นายกฯ แถลงยูเอ็น พร้อมร่วมมือยุติความรุนแรง ลั่นคนไทยรับไม่ได้บึ้มกรุงเทพฯ

          นายกฯ กล่าวถ้อยแถลงเวทียูเอ็น ขอบคุณมิตรประเทศให้กำลังใจไทยกรณีระเบิดกลางกรุงเทพฯ ลั่นคนไทยไม่ยอมรับการก่อเหตุเยี่ยงนี้ พร้อมร่วมมือกับประชาคมโลก ขจัดความรุนแรงทุกประเภท ยันพร้อมเป็นหุ้นส่วนสมาชิกเดินหน้าเผชิญความท้าทายใหม่ เพื่อมุ่งไปสู่เป้าหมายที่ยั่งยืน

          วันที่ 30 กันยายน 2558 พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถ้อยแถลงในการการอภิปรายทั่วไปของการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ ครั้งที่ 70 (UNGA70)  ในหัวข้อ “The United Nations at 70 – the road ahead to peace, security and human rights” เกี่ยวกับปัญหาที่ซับซ้อนในปัจจุบัน ซึ่งไทยได้นำแนวคิด ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันและความเติบโตอย่างยั่งยืน ขณะที่ปัญหาแต่ละประเทศมีความเฉพาะตัวจึงต้องเน้นการมองและแก้ไขปัญหาด้วยความยืดหยุ่น โดย พลตรี วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญ ดังนี้

          นายกฯ ขอแสดงความยินดีกับสหประชาชาติที่ก่อตั้งและดำเนินการมาแล้ว 70 ปี และขอบคุณมิตรประเทศที่ร่วมแสดงความเสียใจ และส่งกำลังใจให้ไทย จากกรณีระเบิดที่กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 17 สิงหาคมที่่ผ่านมา ไทยขอประณามผู้ก่อเหตุในครั้งนี้ คนไทยไม่สามารถยอมรับการก่อเหตุรุนแรงเยี่ยงนี้ได้ ประเทศไทยจะร่วมมือกับประชาคมโลกอย่างถึงที่สุดเพื่อยุติความรุนแรง


          พล.อ. ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ไทยเป็น 1 ใน 48 ประเทศแรกที่ให้การรับรองปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน (Universal Declaration on Human Rights) เมื่อปี ค.ศ. 1948 และยังได้เข้าไปปฏิบัติหน้าที่สมาชิกคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (Human Rights Council) ระหว่างปี ค.ศ. 2010-2013 โดยได้ดำรงตำแหน่งประธานคณะมนตรีดังกล่าวในช่วงปี ค.ศ. 2010-2011 ซึ่งเป็นโอกาสที่ไทยได้ทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมโยงประเทศและกลุ่มประเทศที่มีความเห็นที่แตกต่าง โดยเน้นการไม่เลือกปฏิบัติ การเป็นหุ้นส่วนที่สร้างสรรค์ รวมถึงการส่งเสริมขีดความสามารถในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน

          นายกฯ กล่าวอีกว่า ในรอบปีที่ผ่านมา ผู้คนทั่วทุกมุมโลกต่างต้องเผชิญกับความท้าทายในรูปแบบต่าง ๆ ที่คุกคาม ทั้ง 3 เสาหลักของสหประชาชาติ สันติภาพและความมั่นคง สิทธิมนุษยชน และการพัฒนา ดังจะเห็นได้จากความขัดแย้งอันเกิดจากความแตกต่างทางความคิดที่นำไปสู่สถานการณ์ความรุนแรงในภูมิภาคต่าง ๆ ความเหลื่อมล้ำไม่เท่าเทียมกันในสังคม การเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ ความเสื่อมโทรมของสิ่งแวดล้อม หรือผลจากภัยธรรมชาติ

          "ไทยให้ความสำคัญกับเสาหลักทั้งสามของสหประชาชาติ และได้ร่วมมือกับประชาคมระหว่างประเทศอย่างต่อเนื่องเพื่อแสดงบทบาทที่สร้างสรรค์ในด้านต่าง ๆ อาทิ การพัฒนาอย่างยั่งยืน สิ่งแวดล้อม การลดความเสี่ยงจากการเกิดภัยพิบัติ การช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม เพื่อช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติจากธรรมชาติและความขัดแย้ง และยังมุ่งมั่นที่จะให้ความร่วมมือและแสดงบทบาทที่สร้างสรรค์ต่อไปในเวทีโลก" นายกฯ กล่าวและว่า ดังนั้น ไทยมีความเชื่อมั่นอย่างยิ่งในพลังของประเทศสมาชิก ที่จะขับเคลื่อนองค์กรแห่งนี้ ให้เราเข้มแข็งไปพร้อม ๆ กัน และตนขอยืนยันว่า ประเทศไทยพร้อมที่จะเป็นหุ้นส่วนกับเพื่อนประเทศสมาชิก เพื่อเผชิญหน้ากับความท้าทายทั้งเก่าและใหม่ และนำมาซึ่งการพัฒนาที่ยั่งยืนในทุกมิติ เพื่อประโยชน์สุขร่วมกันของประชาคมระหว่างประเทศ




ภาพจาก รัฐบาลไทย

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก รัฐบาลไทย