ประวุฒิ ถาวรศิริ แจงรายละเอียดปมศาลปกครองเชียงใหม่ สั่ง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ชดใช้เงิน "พีซีซี ดีเวลล็อปเม้นท์" ปมยกเลิกสัญญาสร้างโรงพักฉาว 396 แห่ง เล็งอุทธรณ์คำสั่งศาล
เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2558 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) พล.ต.ท. ประวุฒิ ถาวรศิริ รักษาราชการแทนโฆษก สตช. กล่าวถึงกรณีที่ศาลปกครองเชียงใหม่ ตัดสินให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ต้องชดใช้ค่าเสียหาย 96 ล้านบาท แก่บริษัท พีซีซี ดีเวลล็อปเม้นท์ แอนด์ คอนสตรัคชั่น ที่รับเหมาก่อสร้างในโครงการสร้างที่ทำการทดแทนสถานีตำรวจ 396 แห่ง (อ่านข่าว ศาลปกครอง สั่ง สตช. ชดใช้เงิน 96 ล้านบาท ค่าก่อสร้างโรงพักร้าง 396 แห่ง) ว่า คดีนี้ทางบริษัท เขาฟ้องว่าการยกเลิกสัญญาของ สตช. นั้นไม่ชอบด้วยกฎหมาย แต่ศาลปกครองได้มีคำพิพากษาว่าการยกเลิกสัญญานั้นชอบแล้ว โดยทางบริษัทได้ฟ้องทั้งหมด 7 ข้อ คือ
1. ค่างวดงานที่ได้ก่อสร้างและส่งมอบแล้ว แต่ยังไม่ได้รับการชำระเงิน จำนวน 13 แห่ง เป็นเงิน 18,300,812 บาท
2. ค่าวัสดุและอุปกรณ์ก่อสร้างที่ส่งเข้าไปบริเวณก่อสร้างในแต่ละท้องที่ 333 สถานี เป็นเงิน 370,221,168.55 บาท
3. ค่าใช้จ่ายการบริหารต่าง ๆ ที่เกิดจากความล่าช้าของผู้ถูกฟ้องคดี เป็นเงิน 163,429,449.94 บาท
4. ค่าธรรมเนียมยื่นซองประมูล เป็นเงิน 2,117,873.64 บาท
5. หนังสือค้ำประกันธนาคารออมสิน จำนวน 292,400,000 บาท และจำนวน 877,200,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี
6. ค่าธรรมเนียมในการยื่นซองประมูลราคาเข้าดำเนินการตามสัญญา จำนวน 2,117,873.64 บาท
7. ให้ชำระค่าผลกำไรที่จะได้รับจากการดำเนินโครงการ เป็นเงิน 500,000,000 บาท
รวมเป็นเงินประมาณกว่า 2,000 ล้านบาท แต่ทว่าศาลพิพากษาสำนักงานตำรวจแห่งชาติชดใช้เงินเพียง 2 ข้อและไม่ได้ครบตามจำนวนเงินทั้งหมด ได้แก่ ค่างวดงานที่ได้ก่อสร้างและส่งมอบแล้ว จำนวนเงินรวมทั้งสิ้น 18 ล้าน แต่ศาลให้ชดใช้เพียง 15.6 ล้าน และค่าวัสดุและอุปกรณ์ก่อสร้าง บริษัทฟ้องเรียกราคา 370 ล้านบาท แต่ศาลพิจารณาให้เพียง 82.2 ล้านบาท รวมทั้งหนังสือค้ำประกันของธนาคารออมสิน สาขาประตูช้างเผือก เป็นเงิน 292,400,000 บาท ศาลพิพากษาให้คืน นอกจากนั้นก็ยกคำฟ้องหมด
พล.ต.ท. ประวุฒิ กล่าวว่า ตอนนี้ศาลสั่งให้ สตช. คืนเงินให้บริษัท เป็นเงิน 96 ล้านบาท พร้อมคืนหนังสือค้ำประกันงาน 292,400,000 บาท อย่างไรก็ตามยังมีบางประเด็นที่ สตช. จะต้องดำเนินการขออุทธรณ์ต่อศาลปกครองต่อไป โดยตอนนี้ยังไม่ถือว่า สตช. แพ้คดีเพราะศาลได้พิพากษาว่าการยกเลิกสัญญาของ สตช. นั้นชอบด้วยกฎหมายแล้ว เพียงแต่สิ่งที่ศาลให้ สตช. คืนคือเงินค้ำประกันสัญญาเนื่องจากสัญญาได้ถูกยกเลิกแล้ว แต่ สตช. มีสิทธิ์โต้แย้งอยู่ เพราะอาจมีกรณีความเสียหายที่มากกว่าในกรณีที่ถ้าก่อสร้างต่อแล้วมีราคาแพงขึ้นมากกว่าเดิม ทั้งนี้ ตนยังไม่ได้ตรวจสอบว่า สตช. มีการฟ้องแย้งไปหรือไม่ แต่จากนี้จะต้องมีการอุทธรณ์แน่นอน
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ถือว่าคดีดังกล่าวยังไม่ถือว่าสิ้นสุด และยังมีอีกหลายประเด็นที่มีการโต้แย้งกันอยู่ เช่น กรณีค่างวดงาน 18 ล้าน เขามีการลงทุนไปแล้วแต่ฟ้องมา 18 ล้าน ศาลจึงให้แค่ 15 ล้าน ส่วนกรณีเงินค้ำประกันก็คืนไปตามขั้นตอน ส่วนวัสดุที่อยู่ในไซต์งานก่อสร้างที่ฟ้อง 300 กว่าล้าน ศาลก็ให้เพียง 82 ล้าน เป็นต้น ตอนนี้คือ สตช. ต้องคืนเงิน 96 ล้านกับเงินค้ำประกันสัญญาที่ต้องคืนให้กับบริษัทคู่กรณีไป
นอกจากนี้ทาง สตช. อาจมีการขออุทธรณ์ต่อไป โดยมีกองคดีปกครองของกองคดี สตช. ทำหน้าที่ติดตามและส่งข้อมูลหลักฐาน รวมถึงไปให้การในชั้นศาล ซึ่งจะต้องขอตรวจสอบรายละเอียดเกี่ยวกับการประมาณการก่อนว่าการก่อสร้างทำให้ สตช. สูญเสียเงินมากขึ้นตรงไหนบ้าง เช่น วัสดุแพงขึ้น เรื่องของเวลา เรื่องของใช้บางอย่างที่ใช้ไม่ได้ ต้องไปฟ้องเรียกจากบริษัทด้วย ซึ่งสัญญานี้เกิดขึ้นตั้งแต่สมัย พล.ต.อ. อดุลย์ แสงสิงแก้ว อดีต ผบ.ตร. ได้ตั้งคณะกรรมการดูแล ส่วนการก่อสร้างหลายโรงพักก็กำลังใกล้เสร็จแล้ว
