ด่วน!!! มีงาช้างไม่แจ้งครอบครองเท่ากับมีของผิดกฎหมาย

ด่วน!!! มีงาช้างไม่แจ้งครอบครองเท่ากับมีของผิดกฎหมาย

 

 ผู้ที่มีงาช้างหรือผลิตภัณฑ์ที่มีงาช้างเป็นส่วนประกอบต้องแจ้งครอบครองต่อกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ภายใน 21 เมษายนนี้  ฝ่าฝืนมีโทษปรับสูงถึง 3 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ  สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ที่สายด่วน 1362 ตลอด 24 ชั่วโมง

 

 

  โดยในปัจจุบันมีผู้เข้าแจ้งครอบครองงาช้างและผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากงาช้าง

 (ข้อมูล ณ วันที่ 2 เมษายน 2558)

  1.ผู้แจ้งการครอบครองงาช้างตามพระราชบัญญัติงาช้าง พ.ศ.2558

 จำนวน  9,908 ราย

  2.วัดที่จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลแจ้งการครอบครอง 14 วัด

  3.การแจ้งครอบครองทางตู้ไปรษณีย์ 192 ราย

  4.การแจ้งครอบครองเพื่อขออนุญาตค้างาช้างจำนวน 58 ราย

 5.การแจ้งครอบครองสัตว์ป่าคุ้มครอง ซากสัตว์ป่าคุ้มครอง หรือผลิตภัณฑ์ที่ทำจากซากสัตว์ป่าคุ้มครอง จำนวน 12 ราย

 

 

เมื่อกม.ไทยคุ้มครองช้างแอฟริกา

สกัดการค้างาเลือด

 

                  20,000 คือตัวเลขของชีวิตช้างแอฟริกาที่ถูกสังหารต่อปี ด้วยเหตุผลประการสำคัญคือ “ฆ่าเพื่อเอางา” ผู้นิยมสวมใส่เครื่องประดับงาช้างไม่มีทางรู้เลยว่า กำไล แหวน ต่างหูที่สลักเสลาด้วยฝีมืออันวิจิตรของช่างฝีมือไทยนั้น คือช้างที่ถูกฆ่าด้วยอาวุธสงครามในประเทศแถบแอฟริกา และจำนวนงาช้างที่ถูกจับได้ในประเทศไทยมีมากมายถึง 12 ตันต่อปี

          

  “จำนวนช้างไทยมีไม่เกิน 4,000ตัว ช้างไทยซึ่งเป็นช้างเอเชีย จะมีงาเฉพาะตัวผู้ ถ้าลองคิดว่าครึ่งหนึ่งเป็นช้างตัวผู้ จะมีงาได้ไม่เกิน 2,000 ตัวเท่านั้น ช้างมีอายุขัยประมาณ70-80ปี และงาช้างไม่ได้มีทุกปี ไม่ได้ถูกตัดบ่อยขนาดนั้น”จันทน์ปาย องค์ศิริวิทยา ผู้จัดการรณรงค์ต่อต้านการค้าสัตว์ป่า WWF ประเทศไทย ให้ข้อมูล

 

 

             ประเทศไทยถูกมองว่าเป็นตลาดค้างาช้างผิดกฏหมายที่ใหญ่เป็นอันดับสองรองจากจีน  จากการเก็บข้อมูลจากร้านค้าในกรุงเทพ เมื่อช่วง ม.ค.-เม.ย. และ ต.ค.-พ.ค.ปี 2556โดยองค์กร TRAFFICพบว่า จำนวนร้านค้าปลีกของผลิตภัณฑ์ที่ทำจากงาช้างทั้งถูกกฎหมายและผิดกฏหมายได้เพิ่มสูงขึ้นในรูปแบบของเครื่องประดับ และสินค้าแปรรูปอื่นๆ โดยมีจำนวนมากกว่าจำนวนงาช้างบ้านที่ประเทศไทยจะผลิตได้  ทั้งนี้พบจำนวนสินค้าจากงาช้างพุ่งสูงขึ้น 3 เท่าจาก 5,865เป็น 14,512ชิ้น ในระยะเวลาเพียงไม่กี่เดือน

            สินค้าอย่าง “กำไล” ที่ทำมาจากงาช้างเท่าที่สำรวจพบว่ามีเส้นผ่านศูนย์กลาง8.125 ซม. ซึ่งกำไลที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางที่ใหญ่ขนาดนี้ ต้องทำจากส่วนแข็งตรงกลางและส่วนโคนของงาช้างเท่านั้น  นั่นหมายความว่าช้างที่ถูกฆ่ามีขนาดใหญ่และอายุมาก

