ผู้ประกอบการทีวีดิจิตอล เริ่มหาทางขอคืนใบอนุญาตหลังแบกภาวะขาดทุนต่อเนื่องไม่ไหว ด้าน กสท. เผย สามารถคืนใบอนุญาตได้แต่ต้องจ่ายส่วนที่เหลือทั้งหมด ขณะที่มีเดียเอเจนซี่คาดเงินจากโฆษณาผ่านสื่อทีวีทะลุ 1 หมื่นล้านในปี 2559
วันนี้ (25 ธันวาคม 2558) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยว่า ขณะนี้มีผู้ประกอบการทีวีดิจิตอลเข้ามาหารือเรื่องการคืนใบอนุญาตประกอบกิจการหลายราย เนื่องจากไม่สามารถแบกรับภาวะขาดทุนต่อไปเรื่อย ๆ ซึ่งทาง กสทช. คิดว่าจะนำกลับไปประมูลใหม่เพื่อหารายได้เข้ารัฐ และหากจบการประมูลแล้วราคาถูกลงก็จะให้ผู้ประกอบการที่จะคืนใบอนุญาตจ่ายเงินส่วนต่างกลับมา แต่เกิดเสียงทักท้วงว่าเป็นความไม่เท่าเทียมกันระหว่างช่องที่ประมูลรอบแรกในราคาสูงกับช่องที่ประมูลใหม่ซึ่งคาดว่าต้องมีราคาต่ำกว่าแน่นอน
ด้านนายสมบัติ ลีลาพตะ รองเลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง และกิจการโทรทัศน์ (กสท.) กล่าวว่า หากผู้ประกอบการทีวีดิจิตอลต้องการจะคืนใบอนุญาตก็สามารถทำได้แต่ต้องชำระเงินค่าประมูลใบอนุญาตในส่วนที่เหลือทั้งหมดด้วย ดังนั้นหากต้องการคืนใบอนุญาตเพราะขาดทุนก็ไม่ได้ช่วยอะไร และในส่วนที่มีการหารือเพื่อหาแนวทางการช่วยเหลือนั้นก็ยังไม่ได้มีการเสนอขึ้นมาอย่างเป็นทางการแต่อย่างใด
ส่วนความคืบหน้ากรณีของผู้ประกอบการช่อง MVTV Family (Loca) และไทยทีวี ที่อยู่ระหว่างการถูกระงับออกอากาศภายใน 90 วัน ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ยังไม่ได้ติดต่อขอชำระเงินค่าประมูลใบอนุญาตในงวดที่ 2 และหากครบกำหนดประมาณปลายเดือนมกราคม 2559 ทาง กสท. จะมีมติเพิกถอนใบอนุญาตแต่จะมีการประมูลใหม่ทั้ง 2 ช่องหรือไม่นั้นยังไม่ได้มีการหารือกันแต่อย่างใด
ทั้งนี้นายชลากรณ์ ปัญญาโฉม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานดิจิทัลทีวี บริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารช่องเวิร์คพอยท์ทีวี กล่าวว่า การที่ผู้ประกอบการทีวีดิจิตอลจะยังอยู่หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับแผนธุรกิจของแต่ละบริษัทที่ต้องมีการวางแผนระยะยาวมาแล้ว เนื่องจากใบอนุญาตมีอายุ 15 ปี โดยหลังจากทีวีดิจิตอลออกอากาศมาแล้ว 20 เดือน จะพบได้ว่ามีฐานผู้ชมและส่วนแบ่งการตลาด โดยเห็นได้จากช่องที่ทำเรตติ้งอยู่ใน 10 อันดับแรก
ขณะที่นายเขมทัตต์ พลเดช กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท บางกอก มีเดีย แอนด์ บรอดคาสติ้ง จำกัด ผู้บริหารสถานีโทรทัศน์พีพีทีวี เอชดี กล่าวว่า ในปี 2559 สิ่งที่ผู้ประกอบการทีวีดิจิตอลต้องเจอนั้นก็ยังเป็นปัญหาเดิม ๆ เช่น งบประมาณจากโฆษณาที่มีไม่มาก และการจ่ายเงินค่าใบอนุญาตงวดที่ 3 ทำให้หลาย ๆ ช่องต้องระมัดระวังการใช้จ่ายและตัดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นออกไป รวมทั้งเร่งผลิตคอนเทนต์ที่มีคุณภาพเพื่อหวังดึงดูดผู้ชม แต่หากในปี 2559 เรตติ้งยังไม่ดีขึ้น บางช่องอาจตัดสินใจคืนใบอนุญาตเพราะธุรกิจนี้ต้องใช้งบลงทุนมาก หากขาดทุนต่อไปเรื่อย ๆ คงไม่ไหวเพราะจะทำให้ยืดเวลาในการคืนทุนจากเดิม 3-5 ปี เป็น 7 ปี
ด้านนางปัทมวรรณ สถาพร กรรมการผู้จัดการ มายด์แชร์ ประเทศไทย มีเดียเอเจนซี่ กล่าวว่า แนวโน้มงบประมาณของโฆษณาผ่านสื่อทีวีส่วนมากยังกระจุกอยู่ที่ช่องเก่าเป็นหลัก ประมาณร้อยละ 69 ขณะที่ช่องใหม่มีสัดส่วนประมาณร้อยละ 17 แต่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น จึงเป็นโอกาสของช่องทีวีดิจิตอลรายใหม่ และคาดว่างบโฆษณาผ่านสื่อทีวีในปี 2559 จะทะลุ 1 หมื่นล้านบาทแน่นอน
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
