วิรัตน์ กัลยาศิริ เผยวงหารือศูนย์ปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูป ไม่ดุเดือด ระบุ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ชง 2 แนวทางสู่ปรองดอง ยันรัฐธรรมนูญยังเป็นต้นตอความขัดแย้ง
เมื่อวานนี้ (23 เมษายน 2558) นายวิรัตน์ กัลยาศิริ หัวหน้าทีมกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เปิดเผยว่า ตนได้รับหนังสือเชิญให้เข้าร่วมการประชุมร่วมกับศูนย์ปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูป (ศปป.) ซึ่งตนก็ได้เดินทางไปกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค และนายชำนิ ศักดิเศรษฐ รองหัวหน้าพรรค
โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความเรียบร้อยราบรื่น ไม่ได้พูดคุยกันแบบดุเดือดด้วยความขัดแย้งกัน อะไรที่เห็นไม่ตรงกันก็มีการพูดคุยชี้แจงกันให้เข้าใจ และได้เปิดให้แสดงความคิดเห็นคนละ 10 นาที และได้มีการเปิดวีดีโอฉายภาพเหตุการณ์ทางการเมืองที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 49 จนถึงปัจจุบัน พร้อมทั้งสรุปที่มาที่ไปของปัญหา
ส่วนนายอภิสิทธิ์ได้ระบุในที่ประชุมว่า คำว่า "ปรองดอง" ไม่ใช่ให้ทุกคนต้องคิดเหมือนกัน การปรองดองคือทำอย่างไรให้คนที่คิดต่างอยู่ร่วมกันได้ โดยไม่มีความรุนแรง นอกจากนี้ นายอภิสิทธิ์ ยังได้เสนอแนวทางสร้างความปรองดองที่ต้องทำใน 2 เรื่อง คือ
1. กระบวนการประชาธิปไตย เพื่อกำหนดทิศทางของประเทศ คือประชาธิปไตยอยู่ที่รัฐธรรมนูญ และรัฐธรรมนูญต้องเป็นรัฐธรรมนูญที่ดี มีความก้าวหน้า ให้สิทธิแก่ประชาชนไม่น้อยกว่ารัฐธรรมนูญฉบับเดิมที่มีกติกาที่เป็นธรรม
2. กระบวนการยุติธรรม กำหนดความผิดถูกของคนในประเทศ คือ เรื่องที่ชี้ผิดชี้ถูกจะต้องเข้าสู่กระบวนการปรองดองสมานฉันท์ การจะนิรโทษกรรม จะมานิรโทษเลยโดยที่ไม่เข้ากระบวนการปรองดองไม่ได้
ทั้งนี้ข้อความเห็นของนายอภิสิทธิ์สอดคล้องกับสิ่งที่นายจาตุรนต์ ฉายแสง คณะกรรมการกิจการพรรคเพื่อไทย ที่บอกว่ารัฐธรรมนูญยังเป็นต้นตอของความขัดแย้ง และเห็นด้วยที่จะให้มีการจัดกระบวนการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งกันและกัน
ด้านนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช). กล่าวยอมรับว่า เห็นต่างได้ แต่อย่าสร้างความรุนแรง และยังบอกอีกว่ารัฐธรรมนูญที่ร่างอยู่ จะนำมาซึ่งความขัดแย้งอย่างหนัก รวมถึงไม่อยากให้รีบเลือกตั้งจนขาดสติ ล่าช้าไป 2-3 ปี ไม่เป็นไร แต่ขอให้ดีมีความเป็นธรรม รัฐธรรมนูญควรทำประชามติก่อน แม้จะต้องใช้งบประมาณถึง 3 พันล้านบาทก็ตาม หากประชามติไม่ผ่านรัฐธรรมนูญก็ร่างกันใหม่
อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ทหารไม่ได้ขอความร่วมมืออะไรเป็นพิเศษ เพียงแต่บอกว่าจะประสานผู้มีอำนาจ ส่วนร่างรัฐธรรมนูญจะให้ทุกพรรคช่วยกันดูว่ามีจุดใดที่ต้องแก้ไข และจะให้แต่ละพรรคเสนอความเห็นในเรื่องการจัดทำรัฐธรรมนูญด้วย
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
