พล.ต.อ. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นำตัว ภานุพงษ์ รัสนา หรือ แจ้ มือยิง "สมยศ สุธางค์กูร" แถลงข่าว ด้านผู้ต้องหาสารภาพได้ค่าจ้าง 300,000 บาท เผยก่อเหตุเพื่อตอบแทนหนี้บุญคุณ
วันนี้ (3 กันยายน 2558) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เวลา 10.00 น. พล.ต.อ. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พล.ต.ท. ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท. ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก. และพล.ต.ท. ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมนายภานุพงษ์ หรือ แจ้ รัสนา อายุ 32 ปี มือปืน และนายชม ไชยณรงค์ ผู้ประสานงานติดต่อจัดหามือปืน ในคดีสังหารนายสมยศ สุธางค์กูล อดีตเจ้าของคาเฟ่ชื่อดัง
พล.ต.อ. สมยศ กล่าวว่า จากการสืบสวนสอบสวนร่วมกันของกองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบังคับการปราบปราม กองกำกับการสืบสวนตำรวจนครบาล 5 และสถานีตำรวจนครบาลคลองตัน ทั้งเรื่องการวิเคราะห์ข้อมูลประเด็นการสังหารนายสมยศ การตรวจสอบกล้องวงจรปิดในบริเวณเกิดเหตุ เส้นทางคนร้าย ก่อนและหลังเกิดเหตุ ตรวจสอบบุคคลที่มีตำหนิรูปพรรณและรอยสักที่แขนซ้ายและขวา ตามภาพวงจรปิดที่เป็นมือปืนในคดีนี้ จนกระทั่งสืบสวนทราบว่า นายภานุพงษ์ หรือ แจ้ รัสนา อายุ 32 ปี ที่อยู่บ้านเลขที่ 2/5 หมู่ 6 แขวงบางระมาด เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ มีตำหนิรูปพรรณและมีรอยสักตรงกับมือปืน พนักงานสอบสวน สน.คลองตัน จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานและขอศาลจังหวัดพระโขนง ออกหมายจับนายภานุพงษ์ ตามหมายจับที่ 359/2558 ลงวันที่ 1 กันยายน 2558 ข้อหา "ร่วมกันฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อนโดยมีและใช้อาวุธปืน"
ต่อมา วันที่ 1 กันยายน 2558 เวลาประมาณ 17.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนทราบว่า นายภานุพงษ์ อยู่ที่บริเวณหน้าโรงเรียนอุบลรัตนราชกัญญาราชวิทยาลัย ซ.จรัญสนิทวงศ์ 35 ถ.ปากน้ำวัดแก้ว แขวงบางพรม เขตตลิ่งชัน จึงได้นำกำลังเข้าจับกุมตัวนายภานุพงษ์ พร้อมยึดของกลางได้ ดังนี้
1.โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ IPhone 6 สีทอง จำนวน 1 เครื่อง (ใช้ติดต่อกับนายนก หรือ นายกฤษฎา ใจเอม หลังจากเกิดเหตุ)
2. โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ LG สีชมพู จำนวน 1 เครื่อง (ใช้ติดต่อนัดหมายกับนายนก หรือ นายกฤษฎา ใจเอม ก่อนเกิดเหตุ)
3. รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อซูซูกิ รุ่นสแมช สีแดงดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน
นอกจากนี้ นายภานุพงษ์ มือปืนได้ให้การรับสารภาพว่า ก่อนเกิดเหตุประมาณ 2 วัน นายนก (ทราบชื่อภายหลังว่า นายกฤษฎา ใจเอม) ได้ติดต่อให้นายภานุพงษ์ ไปทวงหนี้ เมื่อตนเดินทางไปที่โรงแรมคอนเทนเนอร์รีสอร์ทก็ได้พบกับและนายชม ไชยณรงค์ หรือ ชายที่นายนกเรียกว่า "อาจารย์" และจากการพูดคุย นายชม ระบุว่า พวกตนไม่ต้องไปทวงหนี้แล้ว แต่ให้ไปยิงแทน
ต่อมา ในวันที่ 29 มิถุนายน 2558 ซึ่งเป็นวันเกิดเหตุ พวกตนได้เดินไปที่สนามกีฬาหัวหมาก เพื่อไปสมทบกับนายหนู ไม่ทราบชื่อ-นามสกุลจริง และระหว่างเดินทางนายชมได้มอบกระเป๋าสะพายสีดำให้แก่ตน ภายในบรรจุปืนลูกโม่ขนาด .38 พร้อมรูปถ่ายนายสมยศ รวมถึงเงินค่าจ้าง
นายภานุพงษ์ กล่าวต่อว่า เมื่อเดินทางมารวมตัวกันเรียบร้อย นายชมได้นำภาพของนายสมยศให้นายหนูดูอีกครั้ง ก่อนขี่รถจักรยานยนต์ออกไปดักรอนายสมยศที่ร้านเฮงหูฉลาม ถ.พัฒนาการ จนเมื่อนายสมยศเดินออกมาจากร้าน ตนก็ได้ใช้อาวุธปืนยิงนายสมยศที่ด้านหลัง 2 นัด และเมื่อนายสมยศหันกลับมามอง ตนก็ยิงไปที่บริเวณใบหน้าอีก 1 นัด จนนายสมยศล้มลง ตนจึงยิงซ้ำที่หัวอีก 1 นัด รวม 4 นัด
ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุก็ได้แยกย้ายกันหลบหนี ทั้งยังเผาเสื้อผ้าและกระเป๋าสะพายที่ใช้ในวันเกิดเหตุทิ้ง ส่วนปืนที่ใช้ในการก่อเหตุได้นำไปโยนทิ้งแม่น้ำเจ้าพระยา ที่บริเวณกลางสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า
ในเวลาต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้แถลงผลจับกุมนายชม ไชยณรงค์ ซึ่งทำหน้าที่เป็นผู้ประสานงานติดต่อจัดหามือปืนการสังหารนายสมยศ เบื้องต้นผู้ต้องหารับสารภาพว่า ได้รับค่าจ้างเป็นเงิน 1 ล้านบาท ในการจัดหาจ้างบุคคลมาร่วมทีมสังหาร พร้อมทั้งมีการแบ่งหน้าที่อย่างชัดเจน อาทิ คนลงมือยิง คนชี้เป้า เป็นต้น
ส่วนสาเหตุการสังหารนั้นมาจากปัญหาการว่าความให้กับผู้ต้องหาคดียาเสพติดรายหนึ่ง ซึ่งมีจำนวนเงินหลายล้านบาท และขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างขยายผลไปยังผู้ร่วมขบวนการรายอื่น ๆ
** มีการอัพเดทข้อมูล เมื่อเวลา 12.00 น. ของวันที่ 3 กันยายน 2558
world_id:55e7d3744d265acb7a8b4572
ภาพจาก ทวิตเตอร์ @brnititorn, จส.100
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
, 
