x close

เพื่อไทย กดดัน อุดมเดช ทิ้งตำแหน่ง รมช. กลาโหม เซ่นปมอุทยานราชภักดิ์





          เพื่อไทย ออกแถลงการณ์ จี้ อุดมเดช สีตบุตร พิจารณาตัวเอง ลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม เซ่นปมโครงการอุทยานราชภักดิ์ หลังทหารคนสนิท 2 นาย โดนศาลทหารออกหมายจับคดีอาญามาตรา 112

          วันที่ 27 พฤศจิกายน 2558 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรคเพื่อไทยได้ออกแถลงการณ์ เรื่องการจัดสร้างอุทยานราชภักดิ์ โดยมีรายละเอียดดังนี้

          ตามที่พรรคเพื่อไทยได้มีแถลงการณ์ ฉบับลงวันที่ 13 พฤศจิกายน 2558, 19 พฤศจิกายน 2558 และ 24 พฤศจิกายน 2558  เรียกร้องให้รัฐบาลแถลงรายละเอียดและมาตรการดำเนินการต่าง ๆ กรณีมีการทุจริตในโครงการอุทยานราชภักดิ์ เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งรับรู้และสนับสนุนโครงการอุทยานฯ มาตั้งแต่ต้น แสดงความรับผิดชอบและดำเนินการตรวจสอบหาผู้รับผิดชอบ ด้วยความโปร่งใส ไม่เห็นแก่ผู้ใดนั้น ต่อมารัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ ได้มีคำสั่งให้ปลัดกระทรวงกลาโหม (พลเอก ปรีชา จันทร์โอชา) แต่งตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีโครงการอุทยานฯ ทั้ง ๆ ที่ได้ปฏิเสธและยืนยันต่อสาธารณะมาโดยตลอดว่า โครงการอุทยานฯ ไม่เกี่ยวข้องกับทางราชการและดำเนินการโดยโปร่งใส

          ณ บัดนี้ ได้ปรากฏข้อเท็จจริงสู่สาธารณะเพิ่มเติมขึ้นจากเดิม พรรคเพื่อไทยจึงเห็นเป็นความจำเป็นที่จะต้องแถลงข้อเท็จจริงต่อสาธารณะ รวมทั้งเสนอข้อเรียกร้องต่อผู้รับผิดชอบดังกล่าว คือ

          1. ปรากฏข้อเท็จจริงกรณี นายชัยสิทธิ์ ตราชูธรรม ประธานคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (คตง.) เปิดเผยว่า เงินที่ใช้ในโครงการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ มีส่วนหนึ่งมาจากงบกลาง จำนวน 63.57 ล้านบาท  โดยผู้ที่รับผิดชอบในการสั่งจ่ายเงินคือ แผนกสั่งจ่ายงบประมาณ สำนักงานปลัดบัญชีกองทัพบก จึงเห็นได้ว่าโครงการอุทยานฯ ได้ใช้เงินงบประมาณแผ่นดิน ซึ่งขัดแย้งกับคำชี้แจงของนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมว่า โครงการอุทยานฯ ไม่ได้ใช้เงินงบประมาณแผ่นดินแต่อย่างใด

          2. ปรากฏข้อเท็จจริงว่า งบประมาณที่ได้รับการจัดสรรและดำเนินการก่อสร้าง มีราคาสูงผิดปกติ เช่น งานสร้างป้ายทางเข้า (ป้ายชื่อ) ใช้งบประมาณถึง 5,031,700 บาท งบประมาณสร้างอาคารรักษาความปลอดภัย 2,254,300 บาท งานก่อสร้างรั้วรอบบริเวณภายในอุทยานราชภักดิ์ ใช้งบประมาณถึง 9,343,500 บาท เป็นต้น

          3. ปรากฏข้อเท็จจริงว่า ศาลทหารได้ออกหมายจับที่ 33/2558 และ 35/2558 ลงวันที่ 9 พฤศจิกายน 2558 และ ที่ 47/2558 ลงวันที่ 25 พฤศจิกายน 2558 ให้จับกุมดำเนินคดีกับ พันเอก คชาชาต บุญดี และพลตรี สุชาติ พรมใหม่ สำหรับพลตรี สุชาตินั้นเป็นกรรมการ และเลขานุการมูลนิธิราชภักดิ์ ซึ่งมี พลเอก อุดมเดช สีตบุตร เป็นประธานมูลนิธิ อีกทั้งเคยทำหน้าที่นายทหารฝ่ายเสนาธิการของพลเอก อุดมเดช มาตั้งแต่ครั้งเป็นแม่ทัพกองทัพภาคที่ 1 จากนั้นได้รับการแต่งตั้งเป็น ผบ.ร.11 รอ.พล.1 ซึ่งเป็นตำแหน่งทางการทหารคุมหน่วยรบที่สำคัญยิ่งของกองทัพบก และครั้นเมื่อ พลเอก อุดมเดช กำลังจะเกษียณอายุ ก็ได้เลื่อนตำแหน่งให้กับ พันเอก สุชาติ พรมใหม่ เป็นผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ อัตราพลตรี

          สำหรับพันเอก คชาชาต บุญดี นั้น พลเอก อุดมเดช ได้แต่งตั้งให้เป็น ผบ.กรมทหารพรานที่ 36 ทภ.3 และจากนั้นได้ย้ายให้มาดำรงตำแหน่ง ผบ.ป.11 รอ.ทภ.1 ซึ่งเป็นตำแหน่งทางการทหารที่มีความสำคัญในกองทัพบกเช่นกัน และสุดท้ายเมื่อ พลเอก อุดมเดช ใกล้เกษียณอายุ ก็ได้ออกคำสั่งเลื่อน พันเอก คชาชาต เป็นรองผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 11 แต่เมื่อพลเอก ธีรชัย นาควานิช มาดำรงตำแหน่ง ผบ.ทบ. ได้ยกเลิกคำสั่งพร้อมส่งตัว พันเอก คชาชาต บุญดี กลับกองทัพภาคที่ 3 โดยเหตุนี้ทั้ง พลตรี สุชาติ พรมใหม่ และพันเอก คชาชาต บุญดี จึงเป็นนายทหารที่มีความใกล้ชิดกับ พลเอก อุดมเดช ทำหน้าที่ประหนึ่งนายทหารคนสนิท และได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่พิเศษต่าง ๆ มากมายนอกเหนือจากตำแหน่งทางทหารที่ดำรงตำแหน่งอยู่ เช่น โครงการอุทยานราชภักดิ์ที่ พลตรี สุชาติ ถูกแต่งตั้งให้เป็นกรรมการ และเลขานุการมูลนิธิราชภักดิ์

          พรรคเพื่อไทยเห็นว่า ข้อเท็จจริงที่ปรากฏต่อสาธารณะเพิ่มเติมดังที่กล่าวมาในข้อ 1 ถึงข้อ 3 ชี้ให้เห็นว่า โครงการอุทยานฯ ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของทางราชการ มีการทุจริตเกิดขึ้นอย่างชัดเจน การปฏิเสธความรับผิดชอบของผู้บังคับบัญชาในระดับชั้นต่าง ๆ โดยลำดับมา จึงเป็นความบกพร่องและไม่รับผิดชอบในความเสียหายที่เกิดขึ้น

          พรรคเพื่อไทยจึงมีข้อเรียกร้องดังต่อไปนี้

          1. พลเอก อุดมเดช สีตบุตร ควรพิจารณาตัวเองด้วยการลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ทั้งนี้เนื่องจากเมื่อ พลตรี สุชาติ และพันเอก คชาชาต ถูกกล่าวหาว่ามีความผิดตามมาตรา 112 และ 113 ตลอดจนความผิดทางอาญาอื่น ๆ พลเอก อุดมเดช จึงมีความมัวหมองอย่างยิ่งที่อาจจะถูกมองว่าเกี่ยวพันกับเรื่องต่าง ๆ ที่กำลังถูกกล่าวหาอยู่ พลเอก อุดมเดช ในฐานะที่เคยดำรงตำแหน่ง ผบ.ร.21 และ ผบ.ทบ. และการเป็นราชองครักษ์ จึงย่อมรู้อยู่แก่ใจว่าเพื่อความสง่างาม เพื่อดำรงศักดิ์ศรีของกองทัพบก และเพื่อรักษาไว้ซึ่งพระบรมเดชานุภาพ พลเอก อุดมเดช ไม่อาจดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมได้อีกต่อไปแม้แต่น้อย พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และอดีต ผบ.ทบ., พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และอดีต ผบ.ทบ. และ พลเอก อุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม และอดีต ผบ.ทบ. จะต้องร่วมกันตัดสินใจเพื่อดำรงไว้ซึ่งความจงรักภักดีของกองทัพบก ที่มีต่อสถาบัน อย่างหาที่สุดมิได้ ให้จงได้

          2. เมื่อปรากฏว่ามีการใช้งบกลางของรัฐบาล และรัฐบาลมีมติ ครม. มอบหมายให้กองทัพบกเป็นหน่วยงานรับผิดชอบ จึงมีความชัดเจนว่า โครงการอุทยานฯ อยู่ในความรับรู้เห็นชอบของนายกรัฐมนตรี และรัฐบาลมาตั้งแต่ต้น อีกทั้งยังมีข่าวภาพทางสื่อบ่งบอกว่า นายกรัฐมนตรีมีความสนิทสนมกับเซียนพระผู้รับจ้างถึงขนาดไปแสดงความยินดีเมื่อบุคคลนั้นได้รับเลือกตั้งเป็นนายก อบต. ในขณะที่ตนเองดำรงตำแหน่ง ผบ.ทบ. สิ่งที่นายกรัฐมนตรีแสดงออกมาโดยตลอดเกี่ยวกับโครงการอุทยานราชภักดิ์ จึงสวนทางกับข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น มีพฤติกรรมปกปิด ปฏิเสธความรับผิดชอบ ในฐานะที่นายกรัฐมนตรีดำรงตำแหน่งประธานกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติของ คสช. เช่นเดียวกับรัฐมนตรีว่าการและรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม พรรคเพื่อไทยจึงเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีรับผิดชอบกับกรณีดังกล่าว ในฐานะที่รัฐบาลมีนโยบายสำคัญที่แถลงต่อสาธารณะว่า จะปกป้องสถาบันฯ และจะป้องกันปราบปรามการทุจริต นอกจากนั้น รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งปวง จะต้องมีส่วนรับผิดชอบต่อการกระทำที่เกิดขึ้น

          3. เมื่อมีพฤติการณ์ว่ามีการทำผิดกฎหมายเกิดขึ้น มีการแสวงหาประโยชน์จากโครงการ ย่อมเป็นอำนาจหน้าที่ของ ป.ป.ช., สตง., สตช., กรมสอบสวนคดีพิเศษ, ปปง. ที่จะต้องเข้ามาตรวจสอบโดยพลัน ทั้งนี้การที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมได้มีคำสั่งให้ปลัดกระทรวงกลาโหม (พลเอก ปรีชา จันทร์โอชา) แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ย่อมมีปัญหาในทางหลักการว่า จะเป็นการสอบสวนด้วยความโปร่งใส บริสุทธิ์ ยุติธรรม ปราศจากการแทรกแซงใด ๆ และจะเป็นที่ยอมรับของสังคมหรือไม่ ที่ถูกต้องควรมอบหมายหน่วยงานที่มีหน้าที่และความรับผิดชอบโดยตรงให้เข้ามาตรวจสอบ จึงจะมีความถูกต้องและเป็นที่ยอมรับได้มากกว่า

พรรคเพื่อไทย

27 พฤศจิกายน 2558


 าะติดข่าว อุทยานราชภัดิ์ ทั้งหมดคลิเลย


อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก เพื่อไทย
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เพื่อไทย กดดัน อุดมเดช ทิ้งตำแหน่ง รมช. กลาโหม เซ่นปมอุทยานราชภักดิ์ อัปเดตล่าสุด 11 ธันวาคม 2558 เวลา 18:29:34 7,140 อ่าน
TOP