อดีตเชฟใหญ่เผยมุมน่ารักของในวิถีการกินของสมาชิกราชวงศ์อังกฤษ เจ้าฟ้าชายชาร์ส เจ้าหญิงไดอาน่า และโอรสทั้งสอง เรียบง่ายไม่ได้หรูหราอย่างที่คิด ส่วนเจ้าหญิงเคทลงครัวทำอาหารเอง กินอยู่เรียบง่ายเฉกเช่นครอบครัวธรรมดา
หากพูดถึงอาหารที่บุคคลชั้นสูงรับประทานกัน หลายท่านคงจินตนาการถึงอาหารอย่างดีปรุงจากวัตถุดิบชั้นเลิศ ราคาก็คงแพงระยับระดับที่คนธรรมดาไม่อาจเอื้อมถึง แต่เรื่องครัวภายในพระราชวังเคนซิงตันของราชวงศ์อังกฤษนั้นกลับเรียบง่ายและน่ารักกว่าที่คุณคิด "แคโรลิน ร็อบบ์" อดีตเชฟประจำครอบครัวราชวงศ์อังกฤษผู้ทำหน้าที่ดูแลเครื่องเสวยแด่เจ้าฟ้าชายชาร์ล เจ้าหญิงไดอาน่า เจ้าชายวิลเลียม และเจ้าชายแฮร์รี่ ในระหว่างปี 2532-2543 ได้เผยถึงเรื่องราวหลังครัวของราชวงศ์ให้คนทั่วไปได้ทราบกันในหนังสือ The Royal Touch และนิตยสาร racked ของอังกฤษมีโอกาสพูดคุยกับเธอ กระปุกดอทคอมจึงขอนำเรื่องราวหลังครัวของราชวงศ์อังกฤษมาฝากคุณผู้อ่านกันค่ะ
อาหารบนโต๊ะเสวยเน้นสดใหม่และโฮมเมด พืชผักปลูกเองในสวน
คาโรลิน ผู้จบด้านการทำอาหารโดยเฉพาะจากสถาบันเลอ กอร์ดอง เบลอ รับหน้าที่ปรุงอาหารให้ทั้งที่พระราชวังเคนซิงตันและพระตำหนักไฮโกรฟ เผยถึงมุมที่คนทั่ว ๆ ไปคิดไม่ถึงเกี่ยวกับอาหารการกินของครอบครัวเชื้อพระวงศ์ว่า วัตถุดิบอย่างผัก ผลไม้ และเห็ด ต่างเป็นผลผลิตโฮมเมดที่ปลูกกันภายในสวนภายในตำหนักนั่นเอง ทำให้มีวัตถุดิบสดใหม่ใช้เสมอทุกมื้ออาหาร ในภาพรวมแล้วเมนูของเจ้าฟ้าชายชาร์ลกับเจ้าหญิงไดอาน่าจึงค่อนข้างเฮลท์ตี้มาก แต่ไม่ได้ถึงกับต้องนับแคลอรี แค่ขอเป็นอาหารจากวัตถุดิบสด ๆ ก็พอ ส่วนในบางครั้งที่พระราชินีอลิซาเบธเสด็จมาร่วมเสวยด้วย พระองค์ก็โปรดอาหารโฮมเมดสดใหม่เช่นกัน
โปรดอาหารสดใหม่ ปรุงง่าย ๆ มากกว่าอาหารจากวัตถุดิบชั้นเลิศ
เมื่อถูกถามว่าเคยต้องปรุงอาหารจากวัตถุดิบหรู ๆ บ้างหรือไม่ แคโรลินเผยว่ามีบ้างเป็นครั้งคราวไป แต่โดยปกติยามอยู่ที่บ้าน ครอบครัวพระองค์โปรดอาหารง่าย ๆ สดใหม่ และเป็นโฮมเมดมากที่สุด ส่วนเรื่องวัตถุดิบหรู ๆ อย่างเห็ดทรัฟเฟิลหรือไข่ปลาคาเวียร์นั้น หากพระองค์ได้รับมอบเป็นของกำนัลมา มื้อนั้นก็จะมีเมนูไข่คาร์เวียร์เสิร์ฟ แต่เธอไม่เคยต้องซื้อของหรูมาปรุงอาหารเลย เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์เห็นว่าไม่จำเป็นต้องทำเช่นนั้น
