สั่งออกราชการนายตำรวจใหญ่เมืองโคราช ใช้อำนาจเบ่งกินอาหารฟรี-ทำร้ายร่างกายพนักงาน ด้านน้องชายเจ้าของร้าน ออกโรงแจงเป็นเรื่องเข้าใจผิด ตนเป็นคนให้กินฟรีเอง
จากกรณีที่ พ.ต.ท. ปราการ กอปรสิริพัฒน์ สว.สส.สภ.คง. จ.นครราชสีมา และพวกอีก 2 คน ได้มีการเบ่งกินฟรีในร้านก๋วยเตี๋ยวที่ ร้าน ส.สุนทร ถนนช้างเมือง จ.นครราชสีมา และมีการทำร้ายร่างกายพนักงานในร้านจนได้รับบาดเจ็บจมูกหัก เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2558 ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น (อ่านข่าว : เชือดพ้นราชการ พ.ต.ท. เบ่งกินก๋วยเตี๋ยวฟรี-ชกเด็กเก็บตังค์ดั้งหัก)
ทั้งนี้ รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ทางช่อง 3 รายงานความคืบหน้าของเรื่องราวดังกล่าวว่า ได้รับข้อมูลจากเฟซบุ๊ก วรชิต แพงไพรี ซึ่งอ้างว่าเป็นน้องชายของเจ้าของร้านอาหารที่เกิดเหตุ ออกมาชี้แจงว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องเข้าใจผิด และตนเป็นคนบอกให้ พ.ต.ท. ปราการ ไม่ต้องจ่ายเงินค่าอาหารเอง แต่ไม่ได้บอกพนักงานในร้าน พนักงานจึงไปทวงเงินค่าอาหาร ก่อนจะไปแจ้งพี่ชายตน จนเป็นต้นเหตุในเรื่องราวดังกล่าว
ด้าน พล.ต.ท. พิสัณห์ จุลดิลก ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 ยืนยันว่า ได้รับแจ้งจากผู้ประกอบการร้านดังกล่าวว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจแสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสมในลักษณะนี้อยู่บ่อยครั้ง จึงมีคำสั่งให้ออกราชการพร้อมตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัย เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างกับเจ้าหน้าที่คนอื่นแล้ว
ความคืบหน้าล่าสุด (7 กันยายน 2558) นายสุนทร แพงไพรี เจ้าของร้าน ส.สุนทรตัวจริง ได้มีการออกมาเปิดเผยข้อมูลโดยยืนยันว่า ผู้ที่ใช้ชื่อเฟซบุ๊ก วรชิต แพงไพรี และมีการออกมาอ้างว่าเป็นเจ้าของร้านดังกล่าวนั้น คือน้องชายของตนจริง แต่ไม่ได้เป็นเจ้าของร้านที่แท้จริง แค่อาจจะรู้จักกับสารวัตรคนก่อเหตุ
ทั้งนี้ นายสุนทร กล่าวว่า ตนยืนยันว่าเรื่องดังกล่าวที่เกิดขึ้นนี้ ไม่มีการเข้าใจผิดกันแน่นอน เพราะภาพจากกล้องวงจรปิดบันทึกให้เห็นพฤติกรรมทั้งหมดไว้ได้อย่างชัดเจน และตนได้มีการโทรศัพท์ไปคุยกับนายวรชิต แพงไพรี น้องชายแล้ว ซึ่งน้องชายก็ยอมรับว่ารู้จักกับสารวัตรต้นจริง และที่โพสต์ข้อความไปนั้นเพียงแค่อยากช่วยเพราะเห็นเป็นคนรู้จักกัน แต่เมื่อเห็นภาพคลิปวิดีโอแล้วรู้สึกว่าเรื่องดังกล่าวไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ ซึ่งการทำร้ายร่างกายพนักงานของร้านได้รับบาดเจ็บสาหัส ต้องใช้เวลารักษาตัวหลายวัน ถือว่าเป็นเรื่องร้ายแรง และจะไม่ยอมความแน่นอน
เบื้องต้นได้พาตัวผู้เสียหายเข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่แล้ว เพื่อให้ปากคำพร้อมมีการสอบปากคำพยานที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด ซึ่งตนยืนยันว่าจะต้องมีการดำเนินคดีตามกฎหมายให้ถึงที่สุด
***หมายเหตุ : อัพเดทข้อมูลล่าสุดเมื่อเวลา 17.35 น. วันที่ 7 กันยายน 2558
ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้ บีอีซี-เทโร
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก