x close

14 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับเครื่องบินที่กัปตันโดนถามบ่อยมาก !



14 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับเครื่องบินที่กัปตันโดนถามบ่อยมาก !


             รวมเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับเครื่องบินที่ผู้โดยสารมักสอบถามกัปตันบ่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องน้ำมันของเครื่องบิน หรือทำไมเครื่องบินถึงลอยได้ มาหาคำตอบพร้อม ๆ กันเลย


             หลาย ๆ คนคงมีข้อสงสัยว่า การนำเครื่องบินขึ้นแต่ละครั้ง ต้องทำอย่างไร มีนักบินบนเครื่องกี่คน การทำงานของเครื่องยนต์ หรือแม้แต่น้ำมันสำหรับเครื่องบิน คือ น้ำมันอะไรกันแน่ และเพื่อเป็นการไขข้อสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้ เราจะพาไปหาคำตอบจากกระทู้เลอค่า "รวมเรื่องน่ารู้ ! 10 คำถามที่กัปตันโดนถามบ่อยมาก !! พร้อมภาพจริง ! จากห้องนักบิน รู้ไว้เป็นประโยชน์มาก" โดยคุณ Turn JetRider สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอมแต่งานนี้ตอบไป ตอบมา ก็มีผู้สนใจเข้ามาสอบถามมากมาย จนเจ้าของเรื่องต้องขยายคำถามจาก 10 ข้อ เป็น 14 ข้อเลยทีเดียว

             ส่วนคำถามที่หลาย ๆ คนสงสัย จะมีคำตอบแบบไหนบ้างนั้น ลองไปดูพร้อม ๆ กันเลย

             รวมเรื่องน่ารู้ ! 10 คำถามที่กัปตันโดนถามบ่อยมาก !! พร้อมภาพจริง ! จากห้องนักบิน รู้ไว้เป็นประโยชน์มาก โดย คุณ Turn JetRider

             เวลาใครรู้ว่าผมเป็นกัปตันก็มักจะมีคำถามเรื่องการบินมาถาม บางทีก็เป็นเรื่องทั่ว ๆ ไป  บางเรื่องเล่นเอาคนถูกถามถึงกับงงกันพักใหญ่ หรือบางเรื่องก็เกี่ยวกับความปลอดภัย ซึ่งทุกคนที่ขึ้นเครื่องบินควรจะทราบไว้นะครับ

             วันนี้ก็เลยขอรวบรวมมาเล่าให้ทุกคนฟังพร้อมกันครับ

 1. ข้อแรกที่ผมโดนถามเยอะมาก คือคำถามแนว ๆ ว่าปกตินักบินทำอะไรกัน แค่กดปุ่มออโต้ไพลอต เครื่องมันก็บินไปเองเลยเหรอ ขับเครื่องบินกันกี่คน หรือตอนบินทำอะไรกันบ้าง


14 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับเครื่องบินที่กัปตันโดนถามบ่อยมาก !

             ผมเล่าให้ฟังแบบนี้นะครับ !!!

             เครื่องบินสมัยใหม่จะใช้นักบิน 2 คน ในการบิน คนเป็นกัปตันจะนั่งทางซ้าย คนเป็นนักบินที่ 1 หรือโคไพลอต จะนั่งทางขวา หน้าที่ในการบินจะแบ่งเป็น 2 ส่วนใหญ่ ๆ คือ การบังคับเครื่องบิน กับการติดต่อสื่อสาร

             ก่อนการบินแต่ละไฟลต์ กัปตันจะเป็นคนกำหนดว่า ใครจะทำหน้าที่ไหน ซึ่งต้องชัดเจนครับ เพื่อป้องกันการสับสนระหว่างบิน โดยปกติก็จะสลับหน้าที่กันคนละไฟลต์ คนรับหน้าที่บินจะสนใจเฉพาะเรื่องการบังคับเครื่องบินให้ไปตามที่ต้องการอย่างเดียว ส่วนเรื่องอื่น ๆ คนทำหน้าที่ติดต่อสื่อสารจะเป็นคนจัดการ

             +++ กฎที่สำคัญมาก ๆ คือ ไม่ว่าใครจะทำอะไร ต้องบอกอีกคนด้วยทุกครั้ง เพื่อให้ช่วยเช็กว่าทำถูกต้อง +++

             แต่ไม่ว่าใครจะทำหน้าที่ไหน กัปตันจะเป็นคนควบคุมภาพรวมทั้งหมดเพื่อให้บินได้อย่างปลอดภัยที่สุดครับ

             >>> “เรื่องความปลอดภัย ไม่มีการต่อรองนะครับ” <<<


2. เครื่องบินมันลอยขึ้นไปได้ยังไง ??

             แต่ก่อนผมเคยสงสัยว่าปีกเครื่องบินมันไม่ได้กระพือขึ้นลงเหมือนปีกนก แล้วมันทำให้เครื่องบินลอยขึ้นไปได้ยังไง

14 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับเครื่องบินที่กัปตันโดนถามบ่อยมาก !

             หลักการคร่าว ๆ นะครับ เครื่องบินลอยขึ้นได้เพราะ 2 ส่วนใหญ่ ๆ คือ เครื่องยนต์ กับปีก 

             ผมขอเริ่มจากเครื่องยนต์ก่อนนะครับ

             ไม่ว่าจะเป็นเครื่องยนต์ไอพ่น หรือใบพัด หลักการของมันเหมือนกันคือ การหมุนเพื่อดึงอากาศจากด้านหน้าเข้ามาแล้วปล่อยออกไปข้างหลัง ...คิดง่าย ๆ เหมือนพัดลมวางกลับหลังนั้นแหละครับ

             เมื่อมันดึงอากาศเข้ามาแรง ๆ ตัวเครื่องบินก็จะเคลื่อนไปข้างหน้า

             เมื่อเครื่องบินเคลื่อนไปข้างหน้าได้เร็วพอ คราวนี้ก็จะเป็นหน้าที่ขอปีกละครับ

             เจ้าปีกเหล็กแข็ง ๆ  มันทำให้เครื่องบินลอยขึ้นได้เพราะลักษณะโครงสร้างของมัน ที่ด้านบนจะโค้งนูน ส่วนด้านล่างจะเรียบตรง

14 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับเครื่องบินที่กัปตันโดนถามบ่อยมาก !

             เมื่อเครื่องบินเคลื่อนไปข้างหน้า จะมีกระแสอากาศไหลผ่านไปที่ปีก ความโค้งนูนของปีกด้านบน จะทำให้กระแสอากาศไหลผ่านไปเร็วกว่ากระแสอากาศใต้ปีก

             เมื่อไหลเร็วกว่า ก็ทำให้อากาศมีความหนาแน่นน้อยกว่า ส่วนอากาศด้านใต้ปีกที่ไหลผ่านผิวเรียบตรง จะมีความเร็วช้ากว่าทำให้มีความหนาแน่นมากกว่า

             และเมื่อมีความเร็วมากพอ ก็สามารถยกปีกเครื่องบินให้ลอยขึ้นได้ครับ

             +++ พิสูจน์กันง่าย ๆ ครับ+++   เอากระดาษ A4 มาหนึ่งแผ่น ให้จับกระดาษทางด้านแคบยกขึ้น ปลายกระดาษอีกด้านก็จะตกลงถูกไหมครับ ลักษณะนี้ก็เหมือนผิวโค้งนูนของปีกด้านบน ทีนี้ลองเป่าลมให้ผ่านโดนผิวด้านบนของกระดาษช่วงโค้งครับ เป่าผ่านนิ้วเราที่อยู่ด้านบนกระดาษนั่นแหละ >>> ปลายกระดาษอีกด้านมันลอยขึ้นมาใช่ไหมครับ!!!

3. เครื่องบินเติมโซฮอล์ 95 เหมือนกันไหม (ผมไม่ได้มุกนะ มีคนถามคำถามนี้จริง ๆ)

14 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับเครื่องบินที่กัปตันโดนถามบ่อยมาก !

             น้ำมันเครื่องบินเป็นน้ำมันสำหรับเครื่องเจ็ทโดยเฉพาะครับ

             +++เอาน้ำมันรถมาเติมเครื่องบินไม่ได้นะ ส่วนน้ำมันเครื่องบินมีคนบอกว่าเอาไปเติมรถพอได้ แต่วิ่ง ๆ ไปเครื่องอาจพังนะครับ +++

             *** แก้ไขข้อมูลแล้วนะครับ ขออภัยถ้ามีข้อมูลผิดพลาด และขอบคุณทุกคำแนะนำครับ ***

             >>> รถที่เห็นนี้คือรถเติมน้ำมัน มีหน้าที่มาดูดน้ำมันจากท่อส่งน้ำมันใต้พื้นสนามบิน เพื่อเติมเข้าที่ปีกเครื่องครับ <<<

4. ตอน Take Off เครื่องบินความเร็วเท่าไร

14 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับเครื่องบินที่กัปตันโดนถามบ่อยมาก !

             เครื่องบินเทคออฟแต่ละครั้งใช้ความเร็วไม่เท่ากันครับ ขึ้นอยู่หลายปัจจัย เช่น ความยาวของรันเวย์ สภาพดินฟ้าอากาศ ภูมิประเทศของสนามบิน และที่สำคัญที่สุดคือน้ำหนักของเครื่องบิน ถ้าน้ำหนักมาก ก็ต้องใช้ความเร็วสูงครับ

             +++ ถ้าเครื่องใหญ่ ความเร็วเฉลี่ยก็ประมาณ 140-160 นอต หรือ ประมาณ 260-300 กม./ชม. ครับ+++

             ** ตัวเลขที่เห็นบนพื้นรันเวย์ คือเลขที่บอกว่ารันเวย์เส้นนี้อยู่ในทิศเท่าไรตามเข็มทิศครับ เช่น 25 ก็คือ ทิศ 250 องศา หรือ ตะวันตกเฉียงใต้โดยประมาณครับ***


5. เครื่องบินมีถนนหรือเปล่า

           +++ มีครับ+++

14 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับเครื่องบินที่กัปตันโดนถามบ่อยมาก !

             ขับเครื่องบินก็มีถนนให้ไปเหมือนกันครับ เพียงแต่ถนนของเครื่องบินเกิดจากการกำหนดจุดจากตำแหน่งเส้นรุ้ง เส้นแวง หรือละติจูด ลองติจูด แล้วลากเส้นเชื่อมต่อกัน เช่น จากในรูป จุด BUTRI ก็คือตำแหน่งหนึ่งที่ถูกกำหนดขึ้น จุด IDOKA ก็คืออีกตำแหน่ง

             เวลาบิน เราก็จะไปตามเส้นนี้ โดยใช้ดาวเทียมเป็นตัวดูว่า เราบินอยู่ตรงจุด และเส้นที่กำหนดไหม

             >> ส่วนในภาพที่เป็นแถบสีเขียว เหลือง แดง นั่นคือนักบินเปิดเรดาร์ตรวจจับสภาพอากาศครับ มันจะจับละอองน้ำในอากาศ มาแสดงบนจอ เขียวคือน้อยสุด แดงคือมากที่สุด ซึ่งโดยปกตินักบินจะบินหลบครับ เพราะถ้าเข้าไปจะทำให้เครื่องสั่น ยิ่งถ้าแดงนี่ยิ่งห้ามเข้าเด็ดขาดครับ <<

6. เครื่องบินมีเยอะแยะ ทำไมถึงไม่ชนกัน

14 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับเครื่องบินที่กัปตันโดนถามบ่อยมาก !

             นอกจากเครื่องบินจะมีถนนแล้ว เรายังมีระดับความสูงที่บินต่างกันด้วยนะครับ หน่วยที่ใช้เกือบทั้งโลกจะเป็นฟุต ยกเว้นพี่จีน ที่กำหนดเป็นเมตร

             ข้อกำหนดเกือบทั่วโลก คือ เครื่องบินที่บินไปทางทิศตะวันออก จะบินความสูงหลักพันฟุตที่เป็นเลขคี่ เช่น 35,000 ฟุต, 37,000 ฟุต หรือ 39,000 ฟุต

             ส่วนเครื่องบินที่บินไปทางทิศตะวันตก จะบินความสูงหลักพันฟุตที่เป็นเลขคู่ เช่น 36,000 ฟุต, 38,000 ฟุต หรือ 40,000 ฟุต

             เพราะฉะนั้น เครื่องบินที่บินไปทางเดียวกันจะสูงต่างกันอย่างน้อย 2,000 ฟุต และเครื่องบินที่บินสวนกัน ก็จะสูงต่างกันอย่างน้อย 1,000 ฟุต ครับ

             >>> รูปแรกถ่ายตอนบินตามเครื่องที่อยู่สูงกว่า 4,000 ฟุต <<< >>> ส่วนรูปที่ 2 ถ่ายตอนอยู่ใต้เครื่องที่บินสูงกว่า 2,000 ฟุตครับ <<<

             **ขอบคุณรูปสวย ๆ จากกัปตันเดฟนะครับ**

7. ที่เครื่องตกหลุมอากาศ มันเป็นยังไงพี่

14 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับเครื่องบินที่กัปตันโดนถามบ่อยมาก !

             +++ จริง ๆ แล้วอากาศไม่มีหลุมให้ตกนะครับ +++

             เวลาที่เครื่องเกิดอาการสั่นเกิดได้จากหลายสาเหตุครับ เช่น กระแสอากาศที่บินผ่านไม่นิ่ง กระแสลมแรงมาก ลมเปลี่ยนทางอย่างรวดเร็ว อุณหภูมิภายนอกเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว หรือบินไปเจอเมฆ ซึ่งทำให้เกิดกระแสอากาศแปรปรวน พอเราบินเข้าไปเครื่องก็เลยสั่น

             ถ้าเป็นก้อนเมฆ นักบินมองเห็น หรือเรดาร์จับได้แบบตามรูปในคำถามที่ 5 ก็จะบินหลบกัน

             แต่ก็มีแบบที่นักบินไม่รู้นะครับ ฟ้าใส ๆ แบบในรูปนี่เลย แต่ทำให้เครื่องสั่นรุนแรง ภาษานักบินเรียกว่า Clear Air Turbulence  รู้อีกทีก็เจอเข้าแล้ว และไม่รู้ด้วยว่าเมื่อไหร่จะหมด บางครั้งอาจทำให้สั่นรุนแรงมากจนตัวลอยกันเลย ซึ่งอันตรายครับ  และนี่คือที่มาของประโยคที่ได้ยินทุกครั้งที่ขึ้นเครื่องบิน

             >>> สวัสดีครับท่านผู้โดยสาร ผมกัปตันครับ เพื่อความปลอดภัย ผมขอแนะนำให้ท่านผู้โดยสาร กรุณารัดสายเข็มขัดที่นั่งตลอดเวลาที่นั่งอยู่กับที่นะครับ <<<

             ## รัดเถอะครับ เชื่อผม !! ##


8. เวลาบินผ่านขั้วโลก เห็นอะไรบ้าง

14 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับเครื่องบินที่กัปตันโดนถามบ่อยมาก !

             >>> ตอบได้สั้น ๆ ว่า “ขาว” ครับ ทุกอย่างขาว ขาว และขาว <<<

             ทั้ง 2 ภาพนี้ผมถ่ายตอนบินตรงจากกรุงเทพฯ ไปนิวยอร์ก ครับ เส้นทางบินคือ จากกรุงเทพฯ บินขึ้นเหนือผ่านจีน มองโกเลีย รัสเซีย ข้ามขั้วโลกเหนือ ผ่านอลาสก้า แคนาดา แวะชะโงกดูน้ำตกไนแองการาแบบไกลลิบ ๆ แล้วก็เข้าอเมริกา

             ช่วงที่ผ่านรัสเซีย ขั้วโลกเหนือ อลาสก้า ก็จะเป็นทะเลน้ำแข็ง กับภูเขาน้ำแข็งแบบนี้ไปตลอดหลายชั่วโมงครับ

             เคยเห็นแสงเหนือ หรือ “ออโรร่า” ด้วยครับ แต่เสียดาย ไม่มีกล้อง!!!

9. ตอนเทคออฟ กับแลนดิ้ง อันไหนยากกว่ากัน

14 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับเครื่องบินที่กัปตันโดนถามบ่อยมาก !

             >>> ตอบเลยว่า ยาก ทั้งคู่ครับ <<<

             +++ ตอนวิ่งขึ้น หรือเทคออฟ เครื่องน้ำหนักเยอะ น้ำมันเต็มปีก นักบินต้องเร่งความเร็วจนเครื่องถึงความเร็วที่สามารถยกตัวขึ้นได้ ความยากอยู่ที่ ที่ความเร็วเกือบ 300 กม./ชม. เราต้องคอยระวังว่า ถ้าเกิดสิ่งผิดปกติขึ้น กัปตันต้องตัดสินใจว่าจะหยุดเครื่อง หรือจะบังคับเครื่องขึ้นต่อ มันคือการตัดสินใจในเสี้ยววินาที ซึ่งในการฝึก เราจะฝึกเรื่องนี้กันตลอดครับ

             +++ ส่วนการนำเครื่องลงสนาม หรือ แลนดิ้ง คือการบังคับเครื่องบิน ให้ลงบนพื้นที่จำกัด

             รันเวย์สำหรับเครื่องบินโดยสาร ทั่วไปจะกว้าง 45-60 เมตร ยาว 3-4 กม.