กินเหลือแล้วใส่กล่องเก็บมาปรุงใหม่ในมื้อหน้า
เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ไม่ชอบให้กินอาหารเหลือทิ้ง ถ้ามีเหลือจริง ๆ ก็เก็บใส่กล่องทัพเพอร์แวร์แช่ตู้เย็นไว้สำหรับมื้อต่อไป อย่างถ้ามื้อค่ำนี้เสิร์ฟเนื้อแกะแล้วมีเหลือ มื้อค่ำวันถัดไปเนื้อที่เหลือก็ถูกนำมาปรุงใหม่เป็นพาย ครอบครัวพระองค์ค่อนข้างประหยัดดีทีเดียว ฉะนั้นเชฟอย่างเธอจึงค่อนข้างระมัดระวังมากในการปรุงอาหารเสิร์ฟในปริมาณที่เหมาะสม
อะไรที่สมาชิกราชวงศ์ไม่ชอบเสวย
"กระเทียม" เป็นสิ่งที่ไม่มีใครชอบกินเอาเสียเลย ด้วยเหตุผลง่าย ๆ ก็คือ ทุกพระองค์ต่างต้องทรงงานที่พบปะผู้คนเป็นจำนวนมาก และคงจะดูไม่ดีหากว่าลมหายใจมีกลิ่นกระเทียม
พิธีการบนโต๊ะอาหาร
เมื่อคิดถึงยามที่สมาชิกราชวงศ์อังกฤษเสวยอาหาร คงจะนั่งกันบนโต๊ะยาว มีบริกรเคยดูแลเสิร์ฟอาหาร ดูเป็นพิธีการตามแบบแผน ซึ่งแคโรลินเผยว่าก็แล้วแต่มื้อ ๆ ไป บางครั้งก็ตั้งโต๊ะรับประทานกันอย่างเป็นพิธีการ แต่มื้อที่เรียบง่ายรับประทานกันอย่างเป็นส่วนตัว ก็จัดเสิร์ฟไว้ในถาดนั่งเสวยกันข้างเตาผิงก็มีเช่นกัน
อุปนิสัยการกินของเจ้าชายทั้งสอง
นางแคโรลินเผยว่า เรื่องอาหารการกินของเจ้าชายทั้งสองเมื่อทรงพระเยาว์ ก็ได้เจ้าหญิงไดอาน่าเป็นผู้เลือกให้ว่าโอรสทั้งสองต้องกินอะไร ซึ่งก็จะปลูกฝังให้อยู่ง่ายกินง่ายเหมือนคนทั่ว ๆ ไป ส่วนตอนสมัยเด็ก ๆ เจ้าชายทั้งสองก็ลงมาทำครัวบ้าง เคยทำขนมง่าย ๆ อย่างคุกกี้และเมอร์แรงค์ เมื่อเข้าช่วงวัยรุ่นก็มีมาให้สอบทำเมนูง่าย ๆ อย่างสปาเกตตีบ้าง แต่ส่วนใหญ่แล้วเจ้าชายก็ลงมือเองบ่อยนัก
เรื่องในครัวของเจ้าหญิงเคท ดูแลงานครัวเอง ไม่มีเชฟประจำ
แม้ในตอนนี้แคโรลินจะไม่ได้ทำงานเป็นเชฟประจำครอบครัวราชวงศ์แล้ว แต่ก็ยังพอทราบเรื่องหลังครัวของคนในอยู่บ้าง เมื่อถูกถามถึงเรื่องอาหารการกินของเจ้าหญิงเคท ดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ เธอก็เผยว่า เท่าที่ทราบมาเจ้าหญิงเคทไม่มีเชฟประจำ พระองค์ดูแลเรื่องอาหารและลงครัวเอง ทำอาหารกินและทานกันบนโต๊ะอาหารพร้อมหน้าพร้อมตาเหมือนกับครอบครัวทั่ว ๆ ไป อันเป็นวิถีครอบครัวอย่างที่เจ้าหญิงเติบโตขึ้นมา ซึ่งเจ้าชายวิลเลียมเองก็โปรดที่เป็นเช่นนี้ และคิดว่าทั้งสองพระองค์คงอยากจะรักษาวิถีชีวิตเรียบง่ายนี้ไว้ให้นานที่สุดเช่นกัน