หนุ่มช่างวัย 35 พ่อของเด็กหญิงอนุบาลที่ให้ลูกยืนซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ขณะขี่รถกลับบ้าน เข้ามอบตัวกับตำรวจ เจ้าตัวเผย ไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องใหญ่โต พร้อมขอโทษสังคมที่ทำตัวอย่างไม่ดี
จากกรณีที่มีผู้โพสต์คลิปเด็กหญิงอนุบาลยืนซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ ขณะที่รถกำลังแล่นไปบนถนนที่มีการจราจรคับคั่ง จนสร้างความหวาดเสียวแก่ผู้พบเห็นเป็นอย่างมากนั้น [อ่านข่าว : วิจารณ์สนั่น พ่อให้ลูกยืนบนเบาะมอเตอร์ไซค์ ชาวเน็ตหวั่นเด็กตกลงมา]
โดยนายวิสิทธิ์ เปิดเผยว่า วันที่ 6 มิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันเกิดเหตุตนได้นำรถจักรยานยนต์ไปรับลูกสาวและลูกของเพื่อนที่โรงเรียน เนื่องจากรถยนต์ที่ขับมารับลูกเป็นประจำเสีย โดยก่อนขึ้นรถทั้งคู่ได้แย่งกันนั่งบริเวณเบาะด้านหน้า ตนจึงตัดสินใจลูกของเพื่อนซึ่งมีอายุเพียง 3 ขวบ นั่งแล้วให้ลูกสาวที่มีอายุ 5 ขวบ นั่งที่เบาะท้ายรถแทน ปรากฏว่า ลูกสาวขอยืน และตนเองเห็นว่าระยะทางจากโรงเรียนถึงบ้านประมาณ 1 กิโลเมตรเท่านั้น ประกอบกับใช้ความเร็วไม่เกิน 20-30 กิโลเมตร/ชั่วโมง อีกทั้งยังคอยระวังอยู่แล้ว จึงคิดว่าการที่ลูกสาวยืนซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์คงไม่น่าเกิดปัญหาอะไร
นายวิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า แต่พอเรื่องนี้กลายเป็นเรื่องราวใหญ่โต จึงตัดสินใจเดินทางมาขอโทษนางทรงศรี ที่ทำให้โรงเรียนเสียชื่อเสียง พร้อมขอโทษประชาชนและสังคมที่ทำตัวอย่างไม่ดีให้เห็นซึ่งเป็นการผิดกฎจราจร ต่อไปจะไม่ทำอีกแล้ว
ต่อมา นางทรงศรี และนายวิสิทธิ์ ได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท. ภัทรพล วัจนสุนทร รอง ผกก.สภ.บางบัวทอง เพื่อเสียค่าปรับ
ขณะที่ พ.ต.ท. ภัทรพล เปิดเผยว่า จากกรณีดังกล่าวทางผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ได้เดินทางเข้ามาพบ จึงได้ปรับไปในข้อหาขับรถโดยประมาทไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้อื่น ซึ่งมีโทษปรับ 400-1,000 บาท และเห็นว่าผู้ขับขี่เพิ่งทำครั้งแรกจึงได้ปรับขั้นต่ำ 400 บาท พร้อมทั้งแจ้งข้อหาขับรถโดยประมาทน่าหวาดเสียวและไม่จัดให้สวมหมวกนิรภัย และตักเตือนไม่ให้กระทำการเช่นนี้อีก เพราะนอกจากจะเป็นอันตรายต่อเด็กแล้วยังเป็นอันตรายต่อผู้ร่วมใช้รถใช้ถนนอีกด้วย
ภาพและข้อมูลจาก
