x close

"ทักษิณ" ซื้อแมนซิตี้อาจสะดุด เผย 2 เหตุล่ม


          หลังจากที่บอร์ดบริหารของ "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมฟุตบอลในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เปิดไฟเขียวยอมรับข้อเสนอของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีในการเข้าซื้อหุ้นของสโมสร เป็นเงิน 81.6 ล้านปอนด์ ซึ่งแบ่งเป็นเงินค่าหุ้น 21.6 ล้านปอนด์ และภาระหนี้สินของทีมอีก 60 ล้านปอนด์ โดยการซื้อหุ้นครั้งนี้จะทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ และครอบครัวเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในทีมถึง 55.9 เปอร์เซนต์นั้น

          ล่าสุดเมื่อวันที่ 22 มิถุนายน รายงานระบุว่า แม้ว่าขณะนี้จะค่อนข้างแน่นอนแล้วว่า พ.ต.ท.ทักษิณ มีโอกาสสูงที่จะได้ครอบครองกิจการเป็นเจ้าของคนใหม่ของทีมแมนฯซิตี้ แต่ก็มีสิทธิเช่นกันที่การซื้อขายจะไม่ประสบสำเร็จ เนื่องจากกฎของพรีเมียร์ลีก ในหัวข้อ ฟิต แอนด์ พรอพเพอร์ เพอร์ซันส์ สำหรับผู้เข้ามาครอบครองกิจการสโมสรฟุตบอล มีอยู่ข้อหนึ่งที่ระบุว่า คณะกรรมการบริหารคนดังกล่าว ต้องไม่ถูกศาลตัดสินว่าฉ้อโกง หรือคอรัปชั่น มิเช่นนั้นทีมนั้นๆ จะถูกตัดสิทธิเล่นในพรีเมียร์ชิพ จนกว่าบุคคลดังกล่าวจะพ้นสภาพจากความเป็นคณะกรรมการบริหาร หรือหุ้นส่วนในทีม แถมยังต้องขอข้อมูลตัวบุคคลจากรัฐบาลอังกฤษ ว่าสามารถซื้อบริษัทในฐานะเอกชนได้หรือไม่ 

          อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้ยังไม่มีการตัดสินจากศาลของไทย ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ผิดจริงตามที่ถูกกล่าวหาหรือไม่ แต่หากการซื้อหุ้นครั้งนี้ผ่านพ้นไปแล้ว และศาลมีคำสั่งว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ผิดจริง ก็จะเกิดปัญหาขึ้นทันทีว่า เรื่องราวดังกล่าวนี้จะลงเอยอย่างไร 

          นอกจากนี้ยังมีแหล่งข่าววงในของพรีเมียร์ลีก เริ่มออกโยนหินถามทางต่อต้านการเข้ามาซื้อทีมแมนฯซิตี้ ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ยังไม่สามารถเคลียร์ตัวเองกับคดีต่างๆ ในเมืองไทย ว่า อาจต้องงัดมาตรการขั้นเด็ดขาดให้ผู้จัดการทีมที่เหลืออีก 19 ทีมในพรีเมียร์ชิพ ลงชื่อคว่ำบาตรอดีตนายกของไทย เป็นครั้งแรก หากแมนฯ ซิตี้ ยังดื้อที่จะขายหุ้นให้ พ.ต.ท.ทักษิณ เนื่องจากเหตุผลทางความชอบธรรม 

          ขณะที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ให้สัมภาษณ์จากกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ว่า ภายในสัปดาห์หน้าจะทำการกว้านซื้อหุ้นที่เหลือของทีมแมนฯซิตี้ ให้ได้ถึง 75 เปอร์เซนต์ เพื่อที่จะได้พ้นสภาพจากตลาดหุ้น และมีอำนาจในการบริหารกิจการของสโมสรอย่างเต็มที่ และขอประกาศว่า จะพาทีมก้าวไปสู่ความยิ่งใหญ่เทียบเท่ากับทีมยักษ์ใหญ่ของเกาะอังกฤษ อย่าง "ผีแดง" แมนฯยูไนเต็ด หรือ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ให้ได้
 
          "ในวงการธุรกิจหากกิจการใดก็ตามมีภาระหนี้สินมากย่อมเป็นเรื่องไม่ดี และต้องหาทางนำรายได้เข้ามาช่วยเหลือ ผมเชื่อว่าภายใต้การบริหารงานของกรรมการบริหารชุดใหม่ สถานะทางการเงินของแมนฯซิตี้ จะดีขึ้นอย่างรวดเร็ว มากกว่าแมนฯยูไนเต็ด ที่มีหนี้สินถึง 500 ล้านปอนด์ หลังการเข้ามาเทคโอเวอร์ของตระกูลเกลเซอร์จากสหรัฐ เมื่อ 2 ปีก่อนด้วยซ้ำ โดยแผนงานหนึ่งของผมก็คือ การเข้ามาบุกตลาดในเอเชีย ที่ถือเป็นตลาดใหญ่ ให้ทีมแมนฯซิตี้ ได้รับความนิยมเหมือนที่แมนฯยูไนเต็ด หรือ ลิเวอร์พูล เคยทำได้มาแล้ว นอกจากนี้ยังมีแผนที่จะเปิดโรงเรียนสอนฟุตบอลของแมนฯซิตี้ ในเอเชีย อาทิ ในเมืองไทย หรือจีน อีกด้วย" พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าว

