ผู้การฯ สปพ. ย้ำ ใช้ 191 เป็นหมายเลขฉุกเฉิน หลังมีคนแชร์เปลี่ยนเป็น 911 จ่อเอาผิดคนแชร์มั่ว ชี้ผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
จากกรณีที่มีการแชร์ข้อความระบุว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงหมายเลขโทรศัพท์ฉุกเฉินจากหมายเลข 191 เป็น 911 จนสร้างความสับสนให้กับประชาชนและเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อยู่นั้น
ล่าสุด วันที่ 25 กรกฎาคม 2559 เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ ได้ร่วมกันแถลงข่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า ไม่เป็นความจริง และจะเอาผิดผู้เผยแพร่ ขอฝากเตือนประชาชนห้ามโพสต์หรือแชร์ เพราะอาจเข้าข่ายความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ โดยการเปลี่ยนหมายเลขฉุกเฉินนั้น ต้องเข้าสู่กระบวนการร่างกฎหมายตาม พ.ร.บ.กำหนดหมายเลขฉุกเฉินแห่งชาติ ซึ่งผู้กำหนดและอนุญาตคือ กสทช. เท่านั้น นอกจากนี้ร่างพระราชบัญญัติกำหนดหมายเลขโทรศัพท์ฉุกเฉินแห่งชาติ ยังไม่มีการกำหนดว่า จะใช้หมายเลขโทรศัพท์ใดเป็นหมายเลขฉุกเฉิน ซึ่งปัจจุบันร่างฉบับดังกล่าวผ่านความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีแล้ว แต่ยังไม่เข้าสู่ที่ประชุมในสภา
จากกรณีที่มีการแชร์ข้อความระบุว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงหมายเลขโทรศัพท์ฉุกเฉินจากหมายเลข 191 เป็น 911 จนสร้างความสับสนให้กับประชาชนและเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อยู่นั้น
ล่าสุด วันที่ 25 กรกฎาคม 2559 เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ ได้ร่วมกันแถลงข่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า ไม่เป็นความจริง และจะเอาผิดผู้เผยแพร่ ขอฝากเตือนประชาชนห้ามโพสต์หรือแชร์ เพราะอาจเข้าข่ายความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ โดยการเปลี่ยนหมายเลขฉุกเฉินนั้น ต้องเข้าสู่กระบวนการร่างกฎหมายตาม พ.ร.บ.กำหนดหมายเลขฉุกเฉินแห่งชาติ ซึ่งผู้กำหนดและอนุญาตคือ กสทช. เท่านั้น นอกจากนี้ร่างพระราชบัญญัติกำหนดหมายเลขโทรศัพท์ฉุกเฉินแห่งชาติ ยังไม่มีการกำหนดว่า จะใช้หมายเลขโทรศัพท์ใดเป็นหมายเลขฉุกเฉิน ซึ่งปัจจุบันร่างฉบับดังกล่าวผ่านความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีแล้ว แต่ยังไม่เข้าสู่ที่ประชุมในสภา
นอกจากนี้หมายเลข 191 ยังไม่ได้ผ่านการกำหนดให้เป็นหมายเลขฉุกเฉินแห่งชาติ แต่หากมีการกำหนดใช้แล้วจะแจ้งเหตุได้เพียง 3 อย่างเท่านั้น ได้แก่ ไฟไหม้, อาชญากรรม และเหตุฉุกเฉินทางการแพทย์เท่านั้น หากผู้แจ้งโทร. มาแจ้งนอกเหนือจากที่กล่าวไปแล้วอาจจะมีความผิดด้วย ซึ่งถือว่าที่ผ่านมาทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่บังคับใช้ข้อบังคับดังกล่าว
สำหรับผู้ที่เผยแพร่ข้อมูลเท็จนั้น เจ้าหน้าที่จะดำเนินการเอาผิดเนื่องจากเข้าข่ายความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตราที่ 14 มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ภาพจาก เฟซบุ๊ก สายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ 191
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
