ชูวงษ์ แซ่ตั๊ง ศาลอาญากรุงเทพใต้อนุมัติหมายจับบรรยิน-แคดดี้-โบรกเกอร์สาวและมารดา หลังพบหลักฐานการปลอมแปลงใบโอนหุ้น ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตกำลังเร่งดำเนินการยังไม่สามารถเปิดเผยได้
เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2558 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลอาญากรุงเทพใต้ได้อนุมัติหมายจับผู้ต้องหาคดีทุจริตการโอนหุ้นของ นายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง นักธุรกิจรับเหมาหมื่นล้านทั้งสิ้น 4 ราย ประกอบด้วย
1. พ.ต.ท. บรรยิน ตั้งภากรณ์ ในข้อหา "ร่วมกันลักทรัพย์ และร่วมกันปลอมและใช้เอกสารปลอมโดยประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน"
2. น.ส. กัญฐณา ศิวาธนพล พริตตี้สาวคนสนิทนายชูวงษ์ ในข้อหา "ร่วมกันลักทรัพย์ และร่วมกันปลอมและใช้เอกสารปลอมโดยประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน"
3. น.ส. อุรชา วชิรกุลฑล โบรกเกอร์สาวคนสนิทนายชูวงษ์ ในข้อหา "ร่วมกันลักทรัพย์ และร่วมกันปลอมและใช้เอกสารปลอมโดยประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน"
4. น.ส. ศรีธรา พรหมา แม่ของ น.ส.อุรชา ในข้อหา "ร่วมกันลักทรัพย์ หรือรับของโจร"
พล.ต.ท. ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า การออกหมายจับในครั้งนี้ เนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมีหลักฐานที่ชัดเจนว่าทั้ง 4 บุคคลมีส่วนร่วมรู้เห็นในการโอนหุ้นครั้งนี้ หลังจากนำเอกสารการโอนหุ้นดังกล่าวไปตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์จนพบว่าเอกสารนั้นมีความผิดไปจากวัตถุประสงค์ที่แท้จริงของนายชูวงษ์ เนื่องจากในแบบฟอร์มการโอนหุ้นเดิมเป็นการโอนเพื่อค้ำประกันเงินสำหรับซื้อหุ้นตัวอื่น ซึ่งแบบฟอร์มดังกล่าวมีการเปลี่ยนแปลงจากเดิมเป็นการโอนหุ้นให้บุคคลอื่น อีกทั้งบัตรประชาชนของนายชูวงษ์ ที่มีการเซ็นรองสำเนาว่าใช้สำหรับจำนำหุ้นเท่านั้นถูกลบข้อความดังกล่าวออกไป
ประกอบกับเจ้าหน้าที่ไม่พบหลักฐานที่ระบุว่านายชูวงษ์รู้เห็นถึงการโอนหุ้นในครั้งนี้ รวมถึงคลิปเสียงที่ได้นำมาตรวจสอบนั้น ทางญาติก็ยืนยันว่าไม่ใช่เสียงของนายชูวงษ์อย่างแน่นอน รวมถึงเบอร์โทรศัพท์ที่โทรเข้านั้นก็ไม่ใช่เบอร์ของนายชูวงษ์ โดยหลังจากนี้ อาจจะต้องออกหมายจับนอกเหนือ 4 บุคคลนี้อีก ซึ่งก็เป็นเรื่องของสำนวนคดีที่จะต้องพิจารณาต่อไป
โดยผู้ต้องหาทั้งหมดยกเว้น นางศรีธรา นั้น มีส่วนรู้เห็นกับการปลอมแปลงเอกสารการโอนหุ้นทั้งหมด และนายบรรยิน ยังมีส่วนเกี่ยวข้องกับการตรวจสอบการโอนหุ้นที่ไม่ชอบนี้ ซึ่งได้โอนหุ้นดังกล่าวเข้าบัญชีของนางสาวกัญฐณาและนางศรีธรา จำนวนเกือบ 400 ล้านบาท รวมถึงการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่พบว่านายชูวงษ์ ไม่มีส่วนรู้เห็นกับการโอนหุ้นที่ว่านี้ และจากการตรวจสอบคลิปเสียงทางญาติก็ยืนยันชัดเจนว่าไม่ใช่เสียงของนายชูวงษ์อย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตามจากการสืบสวนสอบสวนคาดว่าอาจมีผู้เกี่ยวข้องอีก แต่ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานว่าจะเชื่อมโยงถึงใคร ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตนั้นยังไม่สามารถสรุปได้ว่าเกิดจากสาเหตุใด
ส่วนเรื่องของการสืบสวนสอบสวนหาสาเหตุการเสียชีวิตของนายชูวงษ์นั้น ในขณะนี้ยังต้องรออุปกรณ์ เพื่อนำมาพิสูจน์ในการจำลองการเสียชีวิตที่เกิดขึ้น ซึ่งในระหว่างนี้ ก็ทำได้เพียงการนำภาพกล้องวงจรปิดมาคำนวณหาความเร็วของรถที่จะนำไปสู่การเกิดอุบัติเหตุเท่านั้น
***หมายเหตุ : อัพเดทข้อมูลล่าสุดเมื่อเวลา 16.42 น. วันที่ 24 สิงหาคม 2558
ภาพจาก รายการเรื่องเล่าเช้านี้ บีอีซี-เทโร