เผยผลสอบสวนกรณีนักท่องเที่ยวถูกเสือขย้ำดับ 1 เจ็บ 1 ในสวนสัตว์ซาฟารีที่จีนออกแล้ว ชี้ชัด ความผิดเกิดจากคนไม่ใช่ทางสวนสัตว์ เพราะนักท่องเที่ยวเป็นฝ่ายออกจารถเอง ทั้งที่มีการเตือนชัดเจนแล้ว ขณะเสียงโพลชาวเน็ตเห็นตรงกัน ไม่ใช่ความผิดสวนสัตว์สักนิดเดียว
จากกรณีนักท่องเที่ยวถูกเสือที่อุทยานสัตว์ป่าปาต้าหลิง ในกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เข้าขย้ำคนได้รับบาดเจ็บ 1 และเสียชีวิตอีก 1 ราย โดยเหตุเกิดเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ดังที่เคยมีการนำเสอนข่าวและคลิปอันน่าตระหนกตกใจไปแล้วในข่าว นักท่องเที่ยวทะเลาะกลางซาฟารีที่จีน 2 หญิงเปิดประตูลงรถ ถูกเสือขย้ำดับ 1 ไปแล้วนั้น
ทั้งนี้ ก่อนจะเข้าเที่ยวชมได้ นักท่องเที่ยวได้อ่านและเซ็นรับทราบกฎและข้อตกลงของทางอุทยานเป็นที่เรียบร้อย ว่าจะล็อกประตูพาหนะ ไม่ให้อาหารสัตว์ หรือลงมานอกพาหนะเป็นอันขาด หากผ่าผืนทางอุทยานจะไม่รับผิดชอบใด ๆ อีกทั้งที่ด้านใน ก็มีรถลาดตระเวนของเจ้าหน้าที่คอยประกาศเตือนกำกับข้อปฏิบัติเหล่านี้แก่บรรดานักท่องเที่ยวตลอด โดยเฉพาะส่วนทางเข้าโซนที่อยู่ของเสือนั้น ยังมีป้ายประกาศชัดเจนที่ด้านหน้า ว่าเป็นโซนสัตว์อันตราย ห้ามลงจากรถเด็ดขาด
แต่จากภาพในคลิปที่ปรากฏออกมา เผยให้เห็นชัดเจนว่า นางเจ้า หญิงนักท่องเที่ยวเป็นผู้เปิดประตูฝั่งข้างคนขับออกมา เดินวนมาที่ด้านคนขับ ก่อนถูกเสือตะปบลากไป โดยมีสามีของเธอตามไปช่วย ก่อนที่แม่ของเธอจะตามลงไปช่วยด้วย อันเป็นเวลาเดียวกับที่รถลาดตระเวนเจ้าหน้าที่บึ่งมาถึงพอดี สามารถนำเสือเข้ากรงได้สำเร็จ แต่เคราะห์ร้ายที่ไม่อาจช่วยชีวิตเหยื่อได้ทันกาล ผู้เป็นมารดาวัย 57 เสียชีวิต ขณะหญิงซึ่งเป็นลูกสาวอายุ 32 ได้รับบาดเจ็บสาหัส ซึ่งทั้งนี้ก็ยังคงไม่เป็นที่แน่ชัดว่าเกิดเหตุอะไรขึ้นภายในรถ ก่อนที่หญิงคนเจ็บจะเปิดประตูรถออกมา
ในระหว่างกระบวนการสอบสวน ทางอุทยานต้องปิดไม่ให้เข้าชมโซนเสือชั่วคราว และได้ออกมาปฏิเสธข่าวลือ ยืนยันว่าไม่มีการฆ่าเสือตัวก่อเหตุแต่อย่างใด และเมื่อการสอบสวนเสร็จสิ้นแล้ว แม้ผลชี้ว่าทางอุทยานไม่ผิด แต่ก็ถูกสั่งให้หามาตรการวิธีเตือนภัยนักท่องเที่ยวที่เข้มข้นยิ่งขึ้น ตลอดจนปรับปรุงการฝึกซ้อมกู้ภัยกรณีฉุกเฉินให้ได้ประสิทธิภาพมากขึ้น
และต่อคำตัดสินดังกล่าว ฝ่ายผู้ใกล้ชิดเหยื่อได้ชี้ว่า หน่วยสืบสวนตัดสินเข้าข้างอุทยาท เพื่อไม่ให้ต้องจ่ายค่าชดเชยเหยื่อมากเกินไป ซึ่งในตอนนี้ ทางอุทยานกำลังอยู่ระหว่างเจรจาเรื่องการจ่ายค่าชดเชยให้เหยื่อ
ทางด้านเสียงวิจารณ์ต่อกรณีนี้ในโลกออนไลน์ ผู้คนส่วนใหญ่เห็นด้วยกับผลการสอบสวน บางรายแสดงความคิดเห็นว่า ครอบครัวเหยื่อต่างหากที่ควรจ่ายค่าเสียหายให้อุยานที่ต้องปิดการชมโซนเสือไปชั่วคราว บ้างก็ว่า ค่าชดเชยที่เหยื่อควรได้ ก็แค่ค่าตั๋วเข้าชมเท่านั้นแหละ โดยผลโพลใน weibo โดยประชาชน 310,000 ราย มีเพียง 2.3% เท่านั้น ที่มองว่าเป็นความผิดของอุทยาน
ภาพจาก weibo, World Clips India สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม