สภานิติบัญญัติแห่งชาติ นัดเปิดสำนวนคดีถอดถอน อดีต ส.ส. จำนวน 248 คน ปมแก้ไขรัฐธรรมนูญ ประเด็นที่มา ส.ว. ค้านผู้ถูกกล่าวหาขอพยานเพิ่ม
วันที่ 26 มิถุนายน 2558 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) คนที่ 1 ได้ทำหน้าที่เป็นประธานในการประชุม สนช. เพื่อดำเนินการกระบวนการถอดถอน อดีต ส.ส. จำนวน 248 คน ตามมาตรา 6 วรรค 2 ของรัฐธรรมนูญฯ ฉบับชั่วคราว 2557 ประกอบมาตรา 64 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต 2542 กรณียื่นแก้ไขรัฐธรรมนูญประเด็นที่มาของ ส.ว. โดยมิชอบ
โดยนายสุรชัย กล่าวว่า คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้แบ่งฐานความผิดออกเป็น 3 กลุ่ม
กลุ่มที่ 1 มีอดีต ส.ส. จำนวน 239 คนที่ร่วมลงชื่อเสนอญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญประเด็นที่มาของ ส.ว. รวมทั้งพิจารณา และลงมติในวาระ 1 วาระ 2 และลงมติในวาระ 3 โดยถือว่าจงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ
กลุ่มที่ 2 อดีต ส.ส. จำนวน 1 คน ที่ลงชื่อเสนอญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญฯ พิจารณา และลงมติในวาระ 2 และวาระ 3 ซึ่ง ป.ป.ช. ได้ชี้มูลความผิดขัดต่อบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ มาตรา 291 อนุ 1 วรรคหนึ่ง
กลุ่มที่ 3 อดีต ส.ส. จำนวน 10 คน ที่ร่วมกันลงชื่อเสนอญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญ พิจารณา และลงมติในวาระที่ 1 และวาระที่ 3 โดยถือว่าจงใจใช้อำนาจขัดต่อบัญญัติรัฐธรรมนูญ มาตรา 291 อนุ 1 วรรคหนึ่ง
ทั้งนี้ที่ประชุมได้กำหนดวันแถลงเปิดสำนวนคดีของ ป.ป.ช. และอดีต ส.ส. 248 คน ในวันที่ 15-16 กรกฎาคม 2558 เวลา 10.00 น. พร้อมแจ้งให้สมาชิกสามารถยื่นญัตติซักถามคู่กรณีได้ถึงวันที่ 20 กรกฎาคม 2558 ภายในเวลา 12.00 น.
ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า จากนั้นที่ประชุม สนช. ได้พิจารณาคำขอเพิ่มเติมพยานหลักฐานของผู้ถูกกล่าวหา ซึ่งมีนายสามารถ แก้วมีชัย อดีต ส.ส. เชียงราย และอดีต ส.ส. พรรคเพื่อไทย หลายคนร่วมชี้แจง
อย่างไรก็ตาม เมื่อ นายสุรชัย ได้ขอให้สมาชิกลงมติว่าจะอนุญาตให้ผู้ถูกกล่าวหาเพิ่มเติมพยานหลักฐานทั้งหมด 6 คำขอ 7 รายการหรือไม่ ผลปรากฏว่า สมาชิก สนช. มีมติไม่อนุญาตให้ผู้ถูกกล่าวหาเพิ่มพยานหลักฐานทั้งหมด
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
