ศาลฎีกาแก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ จำคุก หมูแฮม กัณฑ์พิทักษ์ ปัจฉิมสวัสดิ์ 2 ปี 1 เดือน ไม่รอลงอาญา ด้านบุตรสาวผู้ตายภูมิใจได้ทำเพื่อแม่ หลังต่อสู้คดีมานาน
จากกรณีที่อัยการฝ่ายคดีศาลจังหวัดพระโขนง นายมาโนจน์ หรือธนชรพล โตจวง, นางสาวสังวาล สีหะวงษ์, นางสาวสุชีรา อินทร์สุวรรณ์ และนางทองดำ หลวงแสง เป็นโจทก์ร่วมที่ 1-4 ร่วมกันฟ้อง นายกัณฑ์พิทักษ์ ปัจฉิมสวัสดิ์ หรือ หมูแฮม อายุ 25 ปี บุตรชาย นายกัณฑ์เอนก ปัจฉิมสวัสดิ์ กับนางสาวิณี ปะการะนัง อดีตนางสาวไทยปี 2527 เป็นจำเลยในความผิด 3 ข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา พยายามฆ่าผู้อื่น และทำร้ายร่างกายผู้อื่นทำให้ได้รับอันตรายแก่กาย หลังก่อเหตุทำร้ายร่างกาย ขับรถชนคนบนทางเท้าจนเป็นผลให้ นางสายชล หลวงแสง พนักงานการเงิน ขสมก. เสียชีวิต เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2550
โดยคดีนี้ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่า จำเลยกระทำความผิดฐานฆ่าผู้อื่นในขณะไม่สามารถบังคับตนเองได้ เพราะมีจิตบกพร่อง เห็นควรให้จำคุกจำเลย 3 ปี และเมื่อจำเลยได้บรรเทาผลร้ายโดยชดใช้ค่าเสียหายให้กับผู้เสียชีวิต 1 ราย และผู้บาดเจ็บ 3 ราย จนเป็นที่พอใจและไม่ติดใจดำเนินคดีแพ่ง และคดีอาญากับจำเลยต่อไป จึงเห็นควรลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุกจำเลยเป็นเวลา 2 ปี และเมื่อรวมโทษฐานทำร้ายร่างกายผู้อื่น อีก 1 เดือน รวมจำคุกทั้งสิ้นเป็นเวลา 2 ปี 1 เดือน เมื่อพิเคราะห์พฤติการณ์แห่งคดีแล้ว โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 2 ปี โดยให้จำเลยรายงานตัวต่อเจ้าพนักงานคุมประพฤติ และให้จำเลยไปรักษาความบกพร่องทางจิตเป็นประจำตามที่แพทย์กำหนด ซึ่งต่อมาโจทก์และโจทก์ร่วมได้ยื่นฎีกานั้น
ล่าสุดวันนี้ (18 กันยายน 2558) ศาลฎีกาพิเคราะห์แล้วเห็นว่า จำเลยกระทำผิดจริง จากผลการตรวจสอบจากทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยา เชื่อได้ว่าจำเลยมีอาการป่วยด้วยโรคสภาพจิตแปรปรวน มีปัญหาด้านการตัดสินใจจริง และตามรายงานประวัติของแพทย์ พบว่าจำเลยเสพยาเสพติดหลายชนิดตั้งแต่อายุ 17 ปี ประกอบกับบิดายังให้จำเลยขับรถ จึงถือเป็นพฤติกรรมร้ายแรง ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วยตามคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ จึงพิพากษาแก้ให้จำคุกจำเลยไว้ 2 ปี 1 เดือน โดยไม่รอลงอาญา ทั้งนี้ต่อมาเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้นำตัวนายกัณฑ์พิทักษ์ ไปคุมขังไว้ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ตามคำพิพากษาของศาลฎีกาต่อไปแล้ว
ด้าน นายเกิดผล แก้วเกิด ทนายโจทก์ร่วมที่ 3 กล่าวว่า วันนี้ศาลฎีกาพิพากษาแก้ศาลอุทธรณ์ จำคุก 2 ปี 1 เดือน โดยให้เหตุผลว่า มีพฤติกรรมไม่ควรรอลงอาญา ซึ่งคดีนี้ถือว่าถึงที่สุดแล้ว หลังจากนี้ก็ปฏิบัติตามคำพิพากษาของศาล และขอให้ทั้ง 2 ฝ่าย อโหสิกรรมให้กัน และในฐานะทนายความ พอใจกับคำพิพากษาของศาลวันนี้
ด้าน นางสาวสุชีรา อินทร์สุวรรณ์ กล่าวด้วยความรู้สึกภูมิใจที่ต่อสู้กับเรื่องนี้มานาน และทำได้เท่าที่ในฐานะที่ลูกคนนี้จะทำให้คนเป็นแม่ได้
***หมายเหตุ : อัพเดทข้อมูลล่าสุดเมื่อเวลา 13.25 น. วันที่ 18 กันยายน 2558
ภาพจาก js100.com
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