          รายงานระบุเพิ่มเติมว่า หาก พ.ต.ท.ทักษิณ สามารถจัดการเรื่องการซื้อหุ้นทีมแมนฯซิตี้ จำนวน 55.9 เปอร์เซนต์ ได้สำเร็จ ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดที่เหลืออยู่ของทีม จะเป็น สกาย เจ้าของกิจการสื่อในอังกฤษ ที่มีอยู่ 9.9 เปอร์เซนต์ ที่คาดว่าจะเป็นเป้าหมายต่อไปของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่หากเจรจาขอซื้อหุ้นส่วนนี้ได้สำเร็จ ก็จะทำให้เขามีหุ้นทั้งสิ้น 65.8 เปอร์เซนต์ ใกล้กับเป้าหมายที่วางเอาไว้ถือ 75 เปอร์เซนต์ ที่เพียงพอสำหรับการนำทีมเรือใบสีฟ้าออกจากตลาดหุ้นทันที 

          ทั้งนี้สื่อมวลชนอังกฤษ วิเคราะห์ถึงประเด็นนี้ว่า หาก พ.ต.ท.ทักษิณ สามารถกว้านซื้อหุ้นแมนฯซิตี้ได้ถึง 75 เปอร์เซนต์จริง ก็จะขึ้นนั่งแท่นประธานสโมสรคนใหม่ พร้อมนำบุตรชายและบุตรสาวมานั่งเป็นบอร์ดของสโมสร ขณะที่ จอห์น วอดเดิล ประธานคนเดิม จะถอยลงมาเป็นรองประธาน ส่วน อลิสแตร์ แม็คอินทอช จะได้นั่งตำแหน่งประธานบริหารต่อไป เช่นเดียวกับ เดนนิส เทิร์ท มาร์ค โบเบอร์ และ เดวิด มากิน ก็จะยังทำหน้าที่เป็นผู้อำนวยการเช่นเดิม 

          พ.ต.ท.ทักษิณ ยังกล่าวอีกว่า ในการเข้าทำซื้อหุ้นแมนฯซิตี้ครั้งนี้ นอกเหนือจากความสำเร็จเรื่องธุรกิจแล้ว ยังมองถึงความสำเร็จเรื่องผลงานในสนามไปควบคู่กัน โดยพร้อมทุ่มงบประมาณจำนวนมหาศาลถึง 50 ล้านปอนด์ เข้าไปปรับปรุงความแข็งแกร่งของทีม ซึ่งที่ได้เล็งเอาไว้ มีกองหน้า 2 คน, กองกลาง 2 คน และผู้รักษาประตูอีก 1 คน ผสมกับนักเตะเก่าที่มีอยู่ โดยมีเป้าหมายว่าจะต้องทำทีมให้มีผลงานดีกว่าปีก่อน คือได้อันดับที่ 14 ของศึกพรีเมียร์ลีก โดยหวังไว้ว่าจะต้องติด 1 ใน 6 และนำทีมคว้าแชมป์รายการใดรายการหนึ่งในปีแรกที่เข้าไปดูแลทีมให้ได้ 

          ส่วนกรณีที่มีข่าวว่า หากได้นั่งในตำแหน่งประธานสโมสร จะดึง สเวน โกรัน อีริคส์สัน กุนซือชาวสวีเดน อดีตผู้จัดการทีมชาติอังกฤษมาเป็นผู้จัดการทีมนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า เคยพบกับอีริคส์สันเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่เป็นการพบกันแค่เห็นหน้า และทักทายเท่านั้น แต่การเจรจาเป็นหน้าที่ของทีมที่ปรึกษาที่รับผิดชอบเรื่องนี้อยู่ ขณะเดียวกันยังระบุว่า นอกจากอีริคส์สันแล้ว ยังเคยพบและทาบทาม เคลาดิโอ รานิเอรี โค้ชชาวอิตาลีอีกด้วย แต่ในรายของรานิเอรีได้ตัดสินใจรับงานคุมทีม "ม้าลาย" ยูเวนตุส ของอิตาลี เนื่องจากไม่สามารถรอความคืบหน้าเจรจาการซื้อทีมแมนฯซิตี้ที่ค่อนข้างล่าช้าได้ 

