หนุ่มอังกฤษหายตัวลึกลับขณะอยู่บนเกาะพีพี พร้อมพบพิรุธส่งข้อความหาแม่ว่าจะไม่ได้เจอกันอีก เจ้าหน้าที่เจอตัวแล้ว ความจริงคือ เงินหมด ไม่อยากกลับบ้าน และหางานในประเทศไทย
เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2558 เว็บไซต์เทเลกราฟ รายงานว่า นายจอร์แดน จาคอบส์ อายุ 21 ปี จากเมืองลินแฮม มณฑลวิลท์เชียร์ ประเทศอังกฤษ ได้หายตัวอย่างลึกลับหลังจากที่เขามาเที่ยวเกาะพีพีดอน ที่ประเทศไทย ซึ่งก่อนที่จะหายตัวไปนั้น เขาได้ส่งข้อความมาบอกครอบครัวว่า เราจะไม่ได้เจอกันอีกแล้ว
ด้านเอมิลี่ จาคอบส์ พี่สาวของนายจอร์แดน จาคอบส์ ได้ออกมาเผยว่า ในตอนเช้าวันเสาร์ที่ 12 ธันวาคม 2558 นั้น คุณแม่ของฉันได้รับข้อความผ่านทางเฟซบุ๊กจากน้องชาย ที่บอกว่า เขาไม่สามารถจะมาเจอครอบครัวได้อีก เขาเสียใจที่เขาไม่ได้เจอครอบครัวเป็นครั้งสุดท้าย และเขารักทุกคน และหลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมงต่อมา นายจาคอบส์ก็ได้บอกกับแม่เขาว่า เขาอยู่กับผู้ชายไทยคนหนึ่งที่ไม่ยอมให้เขาไป และเขารู้สึกกลัวชายคนนี้ คุณแม่ของเขาจึงบอกให้ลูกชายโทรศัพท์กลับมา แต่เขากลับส่งเบอร์โทรศัพท์มาให้แทน โดยที่เบอร์โทรศัพท์ดังกล่าวเป็นของนักท่องเที่ยวชาวไซปรัสที่บอกว่า นายจาคอบส์ได้ขอร้องให้ช่วยและได้ขอยืมโทรศัพท์ของเขาที่ร้านอาหารบนเกาะพีพีดอน โดยที่ในตอนนั้น นายจาคอบส์ไม่ได้ใส่รองเท้าและไม่มีกระเป๋าติดตัว
ทั้งนี้ มีคนเห็นนายจอร์แดน จาคอบส์ เป็นครั้งสุดท้ายในวันที่ 12 ธันวาคม 2558 บนเกาะพีพีดอน หลังจากที่เขารับข้อเสนอจากผู้ชายไทยคนหนึ่งที่จะเดินทางไปด้วยกัน
นายจอร์แดน จาคอบส์ ได้เดินทางมาเที่ยวทวีปเอเชียตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2014 และมีกำหนดกลับประเทศในวันพฤหัสบดีนี้ เพื่อร่วมเทศกาลคริสต์มาสกับครอบครัว โดยตลอดการเดินทางร่วม 1 ปีนั้น นายจอร์แดน จาคอบส์ ไม่เคยประสบปัญหาใด ๆ
ด้านพันตำรวจโท เจษฎา จุนพุ่ม กล่าวกับหนังสือพิมพ์เทเลกราฟว่า เราได้รับรายงานว่านายจอร์แดนได้หายไปและตอนนี้ทุกคนก็กำลังค้นหาตัวเขา
รายงานระบุว่า นายจอร์แดน จาคอบส์ มีส่วนสูงประมาณ 170 เซนติเมตร ตาสีน้ำตาล ผมสีเข้ม และมีรอยสักที่แขนและหน้าอก เขามีผิวสีแทนจากการเดินทางนานร่วมปี รวมทั้งอาจจะมีเครายาวอีกด้วย
ต่อมา พ.ต.ท. เจษฎา จันทร์พุ่ม พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการ สภ.เมืองกระบี่ สาขาย่อยเกาะพีพี ได้นำตัวนายจาคอบส์มาสอบสวนที่โรงพัก ซึ่งก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ได้พบตัวขณะที่กำลังสมัครงานตามออฟฟิศสอนดำน้ำ
ด้านนายจาคอบส์ สารภาพว่า ตนสมัครงานเพื่อหาเงิน เนื่องจากไม่มีเงินติดตัว มีแต่พาสปอร์ตที่จะหมดอายุ 25 ธันวาคมนี้ นอกจากนี้ ตนไม่อยากกลับบ้าน และอยากหางานทำในประเทศไทย แต่ว่าการที่บอกพี่สาวที่ประเทศอังกฤษว่าจะไม่กลับไปอีกแล้ว อาจจะทำให้เข้าใจผิดว่าถูกกักตัว
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Emily Jacobs, ทวิตเตอร์ @AkaravutTv9
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
