างไรกับประเทศไทย
อย่างไรก็ตามช่วงที่ผ่านมาทางทูตอียูได้รับทราบถึงสถานการณ์ในไทยช่วงที่มีการประกาศใช้กฎอัยการศึกแล้ว ว่าส่งผลกระทบอย่างมากโดยเฉพาะภาคเศรษฐกิจ การค้าและการส่งออก
ทั้งนี้ทางกลุ่มทูตอียูแสดงความเป็นห่วงไทยในฐานะประเทศคู่ค้า เพราะประเทศในกลุ่มอียูเองไม่เคยมีกฎหมายในลักษณะที่ให้อำนาจผู้นำครอบคลุมในทุกเรื่อง จึงเป็นกังวลว่าหากมีการใช้ มาตรา 44 จริง อาจจะมีผลกระทบต่อเรื่องจีเอสพีและเอฟทีเอในอนาคต นอกจากนี้กลุ่มทูตอียูยังแสดงความเป็นกังวลว่าตราบใดที่ประเทศไทยยังไม่มีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง จะยิ่งส่งผลกระทบต่อภาคเศรษฐกิจโดยเฉพาะผู้ส่งออกไทย
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก