จากกรณีเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2559 สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ได้แถลงผลสอบโครงการประดับตกแต่งไฟ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวบริเวณลานคนเมืองของ กทม. งบประมาณกว่า 39 ล้านบาท โดยระบุว่า จากการตรวจสอบพบหลักฐานการฮั้วประมูล ทาง สตง. จึงมีมติดำเนินการเอาผิด ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม., ข้าราชการรวม 9 คน และคู่บริษัทคู่ฮั้ว พร้อมขอให้เร่งนำเงินคืนคลัง ตามที่มีรายงานข่าวไปแล้วนั้น [อ่านข่าว : จ่อฟัน สุขุมพันธุ์ หลังสอบโครงการไฟลานคนเมือง 39.5 ล้าน พบมีฮั้วประมูล]
เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2559 ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เวลา 11.00 น. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร แถลงข่าวกรณีโครงการประดับไฟตกแต่งเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวบริเวณลานคนเมือง มูลค่า 39.5 ล้านบาท ที่ทางคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (คตง.) มีมติเป็นเอกฉันท์ว่า ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร และข้าราชการกรุงเทพมหานคร 9 คน ดำเนินโครงการไม่เป็นไปตามระเบียบแบบแผนของทางราชการ จึงเข้าข่ายทุจริตใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบก่อให้เกิดความเสียหายแก่เงินและทรัพย์สินของแผ่นดิน
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวว่า ตนยืนยันว่าโครงการค่าใช้จ่ายในการประดับตกแต่งไฟฟ้าเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว ของสำนักวัฒนธรรมกีฬาและการท่องเที่ยว กทม. วงเงิน 39 ล้าน 5 แสนบาท เป็นนโยบายที่ดีและถูกต้อง ซึ่งตนจัดโครงการขึ้นเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเพิ่มรายได้ให้กับประชาชนในระดับรากหญ้า ส่วนสาเหตุที่ กทม. ต้องนำงบประมาณฉุกเฉินมาใช้ในโครงการดังกล่าวแทนงบประมาณปกติเป็นเพราะว่าถูกตัดงบประมาณด้านการท่องเที่ยวจาก 241 ล้านบาท เหลือเพียง 50 ล้านบาท จึงถึงเป็นกรณีจำเป็นและเป็นอำนาจของผู้ว่าฯ กทม.
นอกจากนี้ ตลอดระยะเวลาการจัดงานขึ้นก็มีประชาชนให้ความสนใจเข้าชมงานกว่า 1 ล้าน 7 แสนคน ส่งผลให้มีเงินสะพัดกว่า 10 ล้านบาท ซึ่งงานดังกล่าวก็ไม่ใช่งานแรกที่ กทม. จัด ยังมีงานอื่น ๆ อาทิ ตลาดน้ำคลองผดุงกรุงเกษม ด้านข้างทำเนียบรัฐบาล และในอนาคตก็จะมีจัดงานเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว และเพิ่มรายได้ให้กับประชาชนอีก
ทั้งนี้ การที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ระบุว่า ตัวเองไม่เข้าชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับโครงการดังกล่าว 2 ครั้ง แต่มอบหมายให้รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครไปชี้แจงแทนนั้น เป็นเพราะว่ารองผู้ว่าราชการเป็นผู้ที่ทราบข้อมูลด้านเทคนิคอย่างละเอียด และเป็นไปตามระเบียบที่สามารถทำได้ พร้อมยืนยันว่าตนเองไม่เคยหลบหนี และยินดีจะให้ความร่วมมือทั้งข้อมูล และเอกสารกับ สตง. ขอให้ สตง. อ่านรายละเอียด และเอกสารให้ครบถ้วน
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ระบุอีกว่า การตรวจสอบโครงการดังกล่าวยังไม่แล้วเสร็จ หากมีการกล่าวหาตนเองในทางที่ผิด ก็จะดำเนินการฟ้องร้องทันที ส่วนจะมีการฟ้องร้องกลับหรือไม่ กรณีที่คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (คตง.) มีมติว่าโครงการดังกล่าวส่อผิดปกตินั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างหารือกับทีมกฎหมาย
อย่างไรก็ตาม ตนยังไม่ทราบกรณีที่อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ออกมาระบุว่า ให้นายกรัฐมนตรี ใช้มาตรา 44 ในการสั่งย้ายตัวเอง เพราะเห็นว่าไม่ใช่มติของพรรคประชาธิปัตย์ และโต้กลับว่าส่วนตัวเข้าใจว่าพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ชอบมาตรา 44 และยืนยันว่าในอนาคตตัวเองก็จะเดินหน้าทำงานต่อไปจนครบวาระ และไม่ลาออกจากตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ขณะที่ในส่วนแนวทางงานการเมืองนั้นตนอาจขอพักไปก่อน
ทั้งนี้ ก่อนจบการแถลงข่าวชี้แจงได้มีนักข่าวสอบถาม ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ถึงกรณีหากมีการชี้มูลว่าผิดจริง มีข้อความ ดังนี้
นักข่าว : ถ้ามีผลชี้มูลว่าผิดจริง จะพิจารณาตัวเองลาออกไหมครับ
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ : ก็ให้ถึงจุดนั้นก่อนดิครับ ผมขอพักผ่อนได้มั้ยครับ.. ผมมีอยู่พรรคเดียวครับตอนนี้ คือ "พักผ่อน" ครับ
เกาะติดข่าว สุขุมพันธุ์ บริพัตร ทั้งหมด
ภาพจาก ทวิตเตอร์ @ch8_thaneenart, @ThaiPBSNews
