สมบัติ ธำรงธัญวงศ์ ชี้นายกฯ คนนอกไม่เชื่อมโยงประชาชน ขัดหลักพลเมืองเป็นใหญ่ ชี้ทางออกระบุที่มานายกฯ ต้องเป็น ส.ส. ในบทเฉพาะกาล ผวาใช้อำนาจชงกฎหมายนิรโทษกรรมผ่านสภา จุดชนวนขัดแย้งอีกรอบ แนะตั้งกรรมาธิการวิสามัญไต่สวนตรวจสอบพฤติกรรมรัฐบาล
วันที่ 21 เมษายน 2558 นายสมบัติ ธํารงธัญวงศ์ ประธานคณะกรรมาธิการปฏิรูปการเมือง สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) กล่าวถึงร่างรัฐธรรมนูญว่า ถ้าดูในภาพรวม ร่างรัฐธรรมนูญมีความโดดเด่นหลายเรื่อง เช่น การกำหนดให้ประชาชน หรือพลเมืองเป็นใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบทบาทของสภาตรวจสอบภาคประชาชน และสมัชชาพลเมือง กล่าวได้ว่าเป็นรัฐธรรมนูญฉบับเดียวในโลกที่ให้บทบาทประชาชนมาก แต่ตนก็มีความเห็นที่แตกต่างหลายเรื่อง อาทิ การออกแบบระบบการเมือง ซึ่งจะต้องให้เหมาะสมกับสภาพสังคมไทยด้วยที่เป็นสังคมกำลังพัฒนาและมีความเหลื่อมล้ำสูง ถ้าเมื่อใดก็ตามที่ฝ่ายบริหาร คือ นายกรัฐมนตรีมาจากคนนอกไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง จะไม่มีความเชื่อมโยงกับประชาชน อำนาจอธิปไตย 3 หลัก คือ นิติบัญญัติ บริหาร และตุลาการ ก็จะเชื่อมโยงแค่หลักเดียว คือหลักนิติบัญญัติ
โดยรัฐธรรมนูญฉบับนี้ร่างให้พลเมือง ประชาชนเป็นใหญ่ แต่อนุญาตให้คนที่จะมาเป็นนายกฯ ได้ โดยไม่ต้องมาจากการเลือกตั้งของประชาชน สร้างความขัดแย้งกันพอสมควร แต่ถ้าเห็นว่ามีความจำเป็นตนยังมีทางออกคือในตัวเนื้อหาหลัก ควรจะระบุให้ชัดว่าต้องเลือก ส.ส. เป็นนายกฯ โดยเขียนไว้ในบทเฉพาะกาลให้ชัดเจน
สำหรับในมาตรา 182 ที่กำหนดให้นายกฯ สามารถแถลงต่อสภาฯ ว่าร่าง พ.ร.บ.ที่เสนอมีความสำคัญ เป็นนโยบายของรัฐบาล และถ้าหากสภาฯ ยื่นญัตติไม่ไว้วางใจ และรัฐบาลชนะ ถือว่าสภาฯ ให้ความเห็นชอบกฎหมายนั้นแล้ว ประเด็นนี้น่าวิตกอย่างมาก ถ้าเป็นร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม จะเกิดอะไรขึ้น ยิ่งถ้าประชาชนไม่เห็นด้้วย ก็จะเป็นการจุดชนวนให้ออกมาตามท้องถนนอีกหรือไม่ ตนอยากให้คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ไตร่ตรองในเรื่องนี้ โดยต้องตระหนักถึงอันตราย เพราะจากประสบการณ์ที่เห็น มีโอกาสเกิดขึ้นได้มาก
นอกจากนี้ที่มีการตั้งโจทย์ว่ารัฐบาลที่เข้มแข็งทำให้เกิดวิกฤต และจะมาแก้ไขโดยให้มีรัฐบาลที่อ่อนแอ เป็นการหาคำตอบที่ไม่ถูกต้อง เราควรที่จะมีกลไกตรวจสอบการทำงานขงรัฐบาล หรือผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่มีประสิทธิภาพ การถอดถอนและอภิปรายไม่วางไว้ใจนั้นยังไม่พอ
ทั้งนี้ตนขอเสนอว่าควรให้ ส.ส. 1 ใน 10 ของสภาฯ ประมาณ 45 คน เข้าชื่อเสนอต่อประธานวุฒิสภา ให้จัดตั้งกรรมาธิการวิสามัญไต่สวนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง หรือรัฐบาลที่ประพฤติมิชอบ และให้เชิญอัยการ หรืออดีตอัยการสูงสุด มาเป็นประธานการไต่สวน ให้ดำเนินการโดยรวดเร็ว ถ้าไต่สวนว่ามีมูลของคดีอาญา ให้ประธานวุฒิสภา ส่งให้ศาลฎีกาพิจารณา แบบนี้จะมีความรวดเร็วมากกว่าที่ส่งให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) พิจารณา
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
