ภรรยาท้องแก่ถูกโจรกระชากกระเป๋า ด้านสามีรีบขับรถไล่กวด ส่วนพลเมืองดีเห็นเหตุการณ์ ขับไล่ตามด้วย สุดท้ายโดนต้อนจนจนมุม ด้านชาวบ้าน รุดแจ้งความอีก 2 บอกโดนกระชากเหมือนกัน บ่นอุบหน้าตาหล่อ แต่ไม่น่าทำแบบนี้เลย
วานนี้ (9 สิงหาคม 2558) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองอ่างทอง จ.อ่างทอง รับแจ้งเหตุชิงทรัพย์บริเวณหน้าธนาคารกสิกรไทย ภายในตลาดอ่างทอง และผู้เสียหายได้ไล่ล่าตามจับคนร้ายได้สำเร็จ ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงรุดไปตรวจสอบ
ทั้งนี้เมื่อไปถึงยังที่เกิดเหตุ พบประชาชนจำนวนมากยืนมุงดูผู้ก่อเหตุอยู่ โดยผู้เสียหายคือ นายพิชัย แซ่ลิ้ม อายุ 40 ปี กำลังจับตัว นายสุริยะ มาเนตร อายุ 20 ปี ผู้ก่อเหตุไว้ ซึ่งนายสุริยะมีบาดแผลถลอกที่ขา เนื่องจากรถล้มขณะหลบหนี
จากการสอบถาม นายพิชัย กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุ ตนพร้อมด้วยภรรยาท้องแก่ได้ขี่รถจักรยานยนต์ออกมาจากบ้านเพื่อมาซื้อของในตลาด แต่พอซื้อเสร็จกำลังจะขี่กลับบ้าน จู่ ๆ นายสุริยะได้ขี่รถจักรยานยนต์เข้ามากระชากกระเป๋าสตางค์ที่ภรรยาของตนถืออยู่แล้วขี่รถหลบหนีไป ส่วนตนก็ได้ตัดสินใจทิ้งภรรยาไว้ที่ข้างถนน แล้วขี่รถไล่ล่าคนร้ายทันที โดยขณะนั้นก็มีพลเมืองดีขี่รถช่วยไล่ตามมาด้วยอีกแรง ซึ่งนายสุริยะได้ขี่หลบหนีตามซอกซอยแบบไม่คิดชีวิต แต่สุดท้ายก็พลาดท่า ถูกตนจับตัวได้ในที่สุด
ขณะที่ พลเมืองดี คือนายวิชาญ จำเนียรธรรม อายุ 39 ปี กล่าวว่า ตนได้ขับรถออกมาทำธุระในตลาด ระหว่างเดินทางกลับบ้านได้ขับรถตามรถของนายพิชัยมา และเห็นเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น ตนเลยตัดสินใจช่วยนายพิชัยขับไล่ล่าคนร้ายอีกแรง จนสามารถจับกุมตัวได้ ส่วนตนเองนั้น ที่อยากช่วยเพราะไม่ชอบคนที่ไม่รู้จักทำมาหากินแบบนี้
ต่อมา ที่ สภ.เมืองอ่างทอง ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัว นายพิชัยมาสอบสวนเพื่อดำเนินคดี ก็ได้มีผู้เสียหายอีก 2 ราย คือ นางประภาศรี พันธสุข อายุ 64 ปี และ นางแสงจันทร์ ฉายินธุ อายุ 46 ปี มารอแจ้งความเช่นกัน เนื่องจากถูกนายสุริยะกระชากกระเป๋าเหมือนกัน แต่โชคดีที่สามารถดึงไว้ได้ทัน
ส่วนทางด้าน นายสุริยะ ผู้ก่อเหตุ กล่าวว่า ตนขี่จักรยานยนต์ออกจากบ้านมาตั้งแต่เช้า เพื่อตระเวนหาเหยื่อชิงทรัพย์ โดยตอนแรกได้ก่อเหตุชิงทรัพย์ที่บริเวณวัดขุนอินทประมูล ใน อ.โพธิ์ทอง แต่ไม่สำเร็จ ไม่ได้ทรัพย์สินอะไรกลับมา เลยขี่ตระเวนมาในตัวเมือง แล้วก็ไปก่อเหตุชิงทรัพย์นางประภาศรี แต่ก็ไม่สำเร็จอีก สุดท้ายมาเจอนายพิชัยกับภรรยา คราวนี้ได้กระเป๋าสตางค์มา แต่โชคร้ายที่ตนโดนจับ ส่วนเงินหากได้มานั้นก็จะเอาไปเที่ยวเตร่และใช้ซื้อยาเสพติด
อย่างไรก็ดี หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบ พบว่านายสุริยะ เคยมีประวัติก่อเหตุชิงทรัพย์แบบนี้มาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน โดยล่าสุดวันนี้ก่อเหตุติดต่อกันมาแล้ว 3 รอบ เบื้องต้นจะได้ทำการสอบสวนเพื่อดำเนินคดีต่อไป
นอกจากนี้ หลังจับกุมนายสุริยะได้ ชาวบ้านต่างรุมสาปแช่ง เนื่องจากเป็นโจรภัยสังคม สร้างความเดือดร้อนให้คนไปทั่ว หน้าตาหล่อ แต่ไม่น่าทำแบบนี้เลย
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Chonyuen Wisutthipat
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก เฟซบุ๊ก Chonyuen Wisutthipat
