รองโฆษกกองทัพบก เผย อนุมัติใช้เครื่องแบบสนามใหม่เพื่อความเหมาะสมในภารกิจ แจงยังไม่ยกเลิกเครื่องแบบสนามสมัยบิ๊กโด่ง เมื่อกลางปี 2558 หลังพบมีข้อจำกัดมากและถูกท้วงติง วอนสื่ออย่าเสนอข่าวให้สังคมเข้าใจผิด
จากกรณีเมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2558 ที่มีข่าวว่า พล.อ. ธีรชัย นาควานิช ผู้บัญชาการทหารบก สั่งให้เปลี่ยนเครื่องแบบสนามใหม่ ในสมัย พล.อ. อุดมเดช สีตบุตร ดำรงตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการทหารบก ในการประชุมหารือเกี่ยวกับเครื่องแบบสนามใหม่ที่กองทัพบกได้อนุมัติให้ใช้เครื่องแบบสนามเพื่อพรางไปก่อนเมื่อกลางปี 2558
ล่าสุด (11 ตุลาคม 2558) พ.อ. หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก กล่าวชี้แจงกรณีดังกล่าวว่า เนื่องจากที่ผ่านมากองทัพบกได้รับเสียงสะท้อนจากหน่วยและกำลังพลว่าเครื่องแบบสนามเพื่อพรางมีข้อจำกัด เช่น วัสดุบางอย่างที่ใช้ประกอบเสื่อมสภาพได้ง่าย ข้อจำกัดของแขนเสื้อกำลังพลที่มีรูปร่างอ้วนจะรู้สึกไม่สบายในการสวมใส่ รวมทั้งเรื่องของราคา จึงเสนอให้มีการปรับปรุงแก้ไขเพื่อให้เหมาะสมกับสภาพการใช้งานยิ่งขึ้น
ทั้งนี้จึงได้มีการพิจารณาปรับเปลี่ยนรูปแบบบางอย่าง ด้วยการนำเครื่องแบบสนามที่เคยออกแบบไว้เมื่อปี 2557 แต่ยังไม่ประกาศใช้ มาร่วมกับแบบใหม่เมื่อปี 2558 คือ นำมาแก้ตรงกระเป๋าเสื้อด้านล่างเป็นแบบเฉียงซ่อนในไม่มีซิปส่วนเครื่องหมายเป็นแบบเย็บติดทั้งหมด และยังสามารถใช้เครื่องแบบสนามที่ประกาศใช้ในปี 2558 ได้ต่อไป ยังไม่ได้มีการยกเลิก ส่วนเครื่องแบบสนามที่ได้มีการพิจารณาเมื่อวันที่ 9 ตุลาคมนั้น เป็นเครื่องแบบสนามอีกรูปแบบหนึ่งที่ให้กำลังพลสามารถนำไปสวมใส่ได้ตามความเหมาะสมของภารกิจ เช่น เดินทางไปต่างประเทศ, ราชการสนาม, ภารกิจกองกำลังชายแดน และการปฏิบัติงานในหน่วยที่ตั้งปกติ เป็นต้น
โดยที่ผ่านมา ทางกองทัพบกได้ปรับปรุงและพัฒนาเครื่องแบบสนามมาเป็นระยะ โดย 2-3 ปีมานี้ ได้พัฒนาจากชุดลายพรางปกติมาเป็นชุดลายพรางดิจิตอล ซึ่งมีความกลมกลืนกับภูมิประเทศ และเป็นเครื่องแบบสนามที่อนุมัติใช้อยู่ในปัจจุบัน จนกระทั่งปี 2557 ได้มีการกำหนดเครื่องแบบสนามให้เหมาะสมยิ่งขึ้นแต่ยังไม่ทันอนุมัติใช้ เนื่องจากเป็นช่วงบ้านเมืองไม่ปกติ และต่อมาในปี 2558 ได้มีการกำหนดเครื่องแบบสนามออกมาอีกรูปแบบหนึ่งที่ได้รับการท้วงติงเป็นจำนวนมาก ซึ่งให้ใช้ไปพลาง ๆ ก่อนแต่ยังไม่ได้อนุมัติอย่างเป็นทางการ
อย่างไรก็ตาม ผู้บังคับบัญชาระดับสูงได้รับฟังความคิดเห็นและใช้ดุลยพินิจอย่างรอบคอบในทุกด้าน เพื่อคำนึงถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับกำลังพล จึงขอให้สื่อมวลชนเข้าใจและอย่านำไปเชื่อมโยงกับเรื่องใด ๆ ที่จะก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในสังคม รวมทั้งขอให้เสนอข่าวที่เป็นข้อเท็จจริงด้วย
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Wassana Nanuam
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
