คู่เกย์ขอแต่งงานกันในโบสถ์ต้านคนรักร่วมเพศ ผู้คนปรบมือเกรียวร่วมยินดี

          อะไรก็ห้ามความรักไม่ได้ คู่เกย์ขอแต่งงานกันในโบสถ์ต้านคนรักร่วมเพศ แถมผู้คนปรบมือเกรียวร่วมยินดี

         ในปัจจุบันนี้ความรักระหว่างเพศเดียวกันได้รับการยอมรับขึ้นอย่างมาก แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าในบางกลุ่มสังคมก็ยังมีการต่อต้านความรักรูปแบบนี้อยู่เช่นกัน แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้คู่รักชายชาวอเมริกันคู่นี้ยอมแพ้ ทั้งคู่ประกาศก้องให้คนทั้งโลกรับรู้ว่าทั้งคู่รักกันอย่างจริงใจโดยการขอแต่งงานกันในโบสถ์คริสเตียนที่ต่อต้านเรื่องรักร่วมเพศ และสิ่งที่ทั้งคู่คาดไม่ถึงและประทับใจเป็นอย่างมากก็เกิดขึ้น เมื่อผู้คนในโบสถ์ไม่ได้มีท่าทีรังเกียจหรือลุกขึ้นมาคัดค้านแต่อย่างใด ตรงกันข้าม กลับลุกขึ้นยืนปรบมือเกรียวกราวแสดงความยินดีกับทั้งคู่กันยกใหญ่


          วันที่ 27 สิงหาคม 2558 เว็บไซต์เดลี่เมล เผยเรื่องราวความประทับใจของ เทรเวอร์ ฮาร์เปอร์ อายุ 36 ปี และ เดวิส โควิน อายุ 30 ปี คู่รักจากนครออสติน ในรัฐเทกซัส สหรัฐฯ ว่า ทั้งคู่คบหาดูใจกันมาได้ 6 ปีแล้ว ในขณะที่ทั้งคู่ต่างก็เป็นสมาชิกของโบสถ์เฟิร์สต์ ยูไนเต็ด เมโธดิสต์ ซึ่งเป็นโบสถ์คริสต์นิกายโปนเตสแตนท์ อันมีความเชื่อไม่ยอมรับการรักร่วมเพศ จนกระทั่งเทรเวอร์ตัดสินใจขอเดวิสแต่งงาน เขารู้ในทันทีว่า เขาจะต้องขอแต่งงานต่อหน้าผู้คนในโบสถ์เพื่ออยากให้ทุกคนยอมรับพวกเขาในฐานะคู่เกย์ ซึ่งพวกเขาเชื่อว่าการรักเพศเดียวกันไม่ใช่เรื่องที่ผิด

           เทรเวอร์เผยว่า เขาวางแผนเตรียมขอแต่งงานมาหลายเดือน ซึ่งเขายังได้รับการช่วยเหลืออย่างดีจากจอห์น ไรท์ บาทหลวงประจำโบสถ์แห่งนี้ด้วย เพราะจอห์นเชื่อว่าการที่คู่รักเพศเดียวกันขอแต่งงานในสถานที่ที่ห้ามคนรักร่วมเพศจะเป็นวิธีที่สวยงามในการแสดงถึงความรักที่ซื่อสัตย์และจริงใจต่อกัน

          ในโอกาสที่ทั้งคู่ถูกเชิญให้ร่วมแชร์ประสบการณ์ความเชื่อต่อหน้าคริสตศาสนิกชนที่ชุมนุมกันในโบสถ์แห่งนี้ จึงถือเป็นโอกาสดีที่เทรเวอร์จะเซอร์ไพรส์ขอเดวิสแฟนหนุ่มแต่งงาน เมื่อได้จังหวะ เทรเวอร์ก็ลงไปคุกเข่าขอใช้ชีวิตร่วมกับเดวิสอย่างเป็นทางการต่อหน้าพยานจำนวนมาก และถึงแม้ว่าเดวิสจะไม่ปลื้มนักกับการประกาศขอแต่งงานต่อหน้าสาธารณชนมากมายเช่นนี้ แต่เขาก็เซย์เยสตอบตกลง


          "คุณไม่สามารถปล่อยให้สถานะทางเพศมาเป็นตัวกำหนดถูกหรือผิดของชีวิตหรือคนที่เรารักได้" เทรเวอร์ กล่าวอย่างภูมิใจ

          ทั้งสองตั้งใจจะจัดงานแต่งงานขึ้นในปี 2016 โดยหวังว่าด้วยกฎหมายรับรองการแต่งงานของคู่รักร่วมเพศที่สหรัฐฯ เพิ่งบังคับใช้ไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมา จะช่วยให้พวกเขาสามารถจัดพิธีแต่งงานขึ้นในโบสถ์แห่งนี้ได้ ซึ่งที่จริงแล้ว โบสถ์นิกายโปรเตสแตนท์มีข้อห้ามมิให้ใช้เป็นที่เพื่อจัดพิธีแต่งงานระหว่างคู่รักเพศเดียวกัน