ประวิตร วงษ์สุวรรณ ติงพวกออกมาวิจารณ์อย่าดีแต่พูด แนะส่งความเห็นให้ กรธ. ไม่ห่วงหากประชามติร่างรัฐธรรมนูญไม่ผ่าน ชี้นายกฯ มีทางออกอยู่แล้ว ย้ำมีเลือกตั้งปี 2560 แน่นอน ขออย่าเชื่อคนแอบอ้างชื่อตนหวังผลประโยชน์
วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2559 พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีที่ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย ระบุว่าสามารถรณรงค์เรื่องการรับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญได้ ว่า คงเป็นการให้วิพากษ์วิจารณ์แสดงความคิดเห็นได้ แต่คงไม่ใช่การไปชี้นำให้คว่ำ ซึ่งหากมีสิ่งใดที่ไม่ดี ไม่เห็นด้วยก็ให้ส่งความคิดเห็นไปยังกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) เพื่อจะได้ปรับแก้ แต่หากมัวแต่พูดแล้วไม่ส่งไปก็ไม่มีประโยชน์ เพราะในขณะนี้ร่างรัฐธรรมนูญยังไม่เสร็จ ยังสามารถแก้ไขได้ ส่วนที่มีการวิพากษ์วิจารณ์กันถึงเรื่องของการให้อำนาจศาลรัฐธรรมนูญมากไปนั้น คงเป็นการให้มาชี้ชัดในบางประเด็นเท่านั้น เช่น ก่อนวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 ที่ให้มาชี้ชัดว่ารัฐบาลมีอำนาจหรือไม่
ทั้งนี้ พล.อ. ประวิตร กล่าวถึงการทำประชามติที่จะมีการใช้งบประมาณจำนวนมากและหากไม่ผ่านจะทำให้เสียงบประมาณกว่า 3,200 ล้านบาทว่า เป็นการใช้งบเพื่อให้คนยอมรับร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งในรัฐธรรมนูญชั่วคราวได้เขียนไว้ชัดเจนว่าจะต้องทำประชามติ เพื่อทำให้รัฐธรรมนูญมีความสมบูรณ์ ส่วนควรจะรับหรือไม่นั้นก็ให้คิดให้ดี แต่ตนไม่ได้ชี้นำ และตนไม่ห่วงหากร่างรัฐธรรมนูญไม่ผ่านประชามติ เพราะหัวหน้า คสช. ได้มีการคิดวางแผนไว้แล้วตั้งแต่ที่เข้ามาบริหารประเทศเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557
อย่างไรก็ตาม พล.อ. ประวิตร ยืนยันว่าร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้จะต้องเป็นประชาธิปไตย แต่ในบทเฉพาะกาลอาจจะต้องมีการบัญญัติไว้เพื่อให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้ในช่วงเปลี่ยนผ่าน และยืนยันว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในปี 2560 แน่นอน ซึ่งเชื่อว่าหลังเลือกตั้งจะไม่เกิดความวุ่นวาย เพราะในรัฐธรรมนูญคงมีทางแก้ไว้หมดแล้วแน่ ทั้งนี้ไม่ว่าผลการเลือกตั้งจะออกมาอย่างไร ทุกคนก็จะต้องยอมรับด้วย
พล.อ. ประวิตร ยังกล่าวถึงกรณีที่มีบุคคลแอบอ้างชื่อตนไปใช้ในการหาผลประโยชน์ว่า ผู้ที่ไปแอบอ้างคงเห็นว่าตนมีอำนาจมาก แต่ที่ผ่านมาตนก็ไม่เคยใช้อำนาจใด คนที่เชื่อก็แย่ ขออย่าไปเชื่อ เพราะตนไม่เคยสั่งการใด ๆ กับใครไป โดยเฉพาะคนใกล้ชิด หากจะสั่งหรือบอกใครตนจะพูดเองหรือโทรศัพท์ไปหาเอง และขอเตือนกลุ่มบุคคลดังกล่าวให้หยุดเอาชื่อตนไปแอบบอ้างอีก ซึ่งถ้ารู้ว่าเป็นใคร ก็จะจัดการแน่ เพราะสร้างความเสียหาย โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวกับองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก (อผศ.) ซึ่งตนไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรทั้งนั้น และคาดว่าบุคคลที่ไปแอบอ้างร่วมมือกันทั้งพลเรือนและเจ้าหน้าที่ทหาร ส่วนกรณีของ ดร. ที่เคยอ้างชื่อก่อนหน้านี้นั้น ตอนนี้เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะต้องดำเนินการ
ข้อมูลจาก สำนักข่าว INN