x close

เผยเรื่องราว ชายพิการที่ถูกโจ๋ 6 คนฆ่า กับอนาคตของลูกทั้ง 2 ในวันที่ไร้พ่อ


     


เผยเรื่องราว ชายพิการที่ถูกโจ๋ 6 คนฆ่า กับอนาคตของลูกทั้ง 2 ในวันที่ไร้พ่อ

เผยเรื่องราว ชายพิการที่ถูกโจ๋ 6 คนฆ่า กับอนาคตของลูกทั้ง 2 ในวันที่ไร้พ่อ

            เผยเรื่องราว โจ๋ 6 คน ทำร้ายชายพิการ โชคชัย 4 กับอนาคตของลูกทั้ง 2 ในวันที่ไร้พ่อ เสาหลักของบ้านที่ถูกฆ่าด้วยความคะนอง เผยวันเกิดเหตุ หลานร้องขอชีวิตแต่โจรใจระยำไม่ยอม แทงคอจนแน่นิ่งไป

            ถึงแม้คนเราจะเลือกเกิดไม่ได้..แต่เราเลือกที่จะเป็นได้ ชายคนหนึ่งที่พิการขาลีบข้างหนึ่ง แม้โอกาสในสังคมเขาจะมีไม่มากนัก แต่เขาก็ทำอาชีพสุจริต หาเลี้ยงครอบครัวด้วยน้ำพักน้ำแรงและเท่าที่กำลังมี.. แต่เหมือนเคราะห์ซ้ำกรรมซัด ความคะนองด้วยฤทธิ์สุราของเด็กทั้ง 6 คน ได้พรากชายพิการคนนี้..ไปจากอกของลูก ๆ ทั้ง 2 และครอบครัวของเขาไปตลอดกาล
            ทั้งนี้เชื่อว่าหลายคนคงตามข่าว วัยรุ่น 6 คน ได้ลงมือฆ่า คุณสมเกียรติ ศรีจันทร์ ชายพิการวัย 36 ปี เหตุเพราะไปแซวเรื่องพิการขาลีบ จนคุณสมเกียรติไม่พอใจด่าทอกลับไป ก่อนที่จะลงไม้ลงมือฆ่ากันจนเสียชีวิตหน้าร้านขนมปังของเขา [อ่านข่าว แก๊งโจ๋โหดฆ่าลุงพิการตาย เผย 4 ใน 6 เป็นลูกตำรวจ-ญาติจวกให้ปากคำไม่มีสลด]

            จากความคึกคะนองของพวกวัยรุ่นใจโหด ที่ดื่มสุรา ครองสติไม่ได้ จนลงมือกระทำเหตุดังกล่าว สร้างความสูญเสียให้กับครอบครัว "ศรีจันทร์"  เป็นอย่างมาก เพราะคุณสมเกียรติถือเป็นเสาหลักของครอบครัว อีกทั้งยังมีลูกชายทั้งสองที่ยังอยู่ในวัยเรียนที่จะต้องดูแลด้วย ซึ่งทาง คุณ Juthamas Na Songkhla ได้โพสต์เล่าเรื่องราวอันสุดสะเทือนใจ.. ในวันที่เด็ก ๆ รับรู้ว่าพ่อของเขานั้นถูกฆ่า ในวันที่พวกเขานั้นไม่มีพ่ออยู่ข้างกาย

            โดยคุณ Juthamas Na Songkhla เล่าว่า สมเกียรติ ศรีจันทร์ ชายพิการ ขาขวาลีบข้างหนึ่ง ที่พยายามทำมาหากินสุจริตให้เหมือนกับคนธรรมดาทั่วไป มีลูกชาย 2 คน วัย 12 และ 9 ปี เลิกกับภรรยาไปนานหลายปีแล้ว ทำงานส่งเสียลูกให้ได้เรียนหนังสือ และส่งเสียแม่ ซึ่งลูกและแม่อยู่ที่นครปฐม

            สมเกียรติทำงานอยู่ร้านขนมปัง ชื่อ "ปังหอม" เมื่อวันเสาร์ 30 เมษายนที่ผ่านมา สมเกียรติไปเยี่ยมแม่เยี่ยมลูกที่นครปฐม เพราะร้านปิดทำขนมทุกวันเสาร์ และเงินเดือนออกเลยเอาเงินไปให้แม่ กินข้าวกับแม่ แล้วกลับมานอนที่ร้านในตอนเย็น ทุก ๆ วันตอนเช้า เวลาตีห้า เกียรติจะเป็นคนส่งเสียงเรียกทุกคนในร้านให้ตื่นขึ้นทำขนมปัง จนทำแป้งทุกอย่างเสร็จประมาณ 8 โมงเช้า จึงจะขับรถออกไปส่งขนมปังที่ร้านละแวกที่พัก


            เช้าวันที่ 1 พฤษภาคม ก็เป็นเหมือนเช่นทุกวัน ก่อนออกไปส่งขนมปัง เฟิร์นและเมธัส หลานสาวและหลานชายที่บริหารร้านขนมปังนี้อยู่ ถามน้าเกียรติว่า...วันนี้เราหุงข้าวกินกันไหม น้าเกียรติดีใจ บอกว่าเอาสิมีปลาทอด หมูทอด ที่ยายให้มาเมื่อวานนี้อยู่  เดี๋ยวน้าส่งขนมปังเสร็จ จะซื้ออะไรมาเพิ่ม แล้วเกียรติก็ขับรถออกจากร้านไป

            เกียรติกลับมาในอีกพักใหญ่ไม่ได้ซื้ออาหารติดมือมา แต่มาบอกในร้านว่า เมื่อกี้มีปากเสียงกับกลุ่มวัยรุ่น มันแซวตอนจะไปส่งขนมปัง กลุ่มวัยรุ่นผ่านมาที่หน้าร้านตะโกนแซวเรื่องขนมปังและชื่อร้าน แล้วเมื่อเขาไปส่งที่ร้านหนึ่ง พอขับรถออกมา ก็เจอกลุ่มวัยรุ่นพวกเดิม ขี่จักรยานยนต์แซงไป พร้อมกับแซวเรื่องความพิการของเขาอีก เขาเลยขี่มอเตอร์ไซค์ตามไปปาดแซงถามว่า ด่าว่าอะไร มีการโต้ตอบกันด้วยคำพูดหลายคำ สั่งสอนไปว่าพูดจาให้ดี ๆ แล้วก็ขับรถตรงกลับมาที่ร้าน

            เมธัสเล่าว่า เกียรติบอกว่าคงไม่มีไรหรอกคุยกันจบแล้ว แต่ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงจากนั้น มีวัยรุ่น 4 คนเข้ามาในร้านมาเคลียร์ และเรียกร้องให้เกียรติขอโทษพวกเขา มีปากเสียงเถียงกัน เกียรติก็ขอโทษ ทุกคนช่วยกันบอกให้เด็กวัยรุ่นกลุ่มนั้นใจเย็น ๆ  ในช่วงนั้นเมธัสโทรบอกพ่อ เฟิร์นโทรบอกแม่ ซึ่งไม่ได้อยู่ที่ร้านให้มาช่วย โทรแจ้งตำรวจด้วย เพราะเกรงจะมีเรื่องใหญ่ หนึ่งในกลุ่มประกาศว่า โทรเรียกมาเลย พ่อกูนี่แหละเป็นตำรวจ แต่คุยกันสักพัก เด็กกลุ่มนั้นก็ใจเย็นลงและเดินออกจากร้านไป ซึ่งคิดว่าเรื่องน่าจะจบตอนนั้นแล้ว

            มีเด็กหนุ่มคนหนึ่งอาจจะไม่ยอมจบ เพราะทราบภายหลังว่ามีการโทรเรียกเพื่อนมาสมทบ รวมแล้วทั้งหมด 8 คน ชาย 6 หญิง 2 มาอยู่ที่หน้าร้าน ตะโกนเรียกให้ออกมาเคลียร์ หลังจากนั้นก็ชุลมุนกัน เกียรติใช้มีดที่เอาไว้เขี่ยขนมปังในเตาอบป้องกันตัว หนีพลางถอยพลางอยู่บนถนนหน้าร้าน โดยมีเมธัสพยายามขวาง ยกมือไหว้ขอร้อง อย่าทำน้าผม ๆ ๆ ซึ่งตอนนั้นเกียรติมีแผลถูกฟันหลายแผลแล้ว แต่หนึ่งในนั้นลงมือแทงเข้าที่ลำคอของเกียรติผ่านหน้าเมธัสไป

            ผู้เห็นเหตุการณ์แถวนั้นบอกว่าได้ยินเสียงตะโกน เอามันให้ตาย ของผู้หญิงอยู่ในกลุ่มนั้นด้วย ขณะเกิดเหตุมีคนเห็นเยอะแต่ไม่มีใครกล้าเข้าระงับเหตุ มีแต่ถ่ายคลิปไว้จนตำรวจหลายนายมาถึงที่เกิดเหตุ ซึ่งยังไม่สามารถระงับเหตุได้ทันท่วงทีตำรวจต้องยิงปืนขึ้นฟ้าหนึ่งนัด จึงยุติ (ตามคลิป)

            เราคิดว่าเกียรติคงจากไปตั้งแต่ตรงนั้น ในอ้อมกอดของเมธัส แต่หลานก็ยังพยายามเอาน้าไปส่งโรงพยาบาลเปาโล เกียรติจึงได้ชื่อว่าไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล เราไปถึงโรงพยาบาลและได้รับการยืนยันแล้วว่าเกียรติไม่รอด จึงตามไปหาเมธัสที่ สน.โชคชัย เมธัสอยู่ในห้องประชุมกับท่านผู้กำกับ ชัยรพ จุณณวัตร์ ได้รับทราบว่า จับผู้ต้องหามาทั้งหมด 8 คน

เผยเรื่องราว ชายพิการที่ถูกโจ๋ 6 คนฆ่า กับอนาคตของลูกทั้ง 2 ในวันที่ไร้พ่อ

            บรรยากาศบนโรงพักขณะนั้นดูคุกรุ่นพอสมควร ในความรู้สึกของคนที่ไม่คุ้นเคยอย่างเรา เรากอดเมธัสซึ่งเสื้อผ้ามีเลือดน้าเกียรติเลอะท่วมตัว ได้รับการยืนยันจากหลานมาก่อนหน้าแล้วว่า เขาไม่ได้รับบาดเจ็บใด ๆ เมธัสตัวสั่น เอาหน้าซบอกเราแล้วบอกว่า ผมขอโทษครับอา ผมช่วยน้าเกียรติไว้ไม่ได้ สงสารหลานมาก เพราะเราเลี้ยงเขามา เขาไม่เคยพบเจอเหตุการณ์แบบนี้สักครั้งในชีวิต บอกตรง ๆ ว่า ยิ่งได้รับข้อมูลว่าหนึ่งในผู้ต้องหา เป็นลูกหลานตำรวจ เรายิ่งใจไม่ดี หลานเราจะปลอดภัยไหม คนพิการขาเป๋คนหนึ่งที่ตายไป คงตายไปอย่างเงียบ ๆ ไม่มีปากมีเสียง เราเลยโทรศัพท์ไปเล่าเรื่องราวนี้ให้ผู้ใหญ่ในกรมตำรวจฟัง พร้อมกับเพื่อนฝูงก็ฝากฝังสายสัมพันธ์ของเขาที่เป็นตำรวจให้ด้วยเพื่อเรียกร้องความยุติธรรมให้กับคนตาย

            จนนำมาสู่การแถลงข่าวของ พล.ต.ท. ศานิตย์ มหถาวร รักษาราชการแทน ผบช.น. ที่ สน.โชคชัย 4 ที่จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และก็ได้รับทราบจากปากท่านเองว่า คดีนี้มีลูกตำรวจเป็นผู้ต้องหาถึง 4 คน ขอบคุณเพื่อน ๆ ที่วิ่งเต้นฝากคดีนี้ให้ได้รับความเป็นธรรม ขอบคุณเจ้าของคลิปและผู้เผยแพร่ให้สังคมได้ติดตามสถานการณ์ ตำรวจถามเช่นกันว่าใครเป็นคนปล่อยคลิป ซึ่งทางเราก็ได้แต่ตอบว่าคงเป็นพลเมืองดี เพราะมีคนถ่ายไว้ได้หลายคน (น่าจะมีอีก)

เผยเรื่องราว ชายพิการที่ถูกโจ๋ 6 คนฆ่า กับอนาคตของลูกทั้ง 2 ในวันที่ไร้พ่อ

            ขอบคุณทุกกำลังใจที่มีให้แก่ครอบครัวเรา และขอบคุณเพื่อนพ้องใจดีที่ขอโอนเงินมาช่วยครอบครัวผู้ตาย ขอบคุณอย่างยิ่ง กับคุณวรรณภา และ พล.ต.ต. พีระพงศ์ วงษ์สมาน เพื่อนที่เป็นทุกข์ร้อนห่วงใยกับเหตุการณ์นี้และพร้อมช่วยเหลือทันทีที่ร้องขอ

เผยเรื่องราว ชายพิการที่ถูกโจ๋ 6 คนฆ่า กับอนาคตของลูกทั้ง 2 ในวันที่ไร้พ่อ

            ป.ล. ไม่ได้คิดจะกล่าวโทษ ใส่ร้าย หรือกระเหี้ยนกระหือรือให้ใครตายตกไปตามกัน แค่เรียกร้องความยุติธรรมให้คนตาย และบอกกล่าวในมุมของญาติผู้ตายเท่านั้น พยายามเรียบเรียงให้เบาที่สุดแล้ว

            #‎กรรมนั้นทุกคนมีเป็นของตน‬ ‪
            #‎ใช้ชีวิตอย่างมีสติกันนะคะ‬



ภาพและข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก Juthamas Na Songkhla

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เผยเรื่องราว ชายพิการที่ถูกโจ๋ 6 คนฆ่า กับอนาคตของลูกทั้ง 2 ในวันที่ไร้พ่อ อัปเดตล่าสุด 3 พฤษภาคม 2559 เวลา 16:24:51 146,087 อ่าน
TOP