            การจำแนกงาช้างแอฟริกากับงาช้างเอเชียไม่สามารถแยกทางกายภาพได้ โดยเฉพาะงาช้างที่นำไปทำเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ทั้งนี้การตรวจจำแนกงาช้างต้องใช้วิธีการตรวจสอบทางพันธุกรรม(DNA)ซึ่งหากเป็นผลิตภัณฑ์งาช้างชิ้นเล็ก ๆ การตรวจสอบอาจทำให้ผลิตภัณฑ์เสียหาย เพราะต้องบดผลิตภัณฑ์ดังกล่าวเพื่อนำไปสกัดสารทางพันธุกรรม

             สำนักเลขาธิการอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์  (ไซเตส) เรียกร้องให้ประเทศไทยต้องส่งรายงานการแก้ปัญหางาช้างเป็นระยะ ไม่เช่นนั้นอาจถูกคว่ำบาตรทางการค้ากับไซเตส เช่นผลิตภัณฑ์หนังจระเข้ หนังงู กิ้งก่า กล้วยไม้ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศไม่น้อยกว่า 47,000ล้านบาท

            ภายใต้ข้อเรียกร้องนี้ประเทศไทยได้ตราพระราชบัญญัติงาช้าง พ.ศ. 2558 มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่21ม.ค.ที่ผ่านมา เพื่อควบคุมการครอบครองงาช้าง รวมไปถึงการค้างาช้าง ส่งผลให้ผู้ครอบครองงาช้างรวมทั้งผลิตภัณฑ์ที่ทำจากงาช้างต้องมาแจ้งครอบครองภายใน 90 วัน (22 ม.ค.-21เม.ย. 2558) หากไม่แจ้งครอบครองตามระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด จะมีโทษหนักปรับสูงสุดถึง3 ล้านบาท ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่ถูกเพ่งเล็งเกี่ยวกับปัญหาการลักลอบค้างาช้างที่ผิดกฎหมาย ทั้งในแง่ของการเป็นประเทศปลายทางของงาช้าง และเป็นประเทศทางผ่านส่งต่อไปยังประเทศอื่นๆ เช่น ฮ่องกง มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ โดยกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบผลิตภัณฑ์มีทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากประเทศจีน ความต้องการนี้จึงยิ่งไปเพิ่มจำนวนให้เกิดการฆ่าช้างเอางามากขึ้น

 จันทน์ปาย กล่าวว่าจากศึกษาข้อมูลพบว่า ช้างในพื้นที่อนุรักษ์ของแอฟริกาถูกฆ่าเพื่อเอางานั้นมียุทธวิธีมากมาย หนึ่งในนั้นคือการใช้อาวุธสงคราม โดยผู้พิทักษ์ป่ามักจะถูกฆ่าตายไปด้วย เพื่อเปิดทางให้ลักลอบเข้าไปฆ่าช้างได้ง่ายขึ้นในทุกวันนี้จะเห็นภาพซากช้างที่ปรากฏอวัยวะทุกอย่างอยู่ครบยกเว้นงาช้าง ภาพช้างที่มีใบหน้าเต็มไปด้วยเลือดถูกถอดงาไปทั้งกิ่ง มีเรื่องน่าเศร้าว่าเอ็นจีโอที่ทำงานใกล้ชิดกับช้างในประเทศเคนย่า เขาเพิ่งตั้งชื่อและโพสต์รูปของช้างตัวหนึ่งในเฟสบุ๊คเมื่อวาน แต่วันนี้ช้างตัวนั้นกลับถูกยิงตายและงาหายไปหมด   

            ผู้จัดการรณรงค์ต่อต้านการค้าสัตว์ป่า WWF ประเทศไทย กล่าวว่า พ.ร.บ.งาช้างพ.ศ. 2558เป็นกฎหมายใหม่เพื่อเอาผิดผู้ลักลอบนำเข้างาช้างถือว่าเป็นกฏหมายที่ประชาชนให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี  ซึ่งก็เป็นเรื่องน่าประหลาดใจของเอ็นจีโออย่างเราเช่นกัน ที่มีประชาชนมาแจ้งครอบครองงาช้างนับหมื่นราย เห็นภาพบางคนแบกงาช้างมาใหญ่มาก บางคนมีแค่พระเครื่ององค์เล็กๆ ก็ยังมาแจ้ง

             “มองว่าประชาชนมีความรู้สึกอยากเป็นส่วนหนึ่งของการแก้ปัญหา เขาอยากมีส่วนร่วม ซึ่งเป็นจุดที่ดีมาก เพราะน้อยครั้งที่ประกาศกฎหมายออกไปแล้วจะมีประชาชนให้ความร่วมมือ”

             ที่ผ่านมารัฐบาลไทยไม่ได้นิ่งนอนใจเกี่ยวกับการหยุดการลักลอบการค้างาช้าง โดยได้ทำงานประสานความร่วมมือในทุกภาคส่วนรวมทั้งเร่งทำความเข้าใจกับประชาชน และในส่วนของการจับกุมนั้น ศูนย์ป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ปทส.) ได้ทำงานเชิงรุกอย่างจริงจังและเข้มงวดเป็นอย่างมาก

            พล.ต.อ. เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผบ.ตร. ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ปทส.)  กล่าวว่า กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้มอบหมายให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เข้าไปดูแลเรื่องการค้างาช้างเป็นพิเศษ ล่าสุดได้จัดตั้งชุดปฏิบัติการเฉพาะกิจเพื่อตั้งจุดตรวจ กวดขัน จุดสกัด การลักลอบค้างาช้างและผลิตภัณฑ์งาช้าง ในพื้นที่เป้าหมาย 12จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร สมุทรปราการ นนทบุรี ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา นครสวรรค์ อุทัยธานี บุรีรัมย์ สุรินทร์ ภูเก็ต กาญจนบุรี และเชียงใหม่ พร้อมกับประสานตำรวจท้องที่ให้ลงจัดเก็บข้อมูลร้านค้าที่จำหน่ายงาช้าง รวมทั้งผู้ครอบครองงาช้าง ซึ่งต้องยื่นขอใบอนุญาตค้าและครอบครอง พร้อมประสานด่านชายแดนทุกจังหวัดให้มีการตรวจสินค้านำเข้า-ส่งออกอย่างเข้มข้น ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดตั้งศูนย์และจะแล้วเสร็จภายในเดือน มี.ค. นี้ 

            พล.ต.อ. เฉลิมเกียรติ กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ได้สั่งการให้ พื้นที่กองบังคับการต่าง ๆ ใน จ.ปราจีนบุรี สระแก้ว นครราชสีมา ซึ่งมีพื้นที่อุทยานแห่งชาติเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของช้างป่า ให้ตำรวจท้องที่ไปสำรวจตัวเลขของพรานป่า เพื่อเรียกมาทำความเข้าใจเรื่องประเด็นการลับลอบค้างาช้างพร้อมร่วมทำสัตย์ปฏิญาณว่าจะไม่ฆ่าช้างเพื่อเอางา

             “อยากเปิดใจให้ได้รับรู้ข้อมูลสถานการณ์ภัยคุกคามต่อช้างนั้นมากขนาดไหน คุณไม่สามารถรู้ได้เลยว่ากำไลที่คุณใส่อยู่นั้นมาจากช้างที่ถูกฆ่ามาหรือเปล่า คุณอาจเป็นส่วนหนึ่งในการพรากแม่พรากลูกของช้างหรือไม่” จันทน์ปาย กล่าวและฝากสื่อสารกับคนไทยว่า หากรักช้างสงสารช้าง เพียงแค่เลิกซื้อขาย เลิกใช้ผลิตภัณฑ์จากงาช้าง และช่วยกันบอกต่อไปว่าช้างจำนวนมากถูกฆ่าอย่างทารุณและโหดร้ายเพื่อเอางา 

            นอกจากนี้ ยังมีความกังวลกันว่า แรงงานช่างฝีมือจะได้รับผลกระทบจากกฎหมายดังกล่าว สำหรับเรื่องนี้ ในความเห็นของนักอนุรักษ์มีทางออกว่า สามารถหาวัสดุที่ทดแทนงาช้าง เช่น กระดูกสัตว์ชนิดต่าง ๆนำมาแกะสลักได้เช่นกัน  ในความจริงโลกได้เปลี่ยนไปแล้ว ต้องเข้าใจว่าบ้านเราไม่มีงาช้างให้มาแกะสลักได้มากเหมือนอดีต การค้างาช้างจึงเป็นธุรกิจที่ไม่ยั่งยืนหากยังคงอาศัยวัตถุดิบจากสิ่งมีชีวิต

            จากข้อมูลข้างต้นวิธีการได้มาซึ่งงาช้าง เต็มไปความโหดร้าย เราไม่มีทางรู้เลยว่า ผลิตภัณฑ์แปรรูปที่ออกมานั้นได้มาด้วยวิธีใด การหยุดซื้อเท่ากับตัดวงจรการฆ่าช้างเอางาได้อีกช่องทางหนึ่ง และมีส่วนช่วยให้ประเทศไทยไม่ถูกกีดกันทางการค้ากับไซเตส

           

สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

·     กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม  www.mnre.go.th/

·     กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช  http://www.dnp.go.th/

·     สอบถามสายด่วน 1362