x close

ศาลฎีกาพิพากษาจำคุก 20 ปี "ภาพ 70 ไร่" คดีฟอกเงินค้ายา สั่งปล่อยเมีย-พี่เมีย

ศาลฎีกาสั่งจำคุกภาพ 70   ไร่

          ศาลฎีกา พิพากษา "ภาพ 70 ไร่" ยืนจำคุก 20 ปี คดีฟอกเงินค้ายาเสพติด ด้าน ภรรยา-พี่ภรรยา มีคำสั่งปล่อยตัวหลังถูกคุมขังครบเวลาแล้ว


          จากกรณีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 3 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายสยาม หรือ สุภาพ ทรัพย์วรสิทธิ์ ฉายา ภาพ 70 ไร่ นักค้ายาเสพติดรายใหญ่ ย่านคลองเตย (จำเลยที่ 1) น.ส.ศยามล ศิริธนาธร ภรรยาของ นายสยาม (จำเลยที่ 2) และ นางดวงตา กาญจนหาญ พี่สาวของ น.ส.ศยามล (จำเลยที่ 3) ในความผิดตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) พ.ศ. 2542 จากกรณีที่จำเลยได้ร่วมกันเปลี่ยนสภาพทรัพย์สิน และซุกซ่อนปกปิดทรัพย์สินที่ได้มาจากการค้ายาเสพติด มูลค่ากว่า 500 ล้านบาท ซึ่งในคดีนี้ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาจำคุก ภาพ 70 ไร่ และ น.ส.ศยามล เป็นเวลา 20 ปี จำคุก นางดวงตา 12 ปี แต่ นางดวงตา ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างอุทธรณ์ ตามที่ได้มีรายงานไปแล้วนั้น [อ่านข่าว จำคุก ภาพ 70 ไร่ 20 ปี ฟอกเงินค้ายา 500 ล้าน] ซึ่งต่อมาอัยการโจทก์ฎีกาให้ศาลพิพากษาโทษจำเลยทั้งสามในทุกข้อที่ได้ฟ้อง และนายสุภาพ จำเลยที่ 1, นางดวงตา พี่ภรรยาของนายสุภาพ จำเลยที่ 3 ได้ยื่นฎีกาสู้คดี

          ล่าสุดวันนี้ (27 สิงหาคม 2558) เวลา 11.00 น. ศาลได้อ่านคำพิพากษาศาลฎีกา โดยให้เบิกตัว นายสุภาพ จำเลยที่ 1 จากเรือนจำเพื่อฟังคำพิพากษา ส่วน น.ส.ศยามล จำเลยที่ 2 และ น.ส.ดวงตา จำเลยที่ 3 ก็เดินทางมาศาลพร้อมกับบุตรสาว 2 คน และญาติ ๆ ทั้งนี้หลังจากศาลฎีกาได้ตรวจสอบและเห็นว่า นายสุภาพ จำเลยที่ 1 ได้กระทำผิดเกี่ยวกับการค้ายาเสพติดจริง โดยมีพยานที่เคยรับยาบ้าจากนายสุภาพไปจำหน่ายช่วงระหว่างปี 2540-2543 มายืนยัน รวมทั้งจากการตรวจสอบที่มาทรัพย์สินของจำเลยที่ 1-3 พบว่า จำเลยที่ 1 เคยเปิดบริษัทขายเครื่องใช้ไฟฟ้าและให้บริการเช่า-ซื้อ รถจักรยานยนต์ รวมทั้งการปล่อยเงินกู้นักพนัน แต่เมื่อมีการตรวจสอบแล้วพบว่าบริษัทมีภาวะขาดทุนตั้งแต่ปี 2542-2544 รวมทั้งการเปิดบริษัทของจำเลยที่ 1 ก็ได้เปิดหลังจากการกระทำผิดค้ายาเสพติด ซึ่งการเปิดบริษัทต้องมีการลงทุนพอสมควร แต่ในเมื่อบริษัทของจำเลยที่ 1 มีข้อมูลว่าขาดทุน และจำเลยที่ 1 ก็ไม่มีพยานหลักฐานมาแสดงแหล่งที่มาของเงินทุน ดังนั้นจึงตัดสินว่า ทรัพย์สินของจำเลยที่ 1 มาจากการกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด

          นอกจากนี้ทรัพย์สินของจำเลยที่ 1 มีบางส่วนถูกนำเข้าบัญชีเงินฝากของครอบครัวและเก็บไว้ในตู้เซฟของธนาคารที่นางดวงตา จำเลยที่ 3 เช่าไว้ ซึ่งเป็นการปิดบังทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำผิดค้ายาเสพติด เป็นความผิดมูลฐานตามกฎหมายฟอกเงิน แต่ในส่วนของ น.ส.ศยามล จำเลยที่ 2 ศาลยังไม่ได้ความว่าจำเลยที่ 2 เป็นผู้นำเงินกระทำผิดฝากเข้าบัญชี ดังนั้นศาลฎีกา เห็นควรพิจารณาโทษให้เหมาะสม

          ดังนั้นศาลจึงพิพากษาแก้เป็นใหม่ คือ น.ส.ศยามล จำเลยที่ 2 จำคุก 5 ปี, นายสุภาพ จำเลยที่ 1 จำคุก 20 ปี และนางดวงตา จำเลยที่ 3 จำคุก 4 ปี ตามที่ศาลอุทธรณ์พิพากษา แต่เนื่องจากที่ผ่านมา น.ส.ศยามล จำเลยที่ 2 และนางดวงตา จำเลยที่ 3 ได้คุมขังครบตามเวลาแล้ว ดังนั้นจำเลยที่ 2 และที่ 3 จึงไม่ต้องถูกคุมขังอีก ให้ปล่อยตัวไป

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ศาลฎีกาพิพากษาจำคุก 20 ปี "ภาพ 70 ไร่" คดีฟอกเงินค้ายา สั่งปล่อยเมีย-พี่เมีย อัปเดตล่าสุด 28 สิงหาคม 2558 เวลา 09:25:44 8,627 อ่าน
TOP