ตำรวจหาดใหญ่นำกำลังบุกช่วยเหลือหญิงวัย 31 ปี หลังถูกอดีตแฟนหนุ่มที่เคยอยู่กินกันนาน 4 ปี กักขังและทำร้ายร่างกาย แถมยังหลอกเชิดเอาเงินไปเกือบ 1 ล้านบาท
เมื่อวันที่ 16 เมษายน 2558 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา รับแจ้งเหตุมีหญิงสาวถูกกักขังและร้องขอความช่วยเหลืออยู่ภายในบ้านตึกแถว 2 ชั้น ภายในซอย 20 ตำบลคอหงส์ อำเภอหาดใหญ่ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำกำลังพร้อมด้วยหน่วยกู้ภัยมูลนิธิมิตรภาพสามัคคีเข้าตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นพบว่า เป็นบ้านตึกแถว 2 ชั้น โดยเจ้าหน้าที่ต้องใช้คีมตัดเหล็กเพื่อตัดกุญแจที่ล็อกรั้วบ้านถึง 2 อัน คือ ชั้นนอกและชั้นใน ก่อนเข้าไปช่วยเหลือหญิงสาวที่ยืนร้องไห้รอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่อยู่ริมรั้วได้สำเร็จ จากนั้นเจ้าหน้าที่ยังต้องปีนหน้าต่างเข้าไปในบ้าน เพื่อตามหาตัวผู้ก่อเหตุ คือ นายวัฒนา ชัยชนะ อายุ 40 ปี เป็นชาวตำบลคอหงส์ อำเภอหาดใหญ่ ซึ่งหนีไปซ่อนตัวอยู่ที่บ้านอีกหลัง โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องใช้เวลาเกลี้ยกล่อมกว่า 5 นาที จึงยอมมอบตัว ท่ามกลางความโกรธแค้นของญาติฝ่ายหญิงที่เข้ามารุมทำร้าย ทำให้เกิดเหตุชุลมุนกันพักใหญ่ ก่อนรีบนำตัวไปสอบสวนที่โรงพักหาดใหญ่
ทั้งนี้พี่สาวของหญิงสาวเคราะห์ร้ายให้การว่า น้องสาวของตนถูกนายวัฒนาหลอกมานานถึง 4 ปี โดยหมดเงินไปเกือบ 1 ล้านบาท ซึ่งตอนแรกนายวัฒนาอ้างว่า เป็นตำรวจกองปราบปรามและยังโสด แต่มาทราบภายหลังว่า นายวัฒนามีภรรยาแล้วและไม่ได้เป็นตำรวจกองปราบปรามจริง น้องสาวจึงพยายามตีตัวออกห่างแต่นายวัฒนาไม่ยอม
นอกจากนี้ นายวัฒนา ยังได้นำรถยนต์ยี่ห้อฟอร์ดของน้องสาวไปขาย รวมทั้งระยะหลังมีภรรยาเก่าของนายวัฒนาตามมาหาที่บ้าน และยังช่วยกันรุมทำร้ายน้องสาวของตนอีกด้วย ส่วนสาเหตุที่ทำให้น้องสาวถูกทำร้ายในวันนี้ เนื่องจากได้ไปหานายวัฒนาเพื่อขอรถเก๋งคืน แต่กลับถูกทำร้ายและจับตัวขังไว้ในบ้าน ก่อนจะล็อกกุญแจไม่น้องสาวของตนออกมา น้องสาวจึงโทรศัพท์มาขอความช่วยเหลือ ตนจึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อให้มาช่วยน้องสาว
เบื้องต้น ผู้เสียหายได้แจ้งความกับพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีกับนายวัฒนา 3 ข้อหาหนัก คือ ลักทรัพย์ ทำร้ายร่างกาย และกักขังหน่วงเหนี่ยว รวมทั้งให้นำทรัพย์สินทั้งเงินสดและรถยนต์มาคืนทั้งหมด พร้อมกับแจ้งความดำเนินคดีภรรยาเก่าของนายวัฒนา เพราะเชื่อว่าน่าจะมีส่วนรู้เห็นด้วย เจ้าหน้าที่จึงได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน
ขณะที่นายวัฒนา ให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างหน้าตาเฉยว่า เรื่องราวที่เกิดขึ้นเป็นความเข้าใจผิด และไม่ได้กักขังหน่วงเหนี่ยวหรือทำร้ายร่างกาย โดยแฟนสาวได้มาหาที่บ้าน ตนได้หุงหาอาหารจึงชวนทำกับข้าว และล็อกกุญแจหน้าบ้านเพื่อความปลอดภัยตามปกติเท่านั้น
ภาพจาก ครอบครัวข่าว 3
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
สำนักข่าว INN 
