ระเบิดราชประสงค์ ดีเอ็นเอ ยันชัดแล้ว ! ไมไรลี ยูซูฟู ไม่ใช่ชายเสื้อเหลือง แฉเคยซื้อชิ้นส่วนบึ้มผ่านเน็ต ในช่วงเดือนกรกฎาคมและสิงหาคม ก่อนเกิดเหตุกลุ่มขบวนการรวมตัวช่วงเช้าที่มีนบุรี ก่อนกระจายลงพื้นที่ก่อเหตุ ด้านตำรวจนำกำลังเข้าตรวจค้นรังแก๊งระเบิดเพิ่มหลายแห่ง
วันที่ 3 กันยายน 2558 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ท. ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วย ผบ.ตร. และโฆษกตำรวจ กล่าวว่า ขณะนี้ได้ออกหมายจับ "นายไมไรลี ยูซูฟู" เชื้อชาติจีน สัญชาติจีน อายุ 26 ปี ในข้อหามีวัตถุระเบิดไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมายแล้ว
ทั้งนี้สืบเนื่องจาก นายไมไรลี ยูซูฟู เป็นผู้ต้องสงสัยที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงควบคุมตัวได้ที่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เมื่อวันที่ 1 กันยายนที่ผ่านมา ขณะนายไมไรลี ยูซูฟู เดินทางออกนอกประเทศ ซึ่งการจับกุมครั้งนี้เป็นไปตามคำให้การของพยานบุคคลที่เห็นนายยูซูฟูเข้า-ออกห้องเช่าย่านหนองจอก
พล.ต.ท. ประวุฒิ เปิดเผยว่า จากข้อมูลของตำรวจคิดว่าชายคนนี้ไม่ใช่ชายเสื้อเหลืองและเสื้อฟ้าที่นำระเบิดไปวางไว้ที่แยกราชประสงค์ แต่อาจจะทำหน้าที่เกี่ยวกับวัตถุระเบิดอยู่ในขบวนการนี้ และมีบทบาทสำคัญ ซึ่งการออกหมายจับครั้งนี้ยึดตามพาสปอร์ตที่ติดตัวเขา ที่ระบุ "สัญชาติจีน เมืองซินเจียง" และขณะนี้ก็ได้ส่งพาสปอร์ตให้สถานทูตจีนตรวจสอบเพื่อยืนยันอีกครั้ง ส่วนชายคนดังกล่าวสื่อสารภาษาอังกฤษได้นิดหน่อย ส่วนภาษาท้องถิ่นที่นายไมไรลี ยูซูฟู พูดนั้น ไม่ทราบว่าเป็นภาษาใด
ส่วนผลการตรวจสอบเปรียบเทียบดีเอ็นเอของ นายไมไรลี ยูซูฟู นั้นไม่ตรงกับดีเอ็นเอที่พบในรถแท็กซี่ เศษเป้ที่พบในที่เกิดเหตุ และธนบัตรที่ได้จากรถจักรยานยนต์รับจ้าง แต่จากการตรวจสอบพบว่าตรงกับลายนิ้วมือที่พบจากถังแกลลอนบรรจุสารประกอบระเบิดที่พบในพูลอนันต์ อพาร์ทเม้นท์ เขตหนองจอก และจากแปรงสีฟันและกรรไกรตัดเล็บ ที่พบในไมมูณา การ์เด้นโฮม เขตมีนบุรี แสดงให้เห็นว่าชายคนดังกล่าวมีความเกี่ยวข้องกับสถานที่เก็บระเบิด แต่อาจไม่ใช่ชายเสื้อเหลืองผู้ก่อเหตุระเบิดที่ราชประสงค์
นอกจากนี้ ยังตรวจสอบพบว่า นายไมไรลี ยูซูฟู เป็นผู้สั่งซื้อเคมีภัณฑ์และชิ้นส่วนวัตถุประกอบระเบิดผ่านทางอินเทอร์เน็ตอยู่สองครั้ง คือเดือนกรกฎาคมและสิงหาคม เคยทำงานบริษัทขายสินค้า และจดทะเบียนการออกใบอนุญาตให้ชาวต่างชาติทำงานในไทย ในบริษัทแห่งหนึ่งย่าน ถ.สุรวงศ์ เขตบางรัก แต่ปัจจุบันปิดตัวลงแล้ว
อย่างไรก็ดี แหล่งข่าวเปิดเผยว่า จากการตรวจสอบพบว่าช่วงเช้าวันที่ 17 สิงหาคม 2558 ซึ่งเป็นวันเกิดเหตุ กลุ่มผู้ร่วมขบวนการได้รวมตัวกันที่ย่านมีนบุรี ก่อนกระจายลงพื้นที่ย่านบางคอแหลม สถานีรถไฟหัวลำโพง และสี่แยกราชประสงค์ โดยบริเวณสี่แยกราชประสงค์คนร้ายเดินทางมาที่เกิดเหตุจำนวนสองคน หนึ่งในนั้นคือชายเสื้อเหลืองด้วย และได้วางระเบิดก่อนเรียกแท็กซี่ออกจากจุดเกิดเหตุ
ส่วนกรณีที่ทางเจ้าหน้าที่ได้ปิดล้อมตรวจค้นบ้านเช่าต้องสงสัยในซอยราษฎร์อุทิศ 34 เขตมีนบุรี หลังได้รับแจ้งว่าอาจจะเป็นที่กบดาน หรือเก็บวัตถุพยาน พล.ต.ท. ประวุฒิ กล่าวว่า จากการตรวจสอบถังบรรจุสารเคมีในบ้านพักหลังดังกล่าว พบว่าเป็นสารเคตามีน ซึ่งเป็นสารที่ใช้เป็นส่วนผสมของยาเค ไม่ใช่สารประกอบระเบิดแต่อย่างใด นอกจากนี้จากการสอบถามข้อมูลจากผู้ให้เช่าและเพื่อนบ้านพบว่า บ้านหลังดังกล่าวไม่มีการเก็บเอกสารในการเช่า แต่ น.ส.วรรณา สวนสัน เคยเดินทางเข้า-ออกบ้านหลังนี้หลายครั้ง และเป็นที่รู้จักกับเพื่อนบ้านในบริเวณดังกล่าวเป็นอย่างดี
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ได้รับการประสานจากทหารว่าจะส่งมอบตัว นายอาเดม คาราดัก ผู้ต้องหาครอบครองวัตถุระเบิดที่ถูกจับกุมได้ที่พูลอนันต์ อพาร์ทเม้นท์ ย่านหนองจอก เมื่อวันที่ 29 สิงหาคมที่ผ่านมา หลังจากครบ 7 วันที่ทหารควบคุมตัวไว้สอบสวนขยายผลตามมาตรา 44 โดยเจ้าหน้าที่จะทำการสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้งเนื่องจากเพิ่งได้รับมอบตัวมา เบื้องต้นผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธ และคาดว่าหากสอบสวนเสร็จสิ้นแล้ว จะนำไปขออำนาจศาลจังหวัดมีนบุรีฝากขังผลัดแรกในวันนี้ (4 กันยายน 2558) แต่หากส่งฝากขังไม่ทัน จะนำตัวไปควบคุมไว้ที่ สน.มีนบุรี เพื่อคุมไปฝากขังในวันพรุ่งนี้ (5 กันยายน 2558) ต่อไป
อย่างไรก็ตาม คาดว่าเร็ว ๆ นี้จะมีการออกหมายจับ และขยายผลตรวจค้นบ้านพักของผู้ต้องสงสัยเพิ่มอีกหลายแห่ง แต่ตอนนี้ยังไม่สามารถบอกรายละเอียดได้ เพราะบางขั้นตอนเป็นการปฏิบัติงานลับของเจ้าหน้าที่ หากเปิดเผยอาจได้รับอันตราย
***หมายเหตุ : อัพเดทข้อมูลล่าสุดเมื่อเวลา 16.17 น. วันที่ 4 กันยายน 2558
ภาพจาก เรื่องเลาเช้านี้ บีอีซี-เทโร
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
