พระโพสต์ภาพปล่อยปลาขนานใหญ่นับร้อยตัวลงแม่น้ำ เชื่อได้บุญมหาศาล ด้านเพจอนุรักษ์ธรรมชาติแจงชัด การปล่อยปลาลงแหล่งน้ำโดยไม่คำนึงถึงพันธุ์ปลาท้องถิ่น จะส่งผลต่อระบบนิเวศอย่างมหาศาล ชี้อาจเป็นบาปมากกว่าการทำบุญ
จากกรณีที่เพจพระสงฆ์ชื่อดัง โพสต์ภาพขณะทำการปล่อยปลาจำนวนมาก ซึ่งมีน้ำหนักรวมถึง 100 กิโลกรัม ลงในแม่น้ำสายหนึ่ง เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2559 พร้อมระบุว่า "ขอให้ได้บุญด้วยกันเท่ากันทุกประการเทอญ ขอให้พ้นภัยแข็งแรงร่ำรวยตลอดไปเทอญ"
ภาพดังกล่าว ทำให้เพจชื่อ คนอนุรักษ์ ต้องออกโรงชี้แจงว่า การปล่อยปลาลงแหล่งน้ำ ไม่ใช่การทำบุญเสมอไป แต่อาจเป็นการทำบาปโดยไม่รู้ตัว เนื่องจากการปล่อยปลาโดยไม่คำนึงถึงสายพันธุ์ปลาท้องถิ่นที่มีอยู่เดิม อาจเป็นการทำลายระบบนิเวศที่เคยดำรงมาช้านาน
โดยในภาพกิจกรรมปล่อยปลาของพระสงฆ์รูปดังกล่าว เป็นการปล่อยปลาดุกลูกผสมกับปลาดุกรัสเซีย ที่กินเนื้อเป็นอาหาร อีกทั้งยังกินเก่งมาก พวกมันจะไล่กินลูกปลาและปลาเล็กชนิดอื่น ๆ ที่เคยอาศัยอยู่เดิมในแหล่งน้ำนั้น ๆ จนหมด ซึ่งเป็นอันตรายต่อระบบนิเวศอย่างมาก
"เมื่อไหร่จะยอมรับฟัง...ว่าสิ่งที่กำลังทำเป็นบาป เป็นโทษกับสัตว์น้ำท้องถิ่น...ขอให้การกระทำของพวกท่าน ส่งผลถึงท่านเองในเร็ววัน สาธุ ...(ด้วยคน)"
ทั้งนี้ ทางเพจอนุรักษ์ ได้ชี้แจงว่า หากวัดต้องการทำบุญด้วยการปล่อยปลา อย่างน้อยก็ควรเปลี่ยนเป็นพันธุ์ปลาท้องถิ่น เช่น ปลาหมอ ปลาสลิด ปลาช่อน ปลาไหล หรือปลาตะเพียน ปลาดุกโดยสัญชาตญาณแล้วถือเป็นปลานักล่า หากไปปล่อยในแหล่งน้ำปิด เช่น ห้วย หนอง อาจจะทำให้ปลาดุกไปกินปลาเจ้าถิ่นจนหมด อีกทั้งการปล่อยปลา ไม่ควรปล่อยปลาชนิดเดียว ควรปล่อยปลาหลาย ๆ ชนิดผสมกัน เพราะหากมีปลาชนิดเดียวมากเกินไป ปลาจะไปทำลายห่วงโซ่อาหาร หรือไม่ก็นำเงินที่ซื้อปลาไปลงทุนทำระบบบำบัดน้ำเสียก่อนปล่อยปลาลงแม่น้ำ อาจช่วยสัตว์น้ำและระบบนิเวศได้มาก และหากต้องการปล่อยปลาจริง ควรเป็นปลาในท้องถิ่น ซึ่งจะถือเป็นการทำบุญมากกว่า
ภาพและข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก คนอนุรักษ์
