มือปืนส่ายก้น ก่อเรื่องอีก เป็นตัวการสั่งยา แม้ถูกขังในคุกบางขวาง

          ยศพล แหก้าน หรือมือปืนส่ายก้น นักโทษประหารชีวิต ยังก่อเรื่องไม่เลิก พบเป็นตัวการสั่งยาเสพติดจากเรือนจำบางขวาง ด้านอธิบดีกรมราชทัณฑ์ สั่งย้าย ผบ.เรือนจำบางขวาง เข้ากรมราชทัณฑ์

          สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 23 มกราคม 2559 กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (บช.ภ.1) จับกุม นายวุฒิชัย อ่อนตาจันทร์ อายุ 25 ปี ชาวบ้าน หมู่ 5 ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี พร้อมเฮโรอีน 60 แท่ง น้ำหนัก 21 กิโลกรัม มูลค่า 50 ล้านบาท พร้อมของกลางเป็นรถยนต์โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีดำ ทะเบียน 4 กญ 3421 กรุงเทพมหานคร โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง ได้บริเวณลานจอดรถห้างสรรพสินค้าชื่อดังย่านรังสิต จ.ปทุมธานี จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้สอบสวน นายวุฒิชัย จนสารภาพว่า มีนายโอ๋ ไม่ทราบชื่อ-สกุลจริง เป็นนักโทษอยู่ในเรือนจำแห่งหนึ่งย่านนนทบุรี เป็นผู้โทรศัพท์สั่งการให้มารับยาเสพติดตามจุดต่าง ๆ ที่นัดหมาย ก่อนนายวุฒิชัยจะนำยาเสพติดไปกระจายให้ผู้ค้ายาเสพติดรายย่อยในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และจังหวัดต่าง ๆ โดยได้รับค่าจ้าง 500,000 บาทต่อเที่ยว

          ต่อมา เจ้าหน้าที่ได้ทำการสืบสวนสอบสวนจนพบว่า นายโอ๋  เป็นคนเดียวกับ นายยศพล แหก้าน อายุ 37 ปี เจ้าของฉายา "มือปืนส่ายก้น" นักโทษประหารชีวิต ที่เคยก่อเหตุยิง น.ส.เกวลิน หงส์ทอง อายุ 28 ปี ว่าที่เจ้าสาว และนางวิมล หงส์ทอง อายุ 53 ปี ว่าที่แม่ยาย แล้วเดินส่ายสะโพกเยาะเย้ย โดยกล้องวงจรปิดจับภาพเอาไว้ได้ เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2556 ซึ่งจากการตรวจสอบประวัตินายยศพลพบว่าเคยถูกจำคุกมาแล้ว 3 ครั้ง ต่อมาศาลจังหวัดชลบุรี พิพากษาประหารชีวิต และศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น พร้อมให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทน 1,200,000 บาท และจ่ายค่าสินไหมให้แก่บุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะของนางวิมล อีก 2 คน เป็นเงิน 1,410,000 บาท ส่วนตัวนายยศพลถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำกลางบางขวาง [อ่านข่าว : ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน สั่งประหารชีวิต มือปืนส่ายก้น]


          สำหรับคดีล่าสุดนี้เจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวนายยศพล มาสอบสวน โดยนายยศพลให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้สั่งการนายวุฒิชัยจริง จึงถูกอายัดตัว เพื่อดำเนินคดีเพิ่ม พร้อมทั้งย้ายตัวนายยศพลไปคุมขังที่เรือนจำกลางเขาบิน จ.ราชบุรี แทน

          ทั้งนี้ หลังจากทราบเรื่องดังกล่าว พล.อ. ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ก็ได้สั่งการให้สืบสวนเชิงลึก จนกระทั่งพบว่ามีเจ้าหน้าที่เรือนจำ เข้าไปเกี่ยวข้องและปล่อยปละละเลยให้มีการใช้โทรศัพท์มือถือ ในเรือนจำกลางบางขวาง พร้อมจัดชุดปฏิบัติการพิเศษ เข้าจู่โจมตรวจค้น พบโทรศัพท์มือถือ กว่า 10 เครื่อง

          ล่าสุด วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2559 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา นายวิทยา สุริยะวงค์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ขณะนั้น ได้ลงนามคำสั่งที่ 108/2559 ให้นายสุรพล แก้วภราดัย ผู้บัญชาการเรือนจำกลางบางขวาง ไปปฏิบัติราชการประจำกรมราชทัณฑ์ พร้อมทั้งตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง และลงนามคำสั่งที่ 107/2559 ในวันเดียวกัน โดยให้นายเรืองศักดิ์ สุวารี รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ฝ่ายปฏิบัติการ ไปรักษาราชการแทนในตำแหน่งผู้บัญชาการเรือนจำกลางบางขวาง

          อย่างไรก็ดี มีรายงานว่า นายสุรพล แก้วภราดัย ได้ตัดสินใจลาออกจากราชการ เนื่องจากจะเกษียณอายุราชการในเดือนกันยายน 2559


ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้ บีอีซี-เทโร

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก