นายกฯ ให้ พล.อ.อ. ประจิน นั่งรักษาการรัฐมนตรี ICT ยันยังไม่ปรับ ครม. ไม่ขอออกความเห็นเรื่อง กกต. ขัดแย้งกันเอง ชี้ใช้ ม.44 แก้ปัญหาจราจรได้ไม่หมด
วันนี้ (18 กันยายน 2559) พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ถึงกรณีที่ นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ลาออกจากตำแหน่ง ว่า เนื่องจากตามขั้นตอนของกฎหมายแล้วจะต้องลาออกจากตำแหน่ง เพราะจะมีการตั้งกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งเป็นกระทรวงใหม่ ขณะนี้ได้ให้ พล.อ.อ. ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี ทำหน้าที่รักษาการแทนก่อน แต่ยืนยันว่าจะยังไม่ปรับคณะรัฐมนตรีในขณะนี้ ส่วนตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการที่ยังเหลืออยู่ในโควตา 2 ตำแหน่งนั้น นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ในระหว่างการพิจารณา ทาบทาม ซึ่งไม่สามารถเปิดเผยได้ว่าเป็นผู้ใด
วันนี้ (18 กันยายน 2559) พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ถึงกรณีที่ นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ลาออกจากตำแหน่ง ว่า เนื่องจากตามขั้นตอนของกฎหมายแล้วจะต้องลาออกจากตำแหน่ง เพราะจะมีการตั้งกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งเป็นกระทรวงใหม่ ขณะนี้ได้ให้ พล.อ.อ. ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี ทำหน้าที่รักษาการแทนก่อน แต่ยืนยันว่าจะยังไม่ปรับคณะรัฐมนตรีในขณะนี้ ส่วนตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการที่ยังเหลืออยู่ในโควตา 2 ตำแหน่งนั้น นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ในระหว่างการพิจารณา ทาบทาม ซึ่งไม่สามารถเปิดเผยได้ว่าเป็นผู้ใด
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงกรณีการตั้งคณะรัฐมนตรีส่วนหน้า เพื่อไปดูแลปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่จะต้องสร้างการรับรู้แก่ประชาชนในพื้นที่ และทำให้ประชาชนรู้สึกว่า รัฐบาลต้องการที่จะแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง โดยมีการบูรณาการจากกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) และศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ซึ่ง นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งดังกล่าวนั้น ได้กำหนดไว้ว่าจะต้องเป็นตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการ แต่ไม่ได้ระบุชัดเจนว่า เป็น พล.อ. สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ หรือไม่
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงข้อเสนอของสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ที่ให้ใช้มาตรา 44 แก้ไขปัญหาการจราจรว่า ไม่สามารถใช้มาตรา 44 แก้ปัญหาการจราจรทั้งหมดได้ เนื่องจากเป็นปัญหาที่เกิดสะสมมายาวนาน และเกี่ยวโยงกับการวางผังเมือง จึงจำเป็นต้องใช้ระยะเวลาในการศึกษาข้อมูล และบูรณาการร่วมกันในหลายกระทรวงที่เกี่ยวข้องด้วย
ข้อมูลจาก สำนักข่าว INN