บิ๊กตู่ รับบึ้มราชประสงค์โยงขบวนการขนอุยกูร์ ไม่ชัดชายต้องสงสัยสัญชาติใด

          ประยุทธ์ จันทรโอชา ชี้จับมือวางระเบิดราชประสงค์ ฝีมือเจ้าหน้าที่ ไม่ฟันธงสัญชาติไหน รับอาจเกี่ยวข้องกับขบวนการนำเข้าชาวอุยกูร์ ยันไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง ขอเจ้าของโรงแรมเช็กประวัติผู้พัก วอนหยุดเสนอภาพพยานออกสื่อหวั่นถูกทำร้าย เตรียมปูพรมค้นอาวุธตามตะเข็บชายแดน

          จากกรณีฝ่ายความมั่นคงได้เข้าทำการจับกุมผู้ต้องสงสัยวางระเบิดแยกราชประสงค์ ที่อพาร์ทเม้นท์ บริเวณถนนเชื่อมสัมพันธ์ 11 เขตหนองจอก (อ่านข่าว ล้อมจับชายต่างชาติต้องสงสัยเป็นมือบึ้มราชประสงค์ ผบ.ตร. รุดลงพื้นที่) เมื่อวันที่ 29 สิงหาคมที่ผ่านมาที่

          ล่าสุดวันนี้ (31 สิงหาคม 2558) พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงความคืบหน้าการจับกุมผู้ต้องสงสัยที่เกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดแยกราชประสงค์ และท่าเรือสาทรว่า จากการจับกุมผู้ต้องสงสัยดังกล่าวทำให้มีความคืบหน้าและพบความเชื่อมโยงได้มากขึ้นกับหลายกลุ่ม ซึ่งต้องมีการสืบสวนสอบสวนหาหลักฐานพยานบุคคลและวัตถุพยานเพิ่มเติมต่อไป จึงต้องให้เวลาเจ้าหน้าที่ดำเนินการ อย่าเพิ่งด่วนสรุปประเด็นใดประเด็นหนึ่ง ซึ่งต้องหาว่าใครเป็นผู้บงการ เป็นการทำเองหรือเป็นการทำโดยเรื่องที่กว้างกว่าเรื่องภายในประเทศ การประเมินในเรื่องความมั่นคงเป็นเรื่องที่อันตรายจึงต้องทำให้ยุติให้ได้ จากกรณีดังกล่าวแสดงให้เห็นว่ายังมีคนเหล่านี้อยู่ในประเทศไทย มีการจัดหาระเบิด หรืออาวุธสงครามในประเทศ เราจึงต้องหันมาให้ความสำคัญกับประเด็นเหล่านี้ โดยเฉพาะพื้นที่ตามแนวชายแดน

          สำหรับผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมได้ยังไม่ได้มีการพิสูจน์สัญชาติว่าเป็นคนสัญชาติใด แต่หนังสือเดินทางระบุว่าเป็นชาวตุรกี แต่ไม่ทราบว่าเป็นของแท้หรือปลอม ซึ่งหากเป็นหนังสือเดินทางปลอมก็ต้องหาขบวนการที่ทำต่อไป อย่างไรก็ตามผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมคนดังกล่าวเรายังไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าเป็นมือระเบิด แต่การทำเช่นนี้ไม่สามารถทำได้เพียงคนเดียว ต้องมีขบวนการ จึงต้องรอพิสูจน์ต่อไป ส่วน 2 คนที่ออกหมายจับล่าสุด ก็เป็นบุคคลที่ปรากฎอยู่ในกล้องในช่วงเกิดเหตุการณ์ระเบิดดังกล่าว

          นอกจากนี้การเข้าจับกุมตัวผู้ต้องสงสัยเท่าที่ตนรู้ไม่ได้มาจากการแจ้งเบาะแส แต่มาจากการทำงานของเจ้าหน้าที่ ที่ได้รายงานความคืบหน้าให้ตนทราบมาโดยตลอด

          ทั้งนี้ พล.อ. ประยุทธ์ ยังยอมรับว่า ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมตัวได้ มีส่วนเกี่ยวข้องกับการลักลอบนำชาวอุยกูร์เข้าประเทศ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องภายในประเทศ เรื่องการลักลอบขนคนเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย ฉะนั้นอย่าลืมว่าเราไม่ต้องการให้บ้านเราเป็นจุดพัก หรือผ่านในการอพยพคน ซึ่งการทำงานแบบนี้จะต้องมีคนได้ประโยชน์ และทำเป็นขบวนการ เพราะต้องมีการทำพาสปอร์ตและซ่อนตัวรอเวลาออกนอกประเทศ ซึ่งตรงนี้จึงอาจเป็นสาเหตุได้เช่นกันหากมีความขัดแย้งกันหรือมีการเข้มงวดจากเจ้าหน้าที่

          อย่างไรก็ตามขอให้เจ้าของกิจการบ้านเช่า โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพฯ สอบถามประวัติผู้เข้าพัก หากพบผู้กระทำความผิดกฎหมายก็ขอให้แจ้งเบาะแสมายังเจ้าหน้าที่ อย่าไปกลัวเพราะเราจะมีการปกป้องพยานอยู่แล้ว และขอให้ระมัดระวังการถ่ายและการเผยแพร่ภาพพยานในสื่อด้วย เพราะจะเป็นอันตรายได้ โดยตนต้องขอขอบคุณทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารที่ช่วยกันจนกระทั่งนำมาสู่การจับกุมผู้ต้องสงสัย



อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก