สมคิด ประชุมร่วม กระทรวงคมนาคม เร่งเดินหน้าเส้นทางรถไฟ ไทย-ญี่ปุ่น-จีน ชี้หากทำเส้นทางเชื่อมตะวันออก-ตกตัดเหนือ-ใต้ สำเร็จไทยจะเป็นศูนย์กลางอาเซียน
วันที่ 5 ตุลาคม 2558 นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายเศรษฐกิจ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานประชุมเรื่องการพัฒนาเส้นทางรถไฟและถนนร่วมกับ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม โดยมีสาระสำคัญดังนี้
1. เส้นทางเชื่อมตะวันออก-ตะวันตก (อีสต์ เวสต์ คอริดอร์ส) เส้นทางบกจะเป็นถนนจาก จ.มุกดาหารถึง อ.แม่สอด จ.ตาก การก่อสร้างคืบหน้าเกินครึ่งจะแล้วเสร็จในปี 2559 ทำให้สามารถนั่งรถจากลาวไปพม่าได้ สำหรับเส้นทางรถไฟ ตะวันออก-ตะวันตก (ด้านล่าง) เส้นทางกาญจนบุรี-กรุงเทพฯ-ระยอง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของรถไฟไทย-ญี่ปุ่น จะเริ่มประมูลได้ภายในปี 2558 ช่วยในการขนส่งไปถึงพม่าและอินเดียได้รวดเร็วขึ้น ส่วนเส้นตะวันออก-ตะวันตก (ด้านบน) มุกดาหาร-ขอนแก่น-พิษณุโลก-ตาก ที่ญี่ปุ่นช่วยในการศึกษา จะมีประโยชน์ในการขนคน ช่วยสร้างความเจริญไปยังจังหวัดใหญ่ในภาคอีสาน
2. ส่วนรถไฟไทย-จีน เส้นทางหนองคาย-แก่งคอย-กรุงเทพฯ และแก่งคอย-มาบตาพุด ที่เป็นเส้นยุทธศาสตร์ของไทยกับจีนนั้น ต้องหารือกับจีนว่าจะช่วยเหลือไทยอย่างไร ซึ่งคมนาคมต้องวางแผนให้สองข้างทางของเส้นทางดังกล่าวมีความเจริญทั้งทางเศรษฐกิจ และธุรกิจการท่องเที่ยว
3. หากทำเส้นตะวันออก-ตะวันตกตัดเส้นเหนือ-ใต้ ไทยจะเป็นจุดศูนย์กลางของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนทันที จึงอยากให้ทำควบคู่กันไป ซึ่งภาคอีสานจะได้ประโยชน์และมีการพัฒนาขึ้น ดังนั้นการลงทุนต้องดูผลในเชิงเศรษฐศาสตร์ด้วย ไม่ใช่ดูกำไรขาดทุนอย่างเดียว
ด้านนายอาคม เผยว่า รถไฟเส้นทางกรุงเทพฯ-แหลมฉบัง จะดำเนินการก่อน โดยคณะสำรวจออกแบบของญี่ปุ่นเมื่อถึงจะใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ในการดำเนินการ ซึ่งต้องรอผลศึกษาของญี่ปุ่นก่อน ส่วนการเชื่อมต่อไปกาญจนบุรีต้องหารือกับพม่าอีกครั้งเพราะจะเชื่อมไปทวายด้วย
และสำหรับ เส้นทางตะวันออก-ตะวันตก ช่วงพิษณุโลก-หล่มสัก คาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ประมาณเดือนธันวาคมนี้ ส่วนรถไฟตะวันออก-ตะวันตก สายแม่สอด-มุกดาหาร ต้องรอญี่ปุ่นศึกษาเพิ่มเติมว่าเหมาะสมเพียงใด ซึ่งรัฐบาลได้วางโครงสร้างพื้นฐานไปไว้ในเมืองหลัก ๆ เป็นจุดใหญ่ที่จะรองรับภาคท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมไว้แล้ว
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
