พนักงานไทยพีบีเอส ยื่นจดหมายถึงประธานบอร์ดนโยบายฯ ให้แจงกรณีเลิกจ้าง สมชาย ผอ.ไทยพีบีเอส ชี้กระทบต่อภาพลักษณ์องค์กร ด้านคณะกรรมการนโยบาย เผยเหตุปลดสมชาย เพราะไม่ผ่านการประเมิน-ผิดสัญญาจ้าง
จากกรณีที่ประชุมกรรมการนโยบายไทยพีบีเอส มีมติปลด สมชัย สุวรรณบรรณ ผู้อำนวยการองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ส.ส.ท.) หรือไทยพีบีเอส รวมถึงผู้บริหารยกชุด โดยให้เหตุผลการปลดในครั้งนี้ว่าเกิดจากการผิดสัญญาจ้าง โดยเฉพาะกรณีอนุมัติโครงการที่มีวงเงินเกิน 50 ล้านบาท โดยไม่ได้รับอนุมัติจากกรรมการนโยบายถึง 4 ครั้ง ตามที่ได้มีรายงานไปแล้วนั้น [อ่านข่าว ปลดฟ้าผ่า ! เลิกจ้าง สมชัย สุวรรณบรรณ ผอ.ไทยพีบีเอส พ่วงผู้บริหารยกชุด]
ความคืบหน้าล่าสุด (12 ตุลาคม 258) เวลาประมาณ 13.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พนักงานของไทยพีบีเอสส่วนหนึ่งรวมตัวกันยื่นจดหมายถึง นายณรงค์ เพ็ชรประเสริฐ ประธานคณะกรรมการนโยบาย ส.ส.ท. และคณะกรรมการบริหารถึงมติดังกล่าว เนื่องจากเห็นว่าเป็นการทำลายภาพลักษณ์ขององค์กร
โดยข้อความในจดหมาย ระบุว่า จากมติที่ให้เลิกจ้างนายสมชายและกรรมการบริหารยกชุดก่อนครบวาระนั้น ทำให้เกิดความสับสนและไม่เชื่อมั่นในการทำงานรวมทั้งส่งผลต่อภาพลักษณ์องค์กรในการทำหน้าที่สื่อสาธารณะในสังคมไทย จึงขอให้คณะกรรมการนโยบาย ส.ส.ท. มาชี้แจงเหตุผลการเลิกจ้างดังกล่าวต่อพนักงานภายในวันนี้ (12 ตุลาคม) ซึ่งหลังจากนายณรงค์ได้รับจดหมายแล้ว ก็ได้กล่าวเพียงสั้น ๆ ว่า ตนกับนายสมชายเป็นเพื่อนรุ่นพี่รุ่นน้องกันมาก่อนและไม่มีเรื่องส่วนตัวกัน
ด้าน นายสมชัยได้เดินทางมาที่ไทยพีบีเอสวันนี้ เพื่อชี้แจงต่อคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีการอนุมัติโครงการจัดซื้อจัดจ้างอุปกรณ์โครงข่าวทีวีดิจิตอลที่มีมูลค่าเกิน 50 ล้านบาท ซึ่งนายสมชัยระบุว่าเป็นประเด็นหนึ่งที่คณะกรรมการนโยบายใช้เป็นเหตุผลในการเลิกจ้าง รวมทั้งกล่าวถึงกรณีที่การสรรหาผู้มารับตำแหน่งต่อจากตนว่า ไม่แน่ใจว่าผู้รับตำแหน่งคนใหม่จะมาทำงานในบรรยากาศแบบนี้ได้หรือเปล่า เพราะกรณีนี้เป็นการวางมาตรฐานบางอย่างที่น่ากังวลใจ
อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลา 14.14 น. คณะกรรมการนโยบาย ส.ส.ท. ได้เผยแพร่เอกสารชี้แจงถึงพนักงานฉบับที่ 2 ระบุว่า
"คณะกรรมการนโยบาย ส.ส.ท. ขอชี้แจงว่าได้กระทำไปตามอำนาจและหน้าที่ตามพระราชบัญญัติองค์การกระจายเสียงแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2551 โดยไม่มีการแทรกแซงจากภายนอก และเหตุที่มีมติปลดอย่างรวดเร็วในวันที่ 9 ตุลาคมที่ผ่านมา เพราะเป็นวันที่ นายสมชาย ทำงานตามสัญญาจ้างครบ 3 ปี และจะต้องถูกประเมิน ซึ่งทางคณะกรรมการนโยบายได้ประเมินอย่างละเอียดรอบคอบมาตั้งแต่เมื่อ 2 ตุลาคม 2558 แล้ว และมีการแจ้งแก่นายสมชาย ในเช้าของวันที่ 9 ตุลาคม พร้อมเสนอทางเลือกในการตัดสินใจ คือ เลือกระหว่างลาออกกับประเมินไม่ผ่าน ซึ่งนายสมชายเลือกที่จะไม่ลาออก นั่นก็คือการไม่ผ่านการประเมิน รวมทั้งยังกระทำผิดสัญญาจ้างอีกด้วย"
ภาพจาก news.thaipbs.or.th
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
