วันที่ 8 เมษายน 2558 ผู้สื่อข่าวมีรายงานเหตุเพลิงไหม้เรือท่องเที่ยว "อ่าวนางปริ้นเซส" ซึ่งให้บริการเดินทางระหว่าง จ.กระบี่ และ จ.ภูเก็ต ขณะลอยลำกลางทะเลห่างจากหาดนพรัตน์ธารา จ.กระบี่ ราว 8 กิโลเมตร โดย นายบุญเชาว์ ตั้งศิริไพศาล ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขากระบี่ เปิดเผยว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นในเวลาประมาณ 15.30 น. คาดว่าต้นเพลิงน่าจะมาจากห้องเครื่องก่อนลามไปทั้งลำ
ขณะที่เจ้าหน้าที่ได้สั่งให้ผู้โดยสารทั้งหมดสวมเสื้อชูชีพและกระโดดลงมาลอยคอรอความช่วยเหลืออยู่ในทะเล จนสามารถช่วยเหลือทุกคนขึ้นฝั่งที่หาดนพรัตน์ธาราได้ และรอเรือลำใหม่เดินทางมารับไป จ.ภูเก็ต ต่อไป ขณะที่ตัวเรืออ่าวนางปริ้นเซสได้ถูกไฟลุกไหม้ทั้งลำ จมลงทะเลไปแล้ว
ส่วนกรมเจ้าท่า ได้ตรวจสอบจุดเกิดเหตุเบื้องต้น ไม่พบคราบน้ำมัน และเป็นจุดน้ำตื้น จึงสั่งให้เดินเรือตามปกติ
อย่างไรก็ตาม เว็บไซต์ phuketwan.com รายงานว่า ในขณะที่ผู้โดยสารกว่า 106 คน ได้รับการช่วยเหลืออย่างปลอดภัย กลับพบว่ามีเด็กหญิงชาวอิสราเอล วัย 12 ปี หายตัวไปหลังเกิดเหตุดังกล่าว เนื่องจากเด็กหญิงอยู่ในห้องน้ำขณะที่เกิดไฟไหม้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ได้ทำการค้นหาเด็กอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งเวลาประมาณ 22.00 น. จึงได้ยุติการค้นหาร่างเด็กคนดังกล่าวชั่วคราว โดยคาดว่าร่างเด็กน่าจมหายไปกับเรือ
ต่อมาในเวลา 07.30 น วันที่ 9 เมษายน 2558 นายณรงค์ วุ่นซิ้ว รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ พร้อมด้วยหน่วยปฏิบัติการพิเศษจากทัพเรือภาคที่ 3 ตำรวจน้ำ และหน่วยกู้ภัยรวมกว่า 20 นาย ได้ออกปฏิบัติการค้นหาร่างของ ด.ญ.ซานิ มารีล อายุ 12 ปี สัญชาติอิสราเอล ผู้สูญหายจากเหตุดังกล่าว โดยจะมีการดำน้ำค้นหาที่ซากเรือซึ่งอยู่ในระดับน้ำลึก 20 เมตร และบริเวณใกล้เคียง ซึ่งการทำงานเป็นไปด้วยความยากลำบากเนื่องจากมีคลื่นลมแรงเป็นระยะ เจ้าหน้าที่ต้องทำงานด้วยความระมัดระวัง ขณะเดียวกันสถานทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย ได้ส่งเจ้าหน้าที่มาดูการค้นหาศพแล้วด้วย
ขณะที่เจ้าหน้าที่ยังอยู่ระหว่างตรวจพิสูจน์หลักฐานเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงที่ทำให้ไฟไหม้เรือ โดยเบื้องต้นคาดว่าน่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรในห้องเครื่อง ก่อนเกิดประกายไฟลุกลามไปชั้นบนของตัวเรือ เผาเรือจนจมลงทะเลในที่สุด
ด้าน นายทรงพล สวาสดิ์ธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ ได้เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพร้อมสั่งการให้เจ้าหน้าที่เร่งค้นหาผู้สูญหายให้พบโดยเร็วที่สุด โดยมอบหมายให้ทุกหน่วยงานออกค้นหาจนกว่าจะพบ และตั้งศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ให้ความช่วยเหลือนักท่องเที่ยวทุกกรณี ขณะที่หลังจากนี้จะเพิ่มมาตรการให้มีการตรวจสอบระบบเครื่องยนต์ของเรือก่อนออกจากท่าเทียบเรือ เพื่อความมั่นใจของผู้ใช้บริการและนักท่องเที่ยว
ส่วนในเรื่องของคดี ในวันนี้ (9 เมษายน) ทางตำรวจภูธร สภ.เมืองกระบี่ จะเรียกกัปตันเรือ พนักงานบนเรือ ตลอดจนผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์มาสอบปากคำ
ทั้งนี้ล่าสุด เมื่อเวลา 10.30 น. เจ้าหน้าที่พบศพของ ด.ญ.ซานิ แล้ว โดยลอยอยู่เหนือจุดที่เรือไฟไหม้และจมลง ขณะนี้อยู่ระหว่างการนำศพขึ้นฝั่ง
ภาพจาก ทวิตเตอร์ @Nalinee_PLE
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
หมายเหตุ อัพเดทข้อมุลล่าสุด 9 เมษายน 2558 เวลา 12.09 น.
