x close

เจาะปมอุทยานราชภักดิ์ เขย่ารัฐบาล-ผบ.ทบ. ออกโรงยันไร้ทุจริต !



เจาะปมอุทยานราชภักดิ์ เขย่ารัฐบาล-ผบ.ทบ. ออกโรงยันไร้ทุจริต !

เจาะปมอุทยานราชภักดิ์ เขย่ารัฐบาล-ผบ.ทบ. ออกโรงยันไร้ทุจริต !

           อุทยานราชภักดิ์ ของร้อนในมือรัฐบาลกับประเด็นอื้อฉาวในการจัดสร้าง ก่อน ผบ.ทบ. ออกมาเคลียร์หมดไม่มีหมกเม็ดหรือโกงแน่นอน โบ้ย อุดมเดช ไขปมหักหัวคิวโรงหล่อเอง

           ท่ามกลางวิกฤตการเมืองในสมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เมื่อมีกลุ่มต่อต้านออกมาเดินขบวนจนประเทศแทบจะชัตดาวน์ตัวเองลง เมื่อประเทศไม่สามารถขับเคลื่อนในเรื่องต่าง ๆ ได้ ในที่สุดเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ในขณะนั้น ต้องประกาศยึดอำนาจเพื่อคลายปมวิกฤตทางการเมือง จนกระทั่งก่อตั้งรัฐบาลเพื่อมาบริหารประเทศเป็นการชั่วคราว โดยรัฐบาลที่นำโดย พล.อ. ประยุทธ์ ได้ประกาศนโยบายหลายด้าน และหนึ่งในนั้นคือการชูธงที่จะปราบปรามทุจริตคอร์รัปชัน ซึ่งประชาชนค่อนข้างพอใจเป็นอย่างมากในการทำหน้าที่ปราบโกงทั้งภาครัฐและเอกชน

           อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สั่นคลอนรัฐบาล คสช. อยู่ในขณะนี้คงหนีไม่พ้นประเด็นความอื้อฉาวในเรื่องการจัดสร้างอุทยานราชภักดิ์ ที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้กองทัพบกเป็นผู้ดำเนินการจัดสร้าง "พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระบูรพกษัตริย์แห่งสยาม" พร้อมจัดสร้างอุทยานประวัติศาสตร์ เพื่อเป็นการเทิดทูนและประกาศเกียรติคุณสมเด็จพระมหากษัตริย์แห่งสยาม 7 พระองค์ ซึ่งโครงการดังกล่าว เริ่มในสมัย พล.อ. อุดมเดช สีตบุตร ผบ.ทบ. ในขณะนั้น และยังเป็นประธานมูลนิธิฯ ทั้งนี้เรื่องดังกล่าวมีหลายประเด็นที่ประชาชนเคลือบแคลงสงสัย จนเกิดคำถามตามมามากมายดังนี้

           ประเด็นที่ 1 เรื่องงบประมาณของมูลนิธิฯ โดยเฉพาะในเรื่องเงินบริจาค หากมองแล้วจะมีเงินอยู่ 2 กอง ซึ่งกองแรกไม่พบว่ามีอะไรคาใจ เพราะมีการแจกแจงรายชื่อผู้บริจาค พร้อมยอดเงินเผยแพร่อยู่ในเว็บไซต์ โดยเงินกองนี้มีกรมการเงินทหารเป็นคนดูแล

           แต่เงินกองที่ 2 เป็นเรื่องที่น่าแคลงใจเป็นอย่างยิ่ง เมื่อสำนักข่าว อิศรา ได้เผยแพร่ภาพหนึ่งที่กลุ่มบริษัท ช.การช่าง จำกัด ได้ส่งตัวแทนมอบเอกสารเช็คจำนวน 100 ล้านบาท โดยมี พล.อ. อุดมเดช เป็นผู้รับมอบ และฉากหลังคืออุทยานราชภักดิ์ จึงนำไปสู่การตั้งคำถามว่า มีเงินกองอื่นที่ไม่ได้เปิดเผย และไม่ลงในบัญชีรายรับ-รายจ่ายของมูลนิธิอีกหรือไม่ นั่นเป็นการย้อนกลับมาตั้งคำถามว่า ทางมูลนิธิไม่ได้จัดทำรายละเอียด "บัญชีรายรับ-รายจ่าย" ไว้เลยหรือ ซึ่งทั้งหมดชี้ให้เห็นว่า เงินส่วนที่เป็นปัญหาไม่ใช่เงินบริจาคในส่วนของกองทัพ แต่เป็นเงินบริจาคในส่วนของมูลนิธิ

           ประเด็นที่ 2 ที่ผู้คนให้ความสนใจคือ การจัดซื้อต้นปาล์มที่อยู่ในเขตอุทยานราชภักดิ์ ที่ระบุราคาไว้ต้นละ 3 แสนบาท ซึ่งสูงกว่าราคาท้องตลาด อีกทั้ง นายกัมพล ตันสัจจา เจ้าของสวนนงนุช ได้ให้สัมภาษณ์ไว้เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2558 ว่า สวนนงนุชได้บริจาคต้นปาล์มให้ทางอุทยานราชภักดิ์ เพื่อแสดงความจงรักภักดี จึงทำให้ข้อมูลราคาดูไม่ตรงกับความเป็นจริงรวมถึงรายละเอียดในส่วนของผู้บริจาค ซึ่งในส่วนนี้ พ.อ. สุชาติ พรมใหม่ เลขาธิการมูลนิธิ เป็นผู้ดูแล

           ประเด็นที่ 3 เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับกองทัพและรัฐบาลหรือไม่ หากย้อนไปดูโครงการอุทยานราชภักดิ์ เริ่มสมัย พล.อ. อุดมเดช ผบ.ทบ. ในขณะนั้น ได้มีเอกสารของสำนักนายกฯ ระบุว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติรับทราบตามสำนักเลขาธิการ ครม. โดยเนื้อหามีรายละเอียดข้อสั่งการของนายกฯ ที่ได้สั่งให้กองทัพ เป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินการจัดทำให้มีคณะทำงานดูแลการบริหารจัดการอุทยานราชภักดิ์ ซึ่งจะใช้วิธีใดก็ได้ให้พิจารณาตามความเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นการตั้งมูลนิธิ หรือกลไกในรูปแบบใด ซึ่งหากมองจากหนังสือราชการของสำนักนายกฯ หากจะบอกว่า รัฐบาลไม่เกี่ยวก็ไม่ได้ เพราะในแง่หนึ่ง คำสั่ง หรือแนวคิดนี้ ก็ออกมาจากคำสั่งของตัวนายกฯ เอง

           ประเด็นที่ 4 เรื่องของการเรียกหัวคิวโรงหล่อ โดยเรื่องนี้ พล.อ. อุดมเดช ออกมายอมรับว่ามี เซียนพระเรียกเก็บค่านายหน้าจากโรงหล่อจริง แต่ได้จัดการไปแล้ว โดยให้นำเงินเหล่านั้นไปคืนในรูปเงินบริจาค นั้นย่อมสรุปได้ว่า ความผิดสำเร็จไปแล้วหรือไม่

           จากทั้ง 4 ประเด็นเหล่านี้จึงนำมาสู่การตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการจัดสร้างโครงการอุทยานราชภักดิ์ ของกองทัพบก จนกระทั่งวันนี้ (20 พฤศจิกายน 2558) ครบกำหนดระยะเวลาที่วางกรอบไว้ 7 วัน พล.อ. ธีรชัย นาควานิช ผบ.ทบ. คนปัจจุบันได้ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงผลการสอบข้อเท็จจริงในโครงการอุทยานราชภักดิ์ โดยยืนยันว่า ไม่พบการทุจริตในโครงการดังกล่าว มีการดำเนินการอย่างโปร่งใส และไม่มีนายทหารเข้าไปเกี่ยวข้อง แต่หากพบมีเอี่ยวผลประโยชน์ก็จะจัดการอย่างเด็ดขาด ขณะที่ผลจากการตรวจสอบการเงิน ไม่พบทุจริตและมีหลักฐานแสดงต่อสาธารณะได้ นอกจากนั้น ที่ดินอุทยานฯ ก็เป็นของกองทัพบก ฉะนั้นการรับงานอุทยานฯ มาสานต่อต้องตรวจสอบความคืบหน้าว่าทำอะไรไปแล้วบ้าง ส่วนเรื่องการเรียกหัวคิวโรงหล่อนั้น ให้ไปถาม พล.อ. อุดมเดช เอง

           ทั้งนี้ คงต้องจับตาเหตุการณ์หลังจากนี้ ว่าประเด็นอื้อฉาวอย่างโครงการอุทยานราชภักดิ์จะสามารถสั่นคลอนรัฐบาล บิ๊กตู่ ได้มากขนาดไหน และ พล.อ. อุดมเดช จะตอบคำถามที่ พล.อ. ธีรชัย โยนเผือกร้อนไปให้อย่างไร

 าะติดข่าว อุทยานราชภัดิ์ ทั้งหมดคลิเลย


ภาพจาก เฟซบุ๊ก อุทยานราชภักดิ์

ขอบคุณข้อมูลจาก




เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เจาะปมอุทยานราชภักดิ์ เขย่ารัฐบาล-ผบ.ทบ. ออกโรงยันไร้ทุจริต ! อัปเดตล่าสุด 11 ธันวาคม 2558 เวลา 18:36:18 19,294 อ่าน
TOP