วินธัย สุวารี จวก ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ โจมตี รัฐธรรมนูญ เหตุไม่โดนใจตัวเอง ชี้อ้าง 2 มาตรฐาน แค่วาทกรรมทางการเมือง ย้ำประเทศมีมาตรฐานเดียว ย้อนถามเอาอะไรมาวัดประชาธิปไตย
วันที่ 27 พฤษภาคม 2558 พ.อ. วินธัย สุวารี โฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และโฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีที่ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ออกมาระบุว่า ข้อเสนอแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญที่ทำในนามคณะรัฐมนตรี (ครม.) เหมือนเป็นการลงนามของ คสช. เพราะ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ทำหน้าที่ในการลงนาม ว่า เรื่องร่างรัฐธรรมนูญนั้น คสช. มีหน้าที่ในการสนับสนุนอำนวยความสะดวก เพื่อให้การจัดทำรัฐธรรมนูญเป็นไปตามกรอบเวลา สำหรับข้อเสนอในนามของ ครม. ไม่ใช่ข้อเสนอของ พล.อ. ประยุทธ์ เพียงคนเดียว แต่เป็นลักษณะกลุ่มคณะ ทุกอย่างเป็นไปตามกรอบของรัฐธรรมนูญชั่วคราว ปี 2557
ส่วนที่นายณัฐวุฒิ ตั้งข้อสังเกตว่า คสช. ไม่มีการพูดถึงเรื่องที่มาของนายกฯ คนนอก ตลอดจนที่มาของ ส.ส. และ ส.ว. เท่ากับชูธงเห็นด้วยนั้น คงเป็นเพียงมุมมองที่ไม่ตรงใจนายณัฐวุฒิอยู่แล้ว นอกจากนี้ข้อเสนอที่ทาง ครม. มีต่อคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญในครั้งนี้ ส่วนใหญ่จะเน้นความเกี่ยวข้องในเชิงการบริหารราชการ ที่อาจต้องมีความสัมพันธ์หรือเชื่อมโยงกับรัฐธรรมนูญ ส่วนเรื่องที่เป็นประเด็นในด้านการเมืองนั้นไม่ใช่เรื่องที่เกี่ยวข้องโดยตรง
สำหรับประเด็นที่นายณัฐวุฒิ มองว่าจนถึงขณะนี้ไม่มีอะไรเป็นหลักประกันว่าเนื้อหารัฐธรรมนูญเป็นประชาธิปไตยนั้น เป็นเพียงมุมมองส่วนตัวของนายณัฐวุฒิ ที่เห็นเนื้อหาบางส่วนในร่างรัฐธรรมนูญไม่ตรงกับใจตัวเอง เพราะขณะนี้เนื้อหาบางส่วนก็ยังอยู่ในระหว่างดำเนินการปรับแก้ โดยคำกล่าวอ้างของนายณัฐวุฒิ ไม่ชัดเจนว่าจะใช้มาตรฐานอะไรมากำหนด เพื่อพิสูจน์ความเป็นประชาธิปไตย จึงอยากให้ใช้เวลาและมองที่ผลสัมฤทธิ์ที่ตามมามากกว่า อีกทั้งที่นายณัฐวุฒิ ออกมาระบุว่าประเทศไทยมี 2 มาตรฐาน นั้น ที่ผ่านมาเป็นเรื่องของการใช้วาทกรรมทางการเมือง เมื่อตนเองหรือพวกพ้องเสียผลประโยชน์ เพราะจริง ๆ แล้ว ประเทศไทยมีแค่มาตรฐานเดียว คือมาตรฐานตามกฎหมาย
ทั้งนี้หลักประกันของประเทศในอนาคตนั้น เป็นสิ่งที่หัวหน้า คสช. ห่วงใย และไม่ต้องการให้ประเทศกลับไปเผชิญปัญหาแบบเดิม จึงได้พยายามให้ผู้ที่รับผิดชอบในงานต่าง ๆ ร่วมกันคิดหาแนวทางในการสร้างหลักประกัน เป็นความปรารถนาและความตั้งใจจริงต่อประเทศชาติและประชาชน ขออย่าแปรเจตนาในเชิงลบ เพราะเป็นเรื่องที่ทุกส่วนต้องช่วยกันคิดช่วยกันสร้างให้เกิดขึ้น
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