             แต่เวลาบินเล็งมาจากความสูงหลายพันฟุต ด้วยความเร็วเกือบ 300 กม./ชม. พื้นที่ใหญ่โตมโหฬารขนาดนั้นมันเล็กมากครับ นักบินต้องบังคับทั้งความเร็ว ความสูง ทิศทาง มุมร่อน เพื่อให้ลงที่จุดแปะ

             ถ้าดูจากในรูป จุดแปะก็คือตรงเส้นขาว ๆ ที่เหมือนทางม้าลายนั่นแหละครับ ล้อต้องแปะตรงนั้นพอดี

             ## พูดเรื่องนี้ก็จะมีคนถามต่อแน่นอนเรื่องการลงนิ่มไม่นิ่มเกิดขึ้นจากอะไร ก็ขอเล่าไว้เลยนะครับ ##

             การนำเครื่องลงสนามมันมีปัจจัยหลายอย่างเข้ามาเกี่ยวข้องนะครับ เช่น สภาพอากาศขณะนั้น อุณหภูมิ ลมแรงไม่แรง ทิศทางของลมที่พัดเข้าหาเครื่อง ความยาวของรันเวย์ ลักษณะพื้นผิว ความสูงของพื้นที่ที่ตัวรันเวย์ตั้งอยู่ เช่น ถ้ารันเวย์อยู่บนเขาสูง ความกดอากาศก็จะบางกว่าที่อยู่ต่ำ ๆ และปัจจัยอื่น ๆ อีกมากมาย

             การลงสนามทุกครั้ง นักบินทุกคนต้องการนำเครื่องลงสนามให้นิ่มอยู่แล้วครับเพื่อความสะดวกสบายของผู้โดยสาร แต่สิ่งที่เราคำนึงถึงมากที่สุดคือเรื่อง "ความปลอดภัย" ครับ

             ถ้าฝนตก ผิวรันเวย์ลื่น หรือลมพัดแบบเปลี่ยนทิศไปมารุนแรง เรื่องความนิ่มไม่ใช่ปัจจัยแรกที่คิดถึงแล้วครับ สิ่งที่สำคัญกว่าคือการนำเครื่องให้ลงบนรันเวย์ให้มั่นคงที่สุด เพื่อให้สามารถบังคับเครื่องให้อยู่บนรันเวย์ให้ได้อย่างปลอดภัย นั่นคือเหตุผลว่าทำไมบางครั้งเครื่องถึงลงแปะพื้นแรงกว่าปกติครับ

             ก่อนไปถึงคำถามสุดท้าย !!

             ขอแวะมาตอบเรื่องที่ถามกันมาเยอะเรื่องการห้ามใช้โทรศัพท์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ขณะเครื่องทำการวิ่งขึ้นและลงสนามนะครับ

             ## ผมขอออกตัวก่อนว่า ผมขอตอบคำถามแบบง่าย ๆ นะครับ ไม่ได้ลงลึกเรื่องวิชาการและรายละเอียดมากนักนะครับ จะได้อ่านเข้าใจกันง่าย ๆ ##

             ถ้าถามว่ามีผลไหม ก็ขอตอบว่า “มีผล” ครับ เนื่องจากระบบนำทางเครื่องบิน และระบบสื่อสาร มีเรื่องของสัญญาณวิทยุเข้ามาเกี่ยวข้อง บางคนอาจบอกว่าโอกาสเกิดความผิดพลาดมีไม่มาก แต่ถ้าพูดเรื่องความปลอดภัย โอกาสผิดพลาดเพียงแค่ 1% ก็ถือว่าอันตรายนะครับ

             ขอยกตัวอย่างง่าย ๆ นะครับ!!

14 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับเครื่องบินที่กัปตันโดนถามบ่อยมาก !

