ส. ศิวรักษ์ จวกหนังสือ คิดอย่างยิ่งลักษณ์ สะท้อนผลงานชั่วร้ายของรัฐบาลที่ผ่านมา ผลาญเงินแผ่นดิน ในคนลงคะแนนเสียงหนุนอำนาจชั่ว
วานนี้ (25 เมษายน 2558) ศาสตราจารย์พิเศษ สุลักษณ์ ศิวรักษ์ หรือ ส. ศิวรักษ์ นักวิชาการอิสระ ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว Sulak Sivaraksa วิพากษ์วิจารณ์ถึงหนังสือของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ได้รับการตีพิมพ์ในชื่อ "คิดอย่างยิ่งลักษณ์" และ "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร : นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของประเทศไทย" ซึ่งเพิ่งจะวางจำหน่ายไปเมื่อไม่นานมานี้
โดยได้ตั้งคำถามสำหรับหนังสือ "คิดอย่างยิ่งลักษณ์" ว่าเจ้าหล่อนนั้นมีความคิดด้วยหรือ ขณะที่หนังสือเล่มนี้ก็เป็นเล่มใหญ่ที่มีรูปเต็มไปหมด แสดงถึงภาพลักษณ์อันเป็นประจักษ์พยานในการใช้ตำแหน่งหน้าที่ไปไหนต่อไหน ได้เฝ้าไทต่างด้าวท้าวต่างแดนอย่างไร ๆ โดยใช้เงินแผ่นดินทั้งนั้น และให้ผลอะไรในทางที่เป็นคุณกับประเทศชาติบ้าง อย่างน้อยก็แสดงให้เห็นว่าประชาธิปไตยในรูปแบบนั้นเลวร้ายอย่างไร เพียงหย่อนบัตรลงคะแนนก็ให้คนเข้ามีอำนาจได้กระนั้นหรือ ความเลวร้ายที่อยู่หลังฉากเลือกตั้ง ไม่ต้องคำนึงถึงเลยหรือ
โดยเฉพาะหนังสือ "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร: นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของประเทศไทย" นั้น อดไม่ได้ ที่ต้องคิดเปรียบเทียบกับหนังสือที่แจกในงานฉลองหิรัญบัตรของพระพรหมเสนาบดี เจ้าอาวาสวัดปทุมคงคา ซึ่งเต็มไปด้วยรูปที่พระคุณท่านพบปะคนใหญ่คนโตแทบทั่วทั้งโลก รวมทั้งคนใหญ่คนโตภายในประเทศด้วย นี่ก็ดูว่าเจ้ากูรูปนี้แสดงบทบาทได้ แทบไม่ต่างไปจากนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกเอาเลย ไม่ปรากฏว่ามีผลงานของพระคุณท่านในทางธรรมเทศนาหรือธรรมปฏิบัติ และที่น่าเศร้ายิ่งไปกว่านั้นก็คือ เวลาพระคุณท่านไปที่ไหน ๆ มีการรีดไถเงินจากเจ้าคณะ พระสังฆาธิการใต้บังคับบัญชาให้เอามาส่งส่วย เจ้าคณะที่เหนือขึ้นไปอีกด้วย หวังว่า คำนินทาที่ว่านี้ จะไม่เป็นจริง ถ้าเป็นจริง ก็แสดงว่า การที่พระคุณท่านได้เลื่อนสมณศักดิ์อย่างรวดเร็วนั้น คงจะมีส่วนมาจากการหาเงินหาทองถวายผู้บังคับบัญชาของท่านกันมาโดยตลอดละกระมัง
นอกจากนี้ ส. ศิวรักษ์ ยังระบุว่า "คนที่ไม่มีความคิดอย่างยิ่งลักษณ์เป็นนายกรัฐมนตรีได้ เพราะ ทักษิณ ชินวัตร สั่งได้มิใช่หรือ เจ้าหล่อนอยู่อำนาจได้เพียงสองปีเศษ ได้นำความหายนะให้กับบ้านนี้เมืองนี้อย่างสาหัสสากรรจ์เพียงไร หนังสือทั้งสองเล่มนี้ย่อมไม่เอ่ยถึงอยู่แล้ว แค่จำนำข้าวเรื่องเดียว ก็ให้โทษขนาดไหน มิไยต้องเอ่ยถึง นโยบายต่อต้านอุทกภัย ที่ทำเขื่อนใหญ่และสูงจนทำลายระบบธรรมชาติดั้งเดิมจนหมดสิ้น เพียงแม่น้ำสะแกกรังแห่งเดียว วิถีชีวิตชาวแพของคนที่อุทัยธานี ก็ถึงความหายนะด้วยนโยบายนี้แท้ทีเดียว โดยมิใยต้องเอ่ยถึงเรื่องรถคันแรก ที่ทำให้จราจรติดขัดยิ่ง ๆ ขึ้นขนาดไหน ในขณะที่พ่อค้ารถรวยกันไปตาม ๆ"
ทั้งนี้ ส. ศิวรักษ์ ยังทิ้งท้ายว่า "เชื่อว่าหนังสือสองเล่มนี้ คงไม่มีสื่อมวลชนแห่งใดนำมาวิพากษ์วิจารณ์อย่างจริงจัง หรือถือว่านี่เป็นเอกสารโฆษณาชวนเชื่อก็เลยปล่อยกันไป นับว่าตัวใครตัวมัน เป็นการช่างหัวมัน อันเป็นโทษกับบ้านเมืองเป็นอย่างยิ่ง"
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Sulak Sivaraksa