ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล ค้านแนวคิดกระทรวงการคลัง ขายหุ้นนำเงินอุดเจ๊งจำนำข้าว ชี้เสียภาพพจน์ ต่างชาติอาจมองเศรษฐกิจประเทศร่อแร่ แนะควรแยกการบริหารขาดทุนจำนำข้าวไว้ต่างหาก
เมื่อวานนี้ (26 พฤษภาคม 2558) นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในรัฐบาลของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ออกมาแสดงความเห็นถึงกรณีที่ นายสมหมาย ภาษี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ระบุว่าจะมีการขายหุ้นให้เอกชนวงเงิน 1 แสนล้านบาท ที่กระทรวงการคลังถือหุ้นอยู่ เพื่อนำเงินไปชำระหนี้ของรัฐบาลในอดีต ที่จะมีการออกกฎหมายพิเศษขึ้นมาดูแลหนี้ที่มีวงเงิน 7.2 แสนล้านบาท
โดยนายธีระชัย กล่าวว่า การที่กระทรวงการคลังจะขายหุ้นที่มีอยู่ เพื่อนำไปเติมส่วนที่ขาดของโครงการรับจำนำข้าว แนวคิดนี้ตนเคยเขียนไว้ในเฟซบุ๊กเมื่อปี 2557 แต่ปัจจุบันข้อมูลที่ได้เพิ่มเติมมา ทำให้ตนเปลี่ยนใจไม่เห็นด้วยกับแนวทางดังกล่าว เพราะ
1. เนื่องจากจะได้เงินไม่มาก จึงไม่คุ้มกับผลกระทบต่อภาพพจน์ นักวิเคราะห์สากลอาจจะพากันเข้าใจผิดว่า ฐานะประเทศร่อแร่เต็มที
2. ประชาชนจะเข้าใจไขว้เขวได้ว่า กระทรวงการคลังไม่จริงใจที่จะเรียกให้ผู้ที่ก่อความเสียหายต้องชดใช้ก่อน
3. การบริหารเงินกู้ระดับ 7-8 แสนล้านบาท กระทรวงการคลังสามารถทำได้ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว
4. การจะขายหุ้นใดหรือไม่เมื่อใด ควรพิจารณาแยกกันกับการบริหารการขาดทุนจำนำข้าว การเอาสองเรื่องมาปนกัน จะทำให้เกิดความเข้าใจผิด
5. การจะขายหุ้นควรจะมีการศึกษา และมีการตั้งคำถามใหญ่ ว่ารัฐบาลควรจะถือหุ้นอยุ่ในธุรกิจเอกชนหรือไม่ การถือต่อไป มีข้อดีข้อเสียอย่างไร รัฐบาลยังควรมีรัฐวิสาหกิจ หรือให้เอกชนทำกันเองทั้งหมดเหมือนบางประเทศ ต้องตอบโจทย์ในภาพใหญ่เสียก่อน
นอกจากนี้ตนขอเพิ่มเติมว่า หนี้ 7 แสนล้านบาทนี้ ควรจะมีกำหนดที่จะตั้งงบประมาณ เพื่อลดเงินต้นทุกปี เป็นกำหนดที่ประกาศล่วงหน้า และเพื่อผูกมัดรัฐบาลในอนาคตระดับหนึ่ง เพราะภาระนี้ไม่ควรปล่อยให้เป็นปัญหาของลูกหลาน แต่ทุกรัฐบาลตั้งแต่นี้ไป ต้องมีแผนประหยัดและหารายได้ เพื่อเคลียร์ปัญหานี้อย่างเป็นระบบ
ทั้งนี้การประกาศกำหนดการลดเงินต้นล่วงหน้า จะทำให้มีวินัยการคลังที่ดีในอนาคต และจะทำให้ประชาชนเข้าใจว่า กรณีเกิดมีนโยบายที่สร้างความเสียหาย ประชาชนจะต้องเข้ามาร่วมรับภาระ ผลได้ผลเสียทางการเมืองชัดเจนขึ้น อย่างไรก็ตามถึงแม้ส่วนหนึ่งกระทรวงการคลังจะต้องหาทางให้บุคคลต้นเหตุชดใช้ก็ตาม แต่กำหนดคืนหนี้ล่วงหน้าจะทำให้ประชาชนตระหนักว่า นโยบายที่สร้างความเสียหาย จะก่อหนี้ให้แก่ประชาชนทุกคนโดยอัตโนมัติ
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Thirachai Phuvanatnaranubala
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
