ดาบตำรวจตามง้อกิ๊กสาว หลังถูกจับได้ว่ามีลูกและภรรยาแล้ว แต่ไม่สำเร็จ สุดท้ายตัดสินใจจบปัญหารักด้วยการบุกยิงดับ ก่อนลั่นไกฆ่าตัวตายตาม
เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2558 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ประทาย จ.นครราชสีมา รับแจ้งเหตุมีคนถูกยิงได้รับบาดเจ็บที่บ้านหลังหนึ่งใน ต.ประทาย อ.ประทาย จ.นครราชสีมา จึงรุดไปตรวจสอบ เมื่อเดินทางไปถึงพบ ทราบว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย คือ น.ส.มลฤดี อายุ 24 ปี และ ด.ต. ประกร ซึ่งทั้ง 2 คน เจ้าหน้าที่ได้นำตัวส่งไปยังโรงพยาบาลเพื่อทำการช่วยเหลือเป็นการเร่งด่วน นอกจากนี้ ในสถานที่เกิดเหตุยังพบอาวุธปืน .38 ลูกโม่ ตกอยู่ด้วย จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เดินทางไปยังโรงพยาบาลประทาย เพื่อสอบถามอาการของผู้ได้รับบาดเจ็บทั้ง 2 ราย ปรากฏว่า น.ส.มลฤดี เสียชีวิตขณะถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล และจากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่า น.ส.มลฤดี มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่กลางหลัง 2 แผล โดยกระสุนนัดหนึ่งทะลุตัดขั้วหัวใจ และอีกนัดฝังใน ขณะที่ ด.ต. ประกร ซึ่งมีบาดแผลที่ขมับด้านขวา ได้ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลมหาราช นครราชสีมา ก่อนจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา
จากการสอบสวน นายธีระพงษ์ เจ้าของบ้านที่เกิดเหตุ ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุตนและญาติ ๆ ที่เดินทางมาจากกาฬสินธุ์ กำลังนั่งกินอาหารที่บริเวณชั้นล่างของบ้าน ซึ่ง น.ส.มลฤดี ผู้เป็นหลานสาวก็นั่งอยู่ด้วย และจู่ ๆ ด.ต. ประกร ก็ได้เดินเข้ามาที่บ้าน ก่อนจะดึงตัว น.ส.มลฤดี ออกไป เพื่อพูดคุยกัน ปรากฏว่า น.ส.มลฤดี ไม่ยอมเดินตามออกไป ทั้งยังบอกว่า "เรื่องเราสองคนได้จบแล้ว" หลังจากนั้น ด.ต. ประกร ก็ได้ตรงเข้าล็อกคอของ น.ส.มลฤดี ก่อนจะชักอาวุธปืน .38 ยิงที่บริเวณด้านหลัง น.ส.มลฤดี จำนวน 2 นัด และใช้ปืนกระบอกเดียวกันจ่อยิงขมับตัวเอง
นายธีระพงษ์ เล่าต่อว่า ด.ต. ประกร ได้มาติดพันหลานสาวของตนตั้งแต่สมัยที่ยังเรียนหนังสือ และที่ผ่านมา ด.ต. ประกร ก็เป็นผู้ส่งเสียค่าเล่าเรียนจนหลานสาวเรียนจบ พร้อมกันนี้ ด.ต. ประกร ยังลงทุนเปิดร้านขายอาหารให้หลานสาวใน อ.ประทาย อีกด้วย จนกระทั่งมาทราบในภายหลังว่า ด.ต. ประกร มีภรรยาและลูกแล้วถึง 2 คน ทางครอบครัวจึงตัดสินใจไปรับตัวหลานสาวกลับบ้าน และช่วง 3-4 วัน ก่อนเกิดเหตุ ด.ต. ประกร ก็พยายามมาขอคืนดี แต่หลานสาวไม่ยอมคืนดี จนกระทั่งมาเกิดเหตุสลดดังกล่าว
ภาพจาก ทวิตเตอร์ @TNAMCOT
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
