ดีเอสไอ มีมติยื่นคำร้องศาลอาญา ขออนุมัติออกหมายจับพระเทพญาณมหามุนี หรือ พระธัมมชโย หลังอ้างประกอบศาสนกิจ-ป่วย เบี้ยวนัดพบพนักงานสอบสวนครั้งที่ 2
จากกรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้ออกหมายเรียกให้พระเทพญาณมหามุนี หรือพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาในความผิดฐานสมคบกันฟอกเงิน ร่วมกันฟอกเงิน และร่วมกันรับของโจร จากกรณีการรับเช็คบริจาคจากนายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด ซึ่งเป็นผู้ต้องหายักยอกทรัพย์สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำนวน 22 ฉบับ คิดเป็นมูลค่ารวมมากกว่า 2,000 ล้านบาท ในวันที่ 25 เมษายน 2559 หลังที่พระธัมมชโย ได้ส่งทีมทนายมาขอเลื่อนนัดไปแล้วครั้งหนึ่ง เมื่อวันที่ 20 เมษายนที่ผ่านมา
ต่อมา วัดธรรมกายได้ออกแถลงการณ์ อาการอาพาธของพระธัมมชโย โดยระบุสาเหตุที่ พระธัมมชโย ไม่สามารถมารับทราบข้อกล่าวหากับดีเอสไอได้นั้น เนื่องจาก พระธัมมชโย มีอาการเวียนศีรษะ บ้านหมุนรุนแรงเฉียบพลัน มีปัญหาในการทรงตัว และมีอาการปวดหลัง ปวดขาซ้าย เนื่องจากกล้ามเนื้ออักเสบรุนแรง ประกอบกับอาการเจ็บป่วยเรื้อรังและรุนแรงจากโรคเบาหวาน ภูมิแพ้ เส้นเลือดอุดตันที่โคนขาซ้าย มีแผลติดเชื้อที่เท้าเรื้อรัง คณะแพทย์ผู้รักษาจึงมีความเห็นว่าสมควรพักและงดภารกิจเป็นเวลา 15 วัน
ล่าสุดเมื่อช่วงเย็นวันที่ 25 เมษายน 2559 คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ได้แถลงข่าวกรณีการแจ้งข้อกล่าวหา พระเทพญาณมหามุนี หรือ พระไชยบูลย์ สุทธิผล (พระธัมมชโย) เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ว่า ตามที่คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้ออกหมายเรียกผู้ต้องหา (ครั้งที่ 2) ให้พระเทพญาณมหามุนี (พระไชยบูลย์ สุทธิผล) มาพบพนักงานสอบสวนคดีพิเศษในวันที่ 25 เมษายน 2559 เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา ด้วยเหตุที่ท่านต้องหาว่ากระทำความผิดฐานสมคบกันฟอกเงินและร่วมกันฟอกเงินและรับของโจรนั้น ในวันนี้ (25 เมษายน 2559) เวลาประมาณ 09.30 น. นายสัมพันธ์ เสริมชีพ ทนายความผู้รับมอบอำนาจจากพระเทพญาณมหามุนี ได้มายื่นหนังสือวัดพระธรรมกาย ฉบับลงวันที่ 25 เมษายน 2559 เรื่องขอเลื่อนการมาพบพนักงานสอบสวน
ทั้งนี้ หลังจากคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้รับหนังสือการขอเลื่อนมาพบพนักงานสอบสวนแล้ว ในเวลา 13.00 น. คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมด้วยอัยการร่วมสอบสวนและที่ปรึกษาคดีพิเศษ ได้ประชุมเพื่อหารือในเรื่องของการขอเลื่อนการมาพบพนักงานสอบสวนคดีพิเศษของพระเทพญาณมหามุนี โดยคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ได้พิจารณาแล้วมีความเห็นร่วมกันว่า การที่พระเทพญาณมหามุนี มีหนังสือเลื่อนการมาพบพนักงานสอบสวนคดีพิเศษในการรับทราบข้อกล่าวหาถึง 2 ครั้ง โดยอ้างเหตุเกี่ยวกับการประกอบศาสนกิจ และอ้างอาการป่วยโดยใช้ใบรับรองแพทย์จากคลินิกเอกชน แต่ปรากฏว่ามีการเข้าร่วมพิธีกรรมทางศาสนาต่าง ๆ ได้เป็นปกติ
จึงไม่มีเหตุอันสมควรที่จะขอเลื่อนการมาพบพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ จึงเห็นว่าพฤติการณ์ดังกล่าว เป็นไปในลักษณะหลีกเลี่ยงที่จะไม่เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และเนื่องจากคดีความผิดที่ถูกกล่าวหาเป็นคดีที่มีอัตราโทษจำคุกอย่างสูงเกิน 3 ปี ซึ่งทางคดีมีหลักฐานพอสมควรว่า ผู้ถูกกล่าวหาน่าจะได้กระทำความผิดดังกล่าว อันมีเหตุตามกฎหมายที่จะออกหมายจับได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 66 (1) จึงมีมติให้ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาเพื่อขออนุมัติออกหมายจับพระเทพญาณมหามุนี มาดำเนินคดีต่อไป
***หมายเหตุ : อัพเดทข้อมูลล่าสุดเมื่อเวลา 18.45 น. วันที่ 25 เมษายน 2559
ภาพและข้อมูลจาก รภัสสิทธิ์ RAPHATSIT