             ++ ระหว่างที่เร่งความเร็วกำลังวิ่งขึ้น ความเร็ว 300 กม./ชม. น้ำหนักเครื่องบิน  200 ตัน

             นักบินต้องใช้สมาธิจดจ่ออยู่กับเครื่องบินตามที่ผมเล่าไป ถ้าขณะนั้นเกิดมีเสียงสัญญาณโทรศัพท์แทรกเข้ามา เหมือนที่เราได้ยินเวลาเปิดวิทยุในรถแล้วโทรศัพท์เข้า >> มันก็คือการดึงความสนใจของนักบินออกไป ถ้าขณะนั้นเกิดมีสิ่งผิดปกติขึ้นมา เพียวเสี้ยววินาทีที่นักบินตัดสินใจช้า ผลที่ตามมาอาจไม่เหมือนกันนะครับ

             ++ หรือถ้าขณะนั้นทางหอบังคับการบินสั่งให้นักบินทำอะไร แล้วเกิดเสียงแทรกทำให้นักบินไม่ได้ยิน ก็อาจเกิดอันตรายได้ครับ

             ดังนั้น ความเห็นผม ### อะไรที่เกี่ยวกับความปลอดภัย อย่างต่อรอง ###

             !! ปิดเถอะครับ !!!

10. “ตอนไปอยู่ที่เมืองนอก ทำอะไรบ้าง”

             อันนี้ก็แล้วแต่เลยครับ บางคนก็พักผ่อน ออกกำลัง ช้อปปิ้ง

             สำหรับผม เน้น 2 อย่างครับ กินกับเที่ยว

             >>> ไว้จะมาเล่าให้ฟังนะครับ กินเที่ยวง่าย ๆ ด้วยตัวเอง ไปแบบนักบิน <<<

             ระหว่างนี้ก็ขอฝากไว้ให้ลองเดากันเล่น ๆ ดูครับ 9 ที่ในรูปคือที่ไหนบ้าง

14 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับเครื่องบินที่กัปตันโดนถามบ่อยมาก !

             สำหรับคำถามที่ถามมามากมาย จะมาทยอยตอบให้นะครับ

            ขอบคุณทุกคนที่ตามอ่านนะครับ

มีคำถามที่ 11 มาเล่าให้ฟังต่อครับ มีคนสนใจถามมาส่วนตัวเยอะ

            ## "ถ้าอยากเป็นนักบินต้องทำยังไง" ##

14 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับเครื่องบินที่กัปตันโดนถามบ่อยมาก !

           มี 3 วิธีใหญ่ ๆ นะครับ

            >> วิธีแรก มาจากฝั่งทหารหรือตำรวจ แล้วมาสอบเข้าสายการบินครับ  แต่ถ้าออกก่อนกำหนด จะต้องใช้ทุนคืนกองทัพนะครับ

            >> วิธีที่ 2 ไปเรียนโรงเรียนการบินด้วยทุนส่วนตัวมาก่อน แล้วมาสมัครเข้าสายการบินครับ ได้ทั้งโรงเรียนในประเทศ และต่างประเทศนะครับ

            ในเมืองไทยมีที่เรียนหลายที่ครับ เช่น โรงเรียนการบินของกรมการบินพลเรือน ที่สนามบินหัวหินครับ, โรงเรียนการบินที่ดอนเมือง, โรงเรียนการบินที่นครพนม

            >> วิธีที่ 3 ซึ่งผมก็มาด้วยวิธีนี้ครับ ก็คือ หลังจากจบปริญญาตรี ก็มาสอบเข้าชิงทุนของสายการบินครับ รับทุกคณะครับ แต่ส่วนใหญ่ก็จะเป็นคณะสายวิทย์ เช่น วิศวะ แพทย์ แต่คณะอื่น ๆ ก็ได้นะครับ กัปตันเพื่อนผมจบบัญชีมาก็มีครับ


            -- กระบวนการสอบก็จะมีการสอบข้อเขียน คณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ ภาษาอังกฤษ หลังจากนั้นก็จะเป็นการตรวจสุขภาพครับ เรื่องสายตาก็คือต้องสายตาปกติ ณ วันตรวจสุขภาพครับ ตอนช่วงที่ผมสอบอนุญาตให้ทำเลสิคได้นะครับ แต่ไม่แน่ใจตอนนี้เปลี่ยนกฎหรือยังนะครับ

            -- จากนั้นก็จะเป็นการสอบสัมภาษณ์ ถ้าผ่าน  ด่านสุดท้ายของบางสายการบินก็จะเป็นการสอบสัมภาษณ์ด้วยผู้เชี่ยวชาญด้านทัศนคติโดยเฉพาะครับ เป็นศาสตราจารย์ชาวต่างชาตินะครับ การสอบสัมภาษณ์ทั้งหมดเป็นภาษาอังกฤษครับ

            หลังจากผ่านทุกขั้นตอนแล้วบริษัทก็จะส่งไปฝึกบินด้วยเครื่องบินเล็กที่โรงเรียนการบินต่าง ๆ ใช้เวลาประมาณ 1 ปี ครับ ก่อนกลับมาฝึกบินที่บริษัทต่อครับ

            ## ถามว่ายากไหม ผมว่าถ้าตั้งใจจริง มันก็ไม่มีอะไรเกินความพยายามนะครับ ##

            ## เรื่องอายุ ตามข้อกำหนดของแต่ละสายการบินเลยครับ ผมจำตัวเลขแน่นอนไม่ได้นะครับ ขอตอบคร่าว ๆ นะครับ

            ถ้าสอบชิงทุนบริษัท รับอายุไม่เกิน ประมาณ 27-30 ปี

            แต่ถ้าเป็นนักบินมาแล้ว รับถึงประมาณ เกือบ ๆ 40 ปีครับ

            ท่านที่สนใจอยากเป็นนักบินก็ลองพยายามดูนะครับ !!!


            ข้อ 12 ทำไมก่อนเทคออฟ หรือ แลนดิ้ง ถึงต้องปรับพนักเก้าอี้ให้ตรง เก็บโต๊ะหน้าที่นั่ง และเปิดม่านหน้าต่าง??

14 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับเครื่องบินที่กัปตันโดนถามบ่อยมาก !

            ## ทั้งหมดเป็นเหตุผลเรื่องความปลอดภัยครับ ##

            ขอยกตัวอย่างง่าย ๆ ให้เห็นภาพนะครับ  เวลาเครื่องบินวิ่งขึ้น ความเร็วเกือบ 300 กม./ชม. ถ้ามีการยกเลิกการวิ่งขึ้นกะทันหัน นักบินจะเบรกเครื่องอย่างเต็มที่เพื่อให้เครื่องหยุดบนรันเวย์ให้ทัน ดังนั้นจะเกิดแรงเบรกมหาศาล ตัวผู้โดยสารจะพุ่งไปข้างหน้า

            -- การที่พนักเก้าอี้อยู่ในระดับตรงเป็นตำแหน่งที่ปลอดภัยที่สุดครับ --

            และถ้าเกิดอุบัติเหตุขึ้น ผู้โดยสารจะสามารถลุกออกจากเก้าอี้ได้เร็วที่สุดด้วยครับ ลองนึกดูนะครับ ถ้าเราเอนเก้าอี้นอนอยู่  แล้วเครื่องเบรกแรง ๆ อาจบาดเจ็บได้ครับ และกว่าจะปลดเข็มขัด กว่าจะลุกขึ้นได้ น่าจะใช้เวลาอีกหลายวินาทีครับ

            >> ส่วนการเปิดม่านหน้าต่าง ก็เป็นเหตุผลเรื่องความปลอดภัยเช่นกันครับ

            ในกรณีเครื่องเกิดอุบัติเหตุ เจ้าหน้าที่ที่จะเข้ามาช่วยจากนอกเครื่องจะได้มองเห็นครับ

            ## ในกรณีฉุกเฉิน พนักงานต้อนรับบนเครื่องจะต้องช่วยให้ผู้โดยสารทั้งหมดหลายร้อยชีวิตออกจากเครื่องให้ได้ภายในเวลาน้อยกว่า 2 นาทีครับ  ดังนั้น ที่พนักงานต้องรับบอกอะไร กรุณาเชื่อเถอะครับ ทั้งหมดเป็นเหตุผลเรื่องความปลอดภัยของผู้โดยสารทุกท่านทั้งนั้นครับ ##

14 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับเครื่องบินที่กัปตันโดนถามบ่อยมาก !

            ส่วนภาพนี้เป็นหน้าต่างของเครื่องบินแบบโบอิ้ง 787 ครับ  กระจกเป็นแบบเปลี่ยนสีได้ ไม่ต้องดึงม่านหน้าต่างแล้วครับ

ข้อ 13 เวลาบิน จะมีเรดาร์จับเราอยู่ตลอดเวลาไหม ??  แล้วเวลาบินอยู่กลางทะเลไกลๆ เรดาร์จับเราได้ไหม แล้วทำไมเครื่องถึงไม่ชนกัน ??

            >> ระยะทางที่เรดาร์ภาคพื้นจะจับเราได้ จะอยู่ที่ประมาณ 200 ไมล์ทะเลครับ ถ้าเป็นการบินบนบก ส่วนมากก็จะมีเรดาร์จับเราได้ตลอด หมดระยะของตัวหนึ่งก็จะเข้าระยะของอีกตัวต่อกันไปเรื่อย ๆ เวลาเราบินเข้าไปในน่านฟ้าของแต่ละประเทศ นักบินก็จะติดต่อหอบังคับการบินของประเทศนั้น ๆ เขาก็จะแจ้งเราว่าเรดาร์เขาจับเราได้หรือยัง ถ้าจับได้แล้วเขาก็จะคอยดูเราไปจนกว่าเราจะออกจากระยะของเขา แต่ถ้ายังจับไม่ได้ เขาก็จะให้เรารายงานจุดที่เราอยู่ แล้วเวลาที่เราจะไปถึงจุดต่อไป

14 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับเครื่องบินที่กัปตันโดนถามบ่อยมาก !

            >> แต่ถ้าเราบินอยู่ในทะเลที่ไกลจากฝั่งมากกว่า 200 ไมล์ทะเล หรือกลางทะเลทรายที่ไม่มีเรดาร์ภาคพื้นตั้งอยู่ เช่น ตอนกลางของออสเตรเลีย ก็จะใช้วิธีการรายงานตำแหน่งแบบที่บอกไป จนกว่าเราจะเข้าระยะเรดาร์ครับ

            >> หรืออีกวิธี คือ จะมีสัญญาณอัตโนมัติส่งจากเครื่องออกไปยังสถานรับเพื่อบอกตำแหน่งของเครื่องอยู่ตลอดเวลา ทางหอบังคับการบินก็จะทราบตลอดว่าตอนนี้เครื่องอยู่ตำแหน่งไหนแล้วครับ

            >>> ซึ่งไม่ว่าจะเป็นวิธีไหน หอบังคับการบินก็จะจัดระยะห่าง และความสูงของเครื่องให้ห่างกันตามกฎของแต่ละประเทศครับ


            เช่น ถ้าประเทศนั้นมีกฎว่าเครื่องที่บินตามกันไปบนเส้นทางเดียวกัน และอยู่บนความสูงเดียวกัน จะต้องบินห่างกันอย่างน้อย 10 นาที เครื่องทุกลำก็ต้องบินให้ได้ตามนั้น ถ้าไม่ได้ก็จะต้องเปลี่ยนความสูงไปความสูงอื่นครับ

14. เครื่องบินถอยหลังได้ไหมเอ่ย ??

14 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับเครื่องบินที่กัปตันโดนถามบ่อยมาก !

            >> เครื่องบินเจ็ทไม่สามารถถอยหลังได้เองครับ แต่เครื่องบินใบพัดบางแบบทำได้ครับ

            -- เครื่องบินเจ็ทเวลาจะถอยออกจากที่จอด จะต้องมีรถแบบนี้มาดันถอยหลัง หลังจากนั้นก็จะสตาร์ทเครื่องยนต์

            -- การเคลื่อนไปที่รันเวน์เราเรียกว่า "การแท็กซี่" ครับ โดยกัปตันจะต้องบังคับเครื่องให้แล่นแท็กซี่ไปตามเส้นสีเหลืองที่เห็นนี่แหละ

            การเลี้ยวไปมาบนพื้นที่ความเร็วต่ำ ๆ นักบินจะบังคับด้วยคันบังคับ ลักษณะก็คล้าย ๆ พวงมาลัยรถครับ

            โดยหอบังคับการบินภาคพื้นจะเป็นคนบอกว่าจะให้เราไปทางไหน ทางวิ่งทางแยกแต่ละอันก็จะมีป้ายบอกครับว่าชื่ออะไร เป็นภาษาอังกฤษ เช่น  A, C7, D5 ป้ายนี้จะมีทั้งเขียนอยู่บนพื้นแบบตามรูป หรือเป็นป้ายที่ตั้งอยู่ข้าง ๆ ทางครับ  เวลาเดินทางลองสังเกตดูก็ได้นะครับ

            -- ส่วนเลขที่เห็นในแถบสีเหลือง คือเลขของทางเลี้ยวเข้าที่จอดของเครื่องครับ

            ** รูปอาจจะไม่ค่อยชัดนะครับ เพราะถ่ายจากโทรศัพท์ครับ **

ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณ Turn JetRider สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม



เรื่องที่คุณอาจสนใจ
14 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับเครื่องบินที่กัปตันโดนถามบ่อยมาก ! อัปเดตล่าสุด 22 มิถุนายน 2561 เวลา 18:22:49 85,276 อ่าน
TOP