แฟนสาวแจงคลิปเดือด หนุ่มบิ๊กไบค์ถูกแท็กซี่ใช้สปาต้าฟัน ยันไม่ได้หาเรื่องก่อน

          แฟนสาวหนุ่มบิ๊กไบค์ แจงเหตุการณ์คลิปเดือด บอกแท็กซี่สีชมพูเป็นฝ่ายปาดหน้าบนสะพานพระราม 9 ซ้ำยังใช้มีดสปาต้าไล่ฟันแฟนหนุ่มจนได้รับบาดเจ็บสาหัส กระดูกแตก เส้นเอ็นขาด มีแผลฉกรรจ์กลางหลังลึก 2 นิ้ว ยืนยันฝ่ายตัวเองไม่ได้หาเรื่องก่อน ด้าน ขนส่ง บอกผิดไม่ผิดต้องเรียกมาอบรม ส่วนคดีให้ตำรวจจัดการ
 
          จากกรณีเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2558 มีผู้ใช้เฟซบุ๊ก นี่โน้ตงัย จำไม่ได้หรอ ได้โพสต์คลิปวิดีโอเหตุทะเลาะวิวาทระหว่างคนขับแท็กซี่สีชมพู ที่ถืออาวุธมีดยาวพยายามฟันคู่กรณีเป็นชายขี่รถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ ยี่ห้อฮอนด้า CB650F สีเหลือง ที่พยายามป้องกันตัวเองและต่อสู้กับคนขับแท็กซี่ บริเวณสะพานข้ามแยกพระราม 9 จนทำให้หญิงสาวคนหนึ่งยืนอยู่ในเหตุการณ์ด้วยเข้าไปห้าม ซึ่งท้ายเหตุการณ์คนขับแท็กซี่ก็ได้ขับรถออกไป ตามที่ได้มีรายงานไปแล้วนั้น [อ่านข่าว : คลิปเดือด แท็กซี่ฉุนจัดคว้ามีดยาวไล่ฟันหนุ่มบิ๊กไบค์กลางถนน]

          ล่าสุด (27 พฤศจิกายน 2558) รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ทางช่อง 3 ได้สอบถามไปยังหญิงสาวในคลิปวิดีโอ หรือ นางสาวปานทิพย์ ชนเห็นชอบ อายุ 23 ปี แฟนสาวของหนุ่มคนขี่รถบิ๊กไบค์ เล่าว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเวลา 08.30 น. ของวันที่ 26 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ซึ่งแฟนของตนที่เป็นชายขี่รถบิ๊กไบค์ ชื่อนายโอภาส ไกรสุธา อายุ 23 ปี ได้ขี่รถมาส่งตนไปทำงานที่ศูนย์การค้าฟอร์จูน พระราม 9 โดยขี่รถมาจากทางถนนศรีนครินทร์ แต่พอมาถึงช่วงลงสะพาน กลับมีแท็กซี่คันดังกล่าวปาดหน้าจากเลนขวามาเลนซ้ายกะทันหัน ซึ่งแฟนของตนได้บีบแตรใส่ไป 1 ครั้ง ตอนนั้นก็คิดว่าไม่มีอะไร เพราะแท็กซี่ก็ขับต่อไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น 
 
          แต่พอมาถึงทางขึ้นสะพานข้ามแยกพระราม 9 แท็กซี่คันดังกล่าวกลับจอดรออยู่ ซึ่งแฟนก็ได้จอดรถ ส่วนตนก็ลงไปถามคนขับแท็กซี่ว่าต้องการอะไร ซึ่งคนขับแท็กซี่ก็ลดกระจกลงพร้อมกับโชว์มีดสปาต้าขนาดใหญ่เป็นเชิงข่มขู่ แฟนของตนเห็นท่าไม่ดีก็รีบเข้ามาขวางพร้อมเปิดประตูรถแท็กซี่ แต่ถูกคนขับแท็กซี่ต่อว่าด้วยถ้อยคำหยาบคายแล้วใช้มีดฟันที่ศีรษะแฟนตน 1 ครั้ง แต่แฟนใส่หมวกกันน็อกจึงไม่เป็นอะไร จากนั้นก็ตามลงมาฟันตามร่างกายแฟนของตนอีกประมาณ 4-5 ครั้ง ซึ่งแฟนก็พยายามชกต่อยป้องกัน ประกอบกับรถที่ผ่านไปมาตะโกนบอกว่าตำรวจมา คนขับแท็กซี่จึงได้ขับรถหนีไป

 
          ขณะที่ นายโอภาส ได้รับบาดเจ็บจากการถูกฟันได้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเอกชนแต่ค่ารักษาสูงกว่า 1 แสนบาท จึงทำเรื่องย้ายมารักษาโรงพยาบาลเลิดสินที่มีบัตรทองอยู่ โดยสภาพแผลที่แขนขวาถูกฟันอย่างแรงจนกระดูกแตก เส้นเอ็นฉีกขาด มีบาดแผลฉกรรจ์ที่หลังลึกประมาณ 2 นิ้ว กับแผลข่วนเล็กน้อยที่ลำตัว ซึ่งนางสาวปานทิพย์ได้เข้าแจ้งความพร้อมนำหลักฐานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.มักกะสัน แล้ว
 

          ทั้งนี้หลังเกิดเหตุมีคนอ้างว่าเป็นลูกชายของคนขับแท็กซี่พยายามติดต่อมาทางครอบครัวเพื่อขอชดใช้ค่าเสียหาย แต่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ติดต่อเข้ามา ซึ่งนางสาวปานทิพย์ยืนยันว่าไม่ได้เป็นฝ่ายเข้ามาหาเรื่อง ตอนที่เข้าไปถามก็ถามว่า "พี่ต้องการอะไร" ไม่คิดว่าคนขับแท็กซี่จะพกอาวุธและชักมีดขึ้นมาขู่ผู้หญิงและหากเกิดการทะเลาะกับผู้โดยสารบนรถจะเกิดอะไรขึ้น รวมทั้งอยากทราบว่ามีกฎหมายให้พกอาวุธบนรถได้ด้วยเหรอ

          อย่างไรก็ดี ล่าสุดเมื่อเวลา 13.00 น. ทางด้าน นายสุกรี จารุภูมิ ผอ.กองตรวจการกรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า ขณะนี้ทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว และได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อมูลทั้งหมด เพราะถือว่าเป็นเรื่องละเอียดอ่อน จึงไม่สามารถฟันธงได้ว่าใครผิดใครถูก หากฝ่ายคนขี่บิ๊กไบค์ไปแจ้งความแล้ว คงต้องเรียกตัวคนขับแท็กซี่เข้ามาให้ข้อมูลและอบรมด้วย ถึงแม้ว่าจะไม่เป็นผู้กระทำผิดก็ตาม

         นายสุกรี กล่าวต่อว่า ส่วนจะลงโทษหรือไม่นั้น เบื้องต้นไม่เกี่ยวข้องกับผู้โดยสาร เพราะดูจากคลิปเป็นเหตุทะเลาะวิวาทของผู้ใช้ถนน ถ้าเป็นคดีความก็เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
 

ภาพจาก เฟซบุ๊ก นี่โน้ตงัย จำไม่ได้หรอ, เรื่องเล่าเช้านี้ บีอีซี-เทโร

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก