คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน สนองนโยบาย นายกฯ สั่งยึดทรัพย์สินในความผิดฐานค้ามนุษย์แล้ว 262 เรื่อง รวมมูลค่ากว่า 189 ล้านบาท
วันที่ 7 พฤษภาคม 2558 พ.ต.อ. สีหนาท ประยูรรัตน์ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) กล่าวถึงการดำเนินการของ ปปง. ตามที่พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและห้วหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ประกาศให้เรื่องการป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ เป็นวาระแห่งชาติ เมื่อวันที่ 3 เมษายน และกำชับให้ทุกภาคส่วนบูรณาการการทำงานให้สอดคล้อง เพื่อนำไปสู่เป้าหมาย ว่า ปปง. ได้ตระหนักถึงผลกระทบของปัญหาการค้ามนุษย์และได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง โดยสามารถดำเนินการกับทรัพย์สินในความผิดฐานค้ามนุษย์ไปแล้ว จำนวน 262 เรื่อง รวมมูลค่าประมาณ 189 ล้านบาท ประกอบด้วย
1. ปปง. ได้ดำเนินการยึดและอายัดทรัพย์สินของผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ ตั้งแต่ พ.ศ.2543 ทั้งสิ้น 20 คดี มูลค่าทรัพย์สิน ประมาณ 120 ล้านบาท และศาลได้มีคำสั่งให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดินแล้ว ในความผิดมูลฐานตามมาตรา พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542
2. เมื่อกฎหมายค้ามนุษย์มีผลบังคับใช้ ในวันที่ 5 มิถุนายน 2551 ทาง ปปง. ได้ดำเนินการยึดและอายัดทรัพย์สินของผู้กระทำความผิดฐานค้ามนุษย์จำนวน 4 คดี มูลค่าทรัพย์สิน 37 ล้านบาท โดยแยกเป็นความผิดฐาน ค้ามนุษย์ 3 คดี มูลค่ากว่า 34 ล้านบาท และการแสวงหาประโยชน์ทางเพศในรูปแบบอื่น กรณีจ้างหญิงชาวเวียดนาม รับจ้างตั้งครรภ์ จำนวน 1 คดี มูลค่าประมาณ 3 ล้านบาท และศาลได้มีคำสั่งให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดินแล้ว
3. กรณีการค้ามนุษย์ชาวโรฮิงญา และบังคับใช้แรงงานที่ อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช ปปง. ได้ดำเนินการอายัดทรัพย์สิน ซึ่งเป็นเงินฝากในบัญชีธนาคารของบุคคลที่เป็นผู้จัดหายานพาหนะในการขนชาวโรฮิงญา และผู้ที่จัดหาที่พักพิง 121 รายการ มูลค่าประมาณ 32 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการส่งสำนวนให้อัยการยื่นคำร้องต่อศาลให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน นอกจากนี้ ปปง. ยังดำเนินการตรวจสอบติดตามทรัพย์สินเพิ่มเติม หากพบว่ามีทรัพย์สินจะได้ดำเนินการยึดและอายัดเพิ่มเติมต่อไป
ทั้งนี้ปัจจุบัน ปปง. ยังมีเรื่องที่อยู่ระหว่างการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานและตรวจสอบทรัพย์สินเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ อีก 160 เรื่อง อย่างไรก็ตามนอกจากยึด และอายัดทรัพย์สินแล้ว ปปง. ได้ดำเนินการสืบสวน รวบรวมพยานหลักฐาน และตรวจสอบทรัพย์สินผู้กระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ ซึ่งพบว่ามี 77 เรื่องซึ่งไม่ปรากฏทรัพย์สินที่สามารถดำเนินการได้ตามกฎหมาย แต่ถึงแม้ไม่พบทรัพย์สิน พนักงานสอบสวนก็ได้มีการดำเนินคดีในความผิดฐานค้ามนุษย์
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
