ตำรวจแจงคลิปยึดรถแม่ลูกอ่อน เกรงเกิดอันตราย หวั่นเป็นรถขโมยมา

         ตำรวจ สภ.สมุทรปราการ เผยเหตุที่ต้องยึดรถสาวแม่ลูกอ่อน เกรงจะเกิดอันตรายต่อทารก หวั่นเป็นรถที่ขโมยมา เพราะไม่มีเอกสารใด ๆ แสดงตัว ทั้งเอกสารครอบครอง ใบขับขี่ บัตรประชาชน

         จากกรณีที่โลกออนไลน์มีการแชร์คลิปแม่ลูกอ่อนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจยึดกุญแจรถมอเตอร์ไซค์และขี่ออกไปปล่อยให้ยืนอยู่ที่บริเวณแยกวัดแพรกษา จ.สมุทรปราการ นั้น [อ่านข่าว : ทำแบบนี้ได้ด้วยเหรอ แม่อุ้มลูกน้อยเจอข้อหาไม่สวมหมวกกันน็อก โดนตำรวจยึดรถขี่ไปเฉย]
         ล่าสุด (9 มิถุนายน 2559) รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ทางช่อง 3 รายงานว่า พ.ต.ท. ราเชนทร์ ถนัดพจนามาตย์ รองผู้กำกับการจราจร สภ.เมืองสมุทรปราการ เปิดเผยว่า เหตุการณ์ในคลิปเกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้าวันที่ 6 มิถุนายนที่ผ่านมา ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจยืนอำนวยความสะดวกการจราจรบริเวณแยกวัดแพรกษา มีชายหญิงในคลิปขี่รถจักรยานยนต์พร้อมอุ้มเด็กทารกโดยทั้งคู่ไม่ได้สวมหมวกกันน็อก จึงเรียกมาเตือนเกรงจะเกิดอันตราย พร้อมขอตรวจดูใบขับขี่ ทะเบียนรถ เอกสารการครอบครองรถ รวมถึงบัตรประชาชน แต่กลับไม่มีให้ และทราบว่าบ้านอยู่ไม่ไกลจึงยึดรถเอาไว้ก่อนและให้ไปเอาเอกสารมาแสดง ซึ่งหลังจากนั้นทั้งคู่ก็หายไปนานเข้าใจว่าคงกลับไปเอาเอกสาร ประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง ก่อนจะกลับมาแสดงตัว

         ทั้งนี้ พ.ต.ท. ราเชนทร์ กล่าวอีกว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจเห็นผิดสังเกต เนื่องจากรถรุ่นยี่ห้อฮอนด้า เวฟ เป็นรถที่ถูกขโมยสูงมาก จึงมีการตรวจสอบไปยังกรมขนส่งฯ กลับไม่พบข้อมูลการครอบครอง ก่อนจะมีเจ้าหน้าที่จากบริษัทไฟแนนซ์ติดต่อมาพร้อมสอบถามว่าเจอรถคันนี้ที่ไหน และเมื่อตรวจสอบก็พบว่าชื่อเจ้าของรถไม่ตรงกับชายหญิงในคลิปที่ถูกออกใบสั่ง

         เบื้องต้นได้มีการเร่งตรวจสอบว่ารถคันดังกล่าวเป็นของใครและมีที่มาอย่างไร อย่างไรก็ดีได้มีการสั่งให้เจ้าหน้าที่ที่ออกใบสั่งอยู่ประจำการที่สถานีตำรวจไม่ให้ออกมาปฏิบัติงานจราจรเพื่อความสบายใจ ซึ่งตำรวจนายดังกล่าวยังยืนว่า หวังดีกับทารกจริง ๆ เพราะกลัวจะเกิดอันตราย ไม่ได้ต้องการที่จะปรับแต่อย่างใด

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Pat Tama
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก