ศาลอุทธรณ์ แก้คำพิพากษาศาลชั้นต้น สั่งกักขัง สุดสงวน สุธีสร อาจารย์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ 1 เดือน ไม่รอลงอาญา ปมนำมวลชนวางพวงหรีดหยามศาลแพ่งเมื่อปี 2557
วันที่ 26 พฤศจิกายน 2558 นางสุดสงวน สุธีสร หรือ อาจารย์ตุ้ม อาจารย์ประจำคณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เดินทางมายังศาลแพ่ง ตามที่ศาลนัดอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์คดี ละเมิดอำนาจศาล ที่เป็นผู้ถูกกล่าวหา ร่วมกับนางดารุณี กฤตบุญญาลัย และ นายพิชา วิจิตรศิลป์ ทนายความกลุ่ม นปช. ซึ่งเสียชีวิตแล้ว ได้นำกลุ่มมวลชนวางพวงหรีดและชูป้ายข้อความวิจารณ์การทำหน้าที่ของศาลแพ่ง เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2557
ทั้งนี้ ศาลได้จำหน่ายคดีของนางดารุณี ผู้ถูกกล่าวที่ 1 พร้อมออกหมายจับหลังไม่มาศาลตามนัด และพิพากษาจำคุก นางสุดสงวน และ นายพิชา ฐานละเมิดอำนาจศาล คนละ 2 เดือน แต่คำรับสารภาพเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณา จึงเห็นควรลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุกคนละ 1 เดือน โดยไม่รอลงอาญา
ขณะที่ ศาลอุทธรณ์ เห็นว่า นางสุดสงวน ให้การรับสารภาพ แต่อุทธรณ์ว่า เป็นการร่วมชุมนุมภายใต้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ และไม่ทราบว่ามีการนำพวงหรีดมาศาล ซึ่งตัวเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับพวงหรีด ส่วนการร้องเพลงก็เป็นเพลงประจำกลุ่ม ไม่มีเจตนาส่งเสียงดังรบกวนการพิจารณาคดีของศาลแพ่งนั้น ศาลเห็นว่าเป็นการอุทธรณ์ในข้อเท็จจริง ซึ่งต้องห้ามอุทธรณ์ จึงไม่รับวินิจฉัย
ส่วนจะมีเหตุให้รอการลงโทษหรือไม่ศาลเห็นว่า นางสุดสงวน จบการศึกษาคณะนิติศาสตร์ ระดับปริญญาตรี จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และจบปริญญาโท จากสหรัฐอเมริกา ย่อมทราบดีถึงขั้นตอนกระบวนการพิจารณาคดีในชั้นศาล การนำพวงหรีดมาวางหน้าศาล และร้องเพลงเสียดสีเกี่ยวกับการตัดสินคดีของศาลแพ่ง ถือว่าไม่เคารพยำเกรงต่อกฎหมาย เป็นเรื่องร้ายแรง แม้นางสุดสงวน ไม่เคยต้องโทษจำคุกมาก่อน ก็ไม่มีเหตุให้รอการลงโทษ แต่พิพากษาแก้ให้เปลี่ยนจากโทษจำคุกเป็นกักขังนางสุดสงวน แทน เป็นเวลา 1 เดือน นอกนั้นให้เป็นไปตามศาลชั้นต้น
ภาพจาก เฟซบุ๊ก กปปส.เยอรมัน
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก