สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ท้าสาบาน ไม่ได้ชู้สาวกับตำรวจหญิงหน้าห้อง ยัน ฝ่ายชายฆ่า เพราะเป็นการเข้าใจผิด
เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2558 พล.ต.อ. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เปิดเผยถึงกระแสข่าว ส.ต.อ. หญิง ณปภัช นวลเอียด ตำรวจประจำสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ถูกฆาตกรรมในห้องพักว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำงานหน้าห้องตน จึงเห็นควรที่จะออกมาพูดเรื่องนี้ โดยตั้งแต่ที่ตนเป็นรอง ผบ.ตร. ทาง ส.ต.อ. ณัตฐพงศ์ นวลเอียด สามีผู้ตาย ได้เป็นผู้ติดตามตนพักหนึ่ง ต่อมาเขาได้มาขอให้ช่วยตนย้ายพ่อของเขาซึ่งทำงานที่ ตชด. มาอยู่ที่ จ.สมุทรสงคราม ตนจึงดำเนินการให้ นอกจากนี้ เขายังบอกว่า มีภรรยาที่เป็น ตชด. หัวหิน อยากให้ย้ายมาช่วยที่สำนักงานได้ไหม เรื่องนี้ตนก็ตกลง เพราะสามีภรรยาทำงานใกล้กันนับเป็นเรื่องดี และประหยัดค่าใช้จ่าย อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้การพามา ตนไม่ได้รับรู้ เพราะมอบอำนาจให้นายเวรเป็นคนดำเนินการ เนื่องจากมีภารกิจมากมาย
ต่อมา ตนสังเกตพฤติกรรมของ ส.ต.อ. ณัตฐพงศ์ ก็พบว่าเป็นคนใจร้อน อารมณ์รุนแรง และมีการกระทำที่ไม่มีวินัย ตนจึงส่งกลับต้นสังกัด ซึ่งก่อนส่งตัวนั้น ตนก็ได้พูดคุยเรื่องที่ส่งตัวกลับ เขาบอกว่าไม่โกรธ เพราะรู้ตัวว่าเป็นความผิดของตัวเองที่ใจร้อน และเมื่อมีเหตุการณ์สังหาร ส.ต.อ. หญิง ณปภัช ขึ้น ตนตกใจมาก แต่ก็มั่นใจว่าเป็นฝีมือของ ส.ต.อ. ณัตฐพงศ์ แน่นอน เนื่องจากนิสัยของเขาเอง แต่ไม่ได้ทราบสาเหตุที่เกิดขึ้น
อย่างไรก็ตาม ตนได้รับรายงานจากนายเวรหน้าห้องว่า เมื่อวันที่ 22 เมษายนที่ผ่านมา ส.ต.อ. หญิง ณปภัช ได้มาบอกคณะทำงานหน้าห้องว่า อยากจะย้ายไปทำงานที่ตำรวจทางหลวง จ.อุทัยธานี และขอให้ย้ายสามีด้วย อย่างไรก็ตาม การแต่งตั้งครั้งนี้ยังไม่ถึงวาระ ยังไม่มีการพิจารณาอะไร ทั้งนี้ ตนเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และเหตุการณ์น่าจะเป็นเพราะ ส.ต.อ. ณัตฐพงศ์ คิดไปเองว่า ภรรยาจะโดนย้าย แต่ตัวเองไม่ได้ย้าย อีกทั้งยังมีการกดดันฝ่ายหญิงให้มาขอร้องให้ช่วยย้ายตัวเองด้วย
ขณะที่ประเด็นความสัมพันธ์กับตนและ ส.ต.อ. หญิง ณปภัช ตนมองว่าเป็นเรื่องขำ จะบอกว่า ตนสนิทกับนักข่าวหญิงมากกว่าผู้ใต้บังคับบัญชาเสียอีก และตำรวจหญิงไม่สามารถเข้าห้องตนคนเดียวได้ ไม่มีสิทธิ์อยู่กันสองต่อสอง ตนถือเรื่องนี้มาตลอด เอาผมไปสาบานที่วัดพระแก้วได้เลย ตนไม่เคยทำตัวเป็นสมภารกินไก่วัด ส่วนประเด็นที่ตนสั่งปิดข่าว ก็ขอปฏิเสธ เพราะตนกว่าจะรู้เรื่องก็เกือบ 2 ทุ่มแล้ว ตรงจุดนี้อาจเป็นสิ่งที่ผู้ใต้บังคับบัญชาสั่งปิดข่าวเอง ในประเด็นที่เอามีดปักกับนามบัตรตนนั้น อาจจะเป็นการโกรธแค้นที่คิดว่า ตนขวางการโยกย้ายตำแหน่ง
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
