เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2558 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีสมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม คือ คุณ สมาชิกหมายเลข 2388962 ได้โพสต์ข้อความระบายความทุกข์ทนของตนเองและคนที่อาศัยอยู่ในชุมชน ที่ต้องทนอยู่กับกลิ่นไม่พึงประสงค์จากบ้านหลังหนึ่งในชุมชนมาเป็นเวลานานหลายปี โดยระบุว่า...
"ในชุมชนพงษ์เพชรแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ มีอยู่บ้านหนึ่ง ไม่รู้โรคจิตหรืออย่างไร เอาขี้หมาใส่ถุง แล้วเอามาแขวนไว้หน้าบ้าน ตอนเช้า ๆ จะออกมารดน้ำ เพื่อให้มีกลิ่นเหม็นครับ ตอนนี้คนในชุมชนมีสุขภาพแย่ครับ ได้กลิ่นเหม็นของขี้หมาครับ ได้ทำการแจ้งเขตฟ้องศาลไปแล้ว ทหารมาก็ถูกด่ากลับไป ไม่เห็นมีใครทำอะไรได้ รบกวนผู้มีส่วนเกี่ยวข้องช่วยจัดการทีครับ จะเป็นพระคุณอย่างยิ่งกับคนในชุมชนครับ ขอบคุณครับ"
ทั้งนี้หลังจากข้อความดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไปก็มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็น อาทิ การทำแบบนี้ เพื่อป้องกันคนมาจอดรถหน้าบ้านบ้าง, เป็นวิธีป้องกันหมามาขี้หน้าบ้าน หรือเจ้าของบ้านหลังดังกล่าวสติไม่ดีหรือไม่ เป็นต้น
และในเวลาต่อมา คุณ KARNT สมาชิกเว็บไซต์พันทิป ก็มาโพสต์ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบ้านหลังดังกล่าว โดยระบุว่า
อ่านเจอในบทความนี้ (link ด้านล่าง) ว่า แกเลี้ยงหมาไว้ประมาณ 11 ตัว และแขวนถุงแบบนี้ไว้ทั้งในและนอกรั้วบ้าน
คนแถวนั้นเคยร้องเรียนไปที่เขตและผู้อำนวยการเขตก็มาตรวจสอบ ก่อนสั่งให้เจ้าของบ้าน/เจ้าของถุงจัดการเอาไปทำลายให้เรียบร้อย (บทความบอกว่าตอนนั้นมีประมาณ 150-200 ถุง) แต่แกไม่ยอม และโต้แย้งไปที่กระทรวงสาธารณสุขว่าไม่ใช่ขี้หมา เป็น "เศษพืชผักหมักชีวภาพ"
"...กระทรวงสาธารณสุขก็เลยรีบส่งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ ก็มีความเห็นตรงกับผู้อำนวยการเขตว่า ถุงพลาสติกเหล่านี้มีกลิ่นเหม็นเน่ารุนแรงมาก แต่สำหรับก้อนสีดำไม่อาจยืนยันได้ว่าเป็นขี้หมาหรือจุลินทรีย์หมัก..."
เจ้าของ "ถุงปริศนา" ก็เลยไปฟ้องศาลปกครอง (คดีหมายเลขแดงที่ อ. 378/2551) และศาลปกครองสูงสุดพิพากษายกฟ้อง คือแปลว่า คำสั่งของ ผอ. เขตที่ให้เก็บถุงขี้หมาชีวภาพไปทำลายนั้นชอบด้วยกฎหมายแล้ว
(คัดมาบางส่วนนะครับ อ่านฉบับเต็มได้ตาม link ด้านล่าง)
"...คู่ความสู้คดีกันอยู่พักหนึ่ง ผลปรากฏว่าศาลปกครองสูงสุดท่านก็ได้วินิจฉัยว่า เมื่อผู้อำนวยการเขตได้รับเรื่องร้องเรียน จึงได้ไปตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่า ผู้ฟ้องคดีเลี้ยงสุนัขไว้หลายตัว และบริเวณหน้าบ้านผู้ฟ้องคดีมีถุงพลาสติก ซึ่งภายในมีก้อนวัสดุสีดำบรรจุอยู่ทุกถุงและมีกลิ่นเหม็น และกระทรวงสาธารณสุขก็ได้ไปตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่า ผู้ฟ้องคดีเลี้ยงสุนัขไว้ประมาณ 11 ตัว และมีถุงพลาสติกแขวนไว้ตามต้นไม้และรั้วบ้าน ภายในบรรจุจุลินทรีย์ซึ่งมีการหมักโดยวิธีที่ไม่ถูกต้องตามหลักวิชาการ จึงเกิดการเน่าเสียและมีกลิ่นเหม็นมาก
แม้ข้อเท็จจริงจากการตรวจสอบของผู้อำนวยการเขตและกระทรวงสาธารณสุขจะมีผลไม่ตรงกันว่ามีสิ่งใดบรรจุอยู่ในถุงพลาสติกที่ผู้ฟ้องคดีแขวนไว้ แต่ผลจากการตรวจสอบตรงกันในประเด็นที่ว่าสิ่งที่บรรจุอยู่ภายในถุงนั้น มีกลิ่นเหม็นมากและสร้างความเดือดร้อนรำคาญให้ผู้ที่อยู่อาศัยในบริเวณใกล้เคียงและผู้สัญจรไปมา
อีกทั้งบ้านของผู้ฟ้องคดีก่อให้เกิดกลิ่นเหม็น หรือสกปรก หรือน่าจะเป็นที่เพาะพันธุ์และพาหะนำโรค และอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ อันถือได้ว่าเป็นเหตุเดือดร้อนรำคาญตามกฎหมาย การที่ผู้อำนวยการเขตมีคำสั่งให้ผู้ฟ้องคดีแก้ไขและระงับเหตุรำคาญภายในระยะเวลาที่กำหนด จึงชอบด้วยกฎหมายแล้ว ศาลปกครองสูงสุดจึงพิพากษายกฟ้องของผู้ฟ้องคดี ซึ่งเท่ากับเป็นการรับรองว่า การออกคำสั่งของผู้อำนวยการเขตเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อมที่ดีให้แก่ชุมชน เป็นการกระทำที่ถูกต้องตามเจตนารมณ์ของกฎหมายแล้ว..."
ดูจากหมายเลขคดี น่าจะเป็นปี 2551 (?) แปลว่าหลังศาลปกครองสูงสุดพิพากษา เจ้าของบ้าน/เจ้าของถุงก็ยังคงดื้อแพ่งต่อมาอีกหลายปีมาก - -"
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
คุณ สมาชิกหมายเลข 2388962 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม