เจ้าหน้าที่เชิญพระทำพิธีบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์-ปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย บริเวณน้ำตกพรหมโลก จ.นครศรีธรรมราช หลังมีนักท่องเที่ยวพลัดตกน้ำเสียชีวิตต่อเนื่อง ระหว่างพิธีมีหญิงลุกขึ้นรำไม่รู้ตัว-พบภาพถ่ายติดวิญญาณ
จากกรณีที่ 2 นักศึกษามหาวิทยาลัยรังสิต ปี 3 ได้ลงไปเล่นน้ำตกพรหมโลก ต.พรหมโลก จ.นครศรีธรรมราช แต่เพื่อนเกิดพลัดตกบ่อน้ำวนและอีกคนพยายามกระโดดน้ำลงไปช่วยซึ่งสุดท้ายเสียชีวิตทั้งคู่ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 5 มกราคม 2559 ตามที่ได้มีรายงานไปแล้วนั้น [อ่านข่าว : 2 นักศึกษา ม.รังสิต ลงเล่นน้ำตกพรหมโลก ตกบ่อน้ำวน-ดับคู่] นอกจากนี้ในช่วงเทศกาลสำคัญยังมีนักท่องเที่ยวเสียชีวิตต่อเนื่องเกือบ 20 ราย
ล่าสุด (19 มกราคม 2559) นายจิรศักดิ์ ชูความดี สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 5 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้นิมนต์พระครูปลัดจัด ปัญญาวุฒโฑ เจ้าอาวาสวัดธงทอง อ.ร่อนพิบูลย์ พระเกจิชื่อดังเข้าร่วมพิธีบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์เจ้าที่เจ้าทางและดวงวิญญาณของผู้เสียชีวิต บริเวณศาลพระภูมิ เจ้าที่น้ำตกพรหมโลก ซึ่งมีประชาชนเข้าร่วมพิธีกว่า 100 คน
ทั้งนี้หลังจากพระครูปลัด ได้นั่งสมาธิเพ่งจิตสื่อสารกับดวงวิญญาณที่อยู่บริเวณดังกล่าวเกือบครึ่งชั่วโมงก็ได้บอกว่า จุดที่ตั้งศาลพระภูมิหันผิดทิศและได้หันใหม่ไปทางทิศตะวันออก พร้อมบอกว่าที่ข้างใต้น้ำตกนี้เป็นที่อยู่ของพญานาคและบริวาร ส่วนกลางลำธารด้านล่างจะมีต้นตะเคียนทองขนาด 2-3 คนโอบ สูง 20 เมตร ขึ้นอยู่ ซึ่งเป็นที่สิงสถิตของเจ้าที่และสิ่งศักดิ์สิทธิ์จึงได้ทำพิธีบวงสรวงและนำผ้าแพร 3 สีไปผูกไว้ แต่ระหว่างทำพิธีกลับมีฟ้ามืดครึ้ม มีฝนโปรยปรายและลมกระโชกแรงก่อนจะกลับมาสู่ภาวะปกติเมื่อเสร็จสิ้นพิธี และได้นำผ้ายันต์ไปติดไว้ตามต้นไม้ต่าง ๆ ก่อนจะปิดท้ายด้วยการรำมโนราห์ถวาย ซึ่งปรากฏว่ามีหญิง 2 คนที่มาร่วมพิธีได้ออกมาร่ายรำโดยไม่รู้สึกตัว
ขณะที่ น.ส.สุภาวดี สุวรรณเวหา อายุ 30 ปี ผู้ที่เข้าร่วมพิธี ได้นำภาพบ่อน้ำวนซึ่งเป็นจุดที่มีคนพลัดตกลงไปเสียชีวิตที่ถ่ายจากโทรศัพท์มาให้ดูก็ต้องตกตะลึง เนื่องจากหากสังเกตดี ๆ จะพบว่ามีเงาลาง ๆ ของชายกลางคนนั่งชันเข่าอยู่กลางบ่อน้ำ
ด้านพระปลัดจัด กล่าวอีกว่า ระหว่างทำพิธีก็เห็นภาพผู้ชายเลือนรางที่นั่งชันเข่าเช่นกัน และสิ่งที่ทำในครั้งนี้ไม่ได้เป็นการอวดอุตริมนุษยธรรมแต่อย่างใด ซึ่งตนเป็นเพียงสื่อกลางติดต่อกับวิญญาณที่มาขอให้ช่วยเท่านั้น และสิ่งเร้นลับที่มนุษย์มองไม่เห็นด้วยตาเปล่านั้นน่ากลัวเพราะเขามีอิทธิฤทธิ์บารมีมากกว่ามนุษย์ พร้อมบอกอีกว่า หลังจากนี้อีก 3 ปี จะไม่มีเหตุรุนแรงหรือคนเสียชีวิตอีก แต่เจ้าหน้าที่ก็ต้องนำของมาเซ่นบูชาขอขมาอย่างเป็นระยะ และหากพ้น 3 ปีนี้ไปแล้วจะกลับมาทำพิธีอีกครั้ง
ภาพจาก nakhonnews.com
อ่ารายละเอียดเพิ่มเติมจาก