          ต่อข้อถามถึงนักเตะที่อยู่ในแผนซื้อตัวมาร่วมทีมว่า มีรายชื่อของ ไมเคิล โอเว่น ศูนย์หน้าทีมชาติอังกฤษ ที่ปัจจุบันอยู่กับ "สาลิกาดง" นิวคาสเซิล รวมอยู่ด้วยหรือไม่ เนื่องจากโดยส่วนตัวแล้วโอเว่นมีความสนิทสนมกับอีริคส์สัน ซึ่งหากกุนซือชาวสวีเดนตอบรับงานนี้ ก็อาจดึงโอเว่นมาร่วมทีมก็ได้นั้น พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า โค้ชแต่ละคนมีแนวทางการทำทีมของตัวเอง และมีความใกล้ชิดกับนักเตะ ขณะที่ตัวผู้เล่นเองก็มีความสนิทสนม และเชื่อมั่นในการทำทีมของโค้ชที่มีความใกล้ชิด โดยในเรื่องดังกล่าวคงต้องปล่อยให้เป็นการตัดสินใจของโค้ช ที่ย่อมรู้ดีว่า นักเตะคนใดดีที่สุด และมีความเหมาะสมกับทีมมากที่สุด 

          "ผมคงพูดอะไรมากไม่ได้ จนกว่าจะถึงสัปดาห์หน้า ซึ่งหากสามารถซื้อหุ้นได้ถึง 75 เปอร์เซนต์แล้ว จะมีการตัดสินใจเรื่องสำคัญเกี่ยวกับสโมสรอย่างแน่นอน แต่ที่แน่ๆ เราเป็นมืออาชีพที่จะนำสโมสรก้าวไปข้างหน้าสู่ความสำเร็จให้ได้" 

          พ.ต.ท.ทักษิณ ยังกล่าวถึงกรณีที่กลุ่มแฟนบอลของ แมนฯซิตี้ ตั้งชื่อใหม่เป็นภาษาอังกฤษว่า แฟรงค์ ว่า คงเป็นเพราะไปพ้องกับ แฟรงค์ ซิเนตา นักร้องชื่อดัง เนื่องจากนามสกุลของเขาเวลาอ่านเป็นภาษาอังกฤษ จะอ่านว่า "ชินวัตรา" นั่นเอง 

          ส่วนกรณีที่ถูกยื่นฟ้องเกี่ยวกับคดีทุจริตซื้อขายที่ดินรัชดาภิเษก พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ที่ดินดังกล่าวได้มาด้วยผ่านการประมูลอย่างโปร่งใส และการตั้งข้อกล่าวหาล้วนมีเหตุจูงใจทางการเมืองพร้อมระบุว่ามั่นใจว่าจะกลับเมืองไทยในเดือน ธ.ค. หลังจากมีประชาธิปไตยเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเอง และยืนยันว่าตนเองไม่ได้เป็นอย่างที่ถูกกล่าวหาแต่อย่างใด 

          ด้าน คีธ แฮร์รีส ประธานบริหารของ ซีย์มัวร์ เพียร์ซ อินเวสต์เมนต์ แบงค์ ซึ่งเป็นโบรกเกอร์ในการเจรจาซื้อหุ้นแมนฯซิตี้ ครั้งนี้ เปิดเผยเพิ่มเติมว่า นอกเหนือจาก สเวน โกรัน อีริคส์สัน แล้ว ยังมีการเจรจาทาบทาบโค้ชคนอื่นอีก 2 ราย แต่ไม่ขอเปิดเผยชื่อว่าเป็นใคร

          อย่างไรก็ตามรายงานระบุว่า ในกรณีที่ อีริคส์สัน ตกลงที่จะมาคุมทีมแมนฯซิตี้ ก็จะได้รับค่าจ้างมหาศาลถึงปีละ 2 ล้านปอนด์ พร้อมเงื่อนไขงบประมาณก้อนโตสำหรับซื้อนักเตะที่ต้องการด้วย แต่หากการทาบทามอดีตผู้จัดการอังกฤษไม่สำเร็จ ทางผู้บริหารอาจจะติดต่อ ฮวนเด รามอส กุนซือของเซบีญา จากสเปน และ โค อาเดรียนเซ ของเอแซด อัลค์มาร์ ในฮอลแลนด์มารับหน้าที่ผู้จัดการทีมต่อไป 

          ด้านความเคลื่อนไหวในประเทศไทยเกี่ยวกับการซื้อสโมสรชื่อดังของ พ.ต.ท.ทักษิณ วันเดียวนายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวถึงสาเหตุ พ.ต.ท.ทักษิณ ใช้ชื่อเรียกในต่างประเทศว่า

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
"ทักษิณ" ซื้อแมนซิตี้อาจสะดุด เผย 2 เหตุล่ม โพสต์เมื่อ 22 มิถุนายน 2550 เวลา 00:00:00 4,113 อ่าน
TOP