เปิดบทสัมภาษณ์ บอล นเรศร หนุ่มขี่มอเตอร์ไซค์เที่ยว 77 จังหวัดทั่วไทย หลังตัดสินใจลาออกจากงานเพื่อไล่ตามความฝัน จนค้นพบความสุขที่แท้จริง แม้เคยล้มเหลวมาแล้วหลายครั้ง-ติดหนี้กว่า 1 แสน
เป็นหนุ่มใจกล้าที่ตัดสินใจลาออกจากงานและขี่รถมอเตอร์ไซค์คันเดียวแบกความฝันท่องเที่ยวไป 77 จังหวัดทั่วไทย จนกลายเป็นขวัญใจใครหลายคนและโด่งดังอย่างมากในโลกออนไลน์ สำหรับ บอล หนุ่มใต้หน้าคม หรือ นายนเรศร นันทสุทธิวารี อายุ 35 ปี ที่ล่าสุดรายการแรงชัดจัดเต็ม ทางช่อง BRIGHT TV โดยมี บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี เป็นพิธีกรดำเนินรายการ เทปเมื่อวันที่ 15 กันยายน 2559 ได้เชิญหนุ่มใต้คนนี้มาร่วมพูดคุยในรายการ
สำหรับจุดเริ่มต้นของการเดินทางนั้น บอล นเรศร เล่าว่า ก่อนหน้านี้ตนเองเป็นเพียงพนักงานออฟฟิศธรรมดาทั่วไปที่เปลี่ยนงานมาแล้วกว่า 34 ที่ ในกรุงเทพพฯ เพื่อไขว่คว้าหาหนทางรวยแต่ก็ไม่รุ่ง จนตัดสินใจลาออกจากงานเพื่อไปประกอบอาชีพค้าขาย อย่างการเป็นพ่อค้าขายไก่ต้มน้ำปลา, กุ้งอบวุ้นเส้น และข้าวไข่เจียว ที่ จ.นครศรีธรรมราช แต่สุดท้ายก็ขาดทุนและเป็นหนี้จำนวน 150,000 บาท โดยในตอนนั้นตนเองอายุเพียง 31 ปี จึงกลับมาตั้งหลักหางานทำที่กรุงเทพฯ อีกครั้งเพื่อปลดหนี้ ซึ่งตนได้งานพิมพ์เอกสารที่บริษัททัวร์แห่งหนึ่งทำให้ได้เห็นโลกกว้างมากขึ้น
ตอนแรกผมก็ยังไม่กล้าเดินทาง แต่ตอนพิมพ์เอกสารได้เห็นปารีส เห็นภูเขาไฟฟูจิ เห็นที่ต่าง ๆ ก็รู้สึกว่าเราอยากไป คนโน้นคนนี้ก็ไปแต่เราไม่กล้า จนกระทั่งวันที่ 17 กรกฎาคม 2556 เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา ผมได้ไปโม้กับน้องคนหนึ่งว่าอยากไปโฮจิมินห์ ตั๋วเครื่องบินไป-กลับ 2,500 บาท แต่ไม่มีบัตรเครดิตจอง แต่น้องคนนั้นดันกลับจองให้ ซึ่งผมก็บอกว่าไม่มีเงินจ่ายแต่น้องก็บอกว่าสามารถผ่อนได้เดือนละ 200-300 บาท อย่างไรก็ได้แต้มและรู้ว่าผมจ่ายแน่นอน ทำให้ผมปฏิเสธไม่ได้และเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางครั้งแรกที่ประเทศเวียดนามคนเดียว เป็นการไปต่างประเทศคนเดียวครั้งแรก ภาษาอังกฤษก็ยังพูดไม่ได้ มีเงินติดกระเป๋าอยู่ 5,000 บาท แถมยังไม่มีบัตรเครดิต ไม่มีเพื่อน และนั่นคือทริปเปลี่ยนโลกของผม บอล นเรศร กล่าว
บอล นเรศร เล่าต่อว่า ทริปนี้ตนไปคนเดียวด้วยความกลัวและเมื่อตนลงจากเครื่องก็รู้สึกเหมือนเด็กบ้านนอกคนหนึ่งที่ไม่เคยมาต่างประเทศคนเดียวทำให้รู้สึกตื่นเต้นจนเหงื่อออกตามมือ งงมาก ไม่รู้ว่าจะไปทางไหน แต่โชคดีที่ก่อนมาตนได้ทำการบ้านโดยการดูเส้นทางต่าง ๆ จากในอินเทอร์เน็ตมาบ้างตลอดระยะเวลา 6 เดือน แต่ก็ยังเจอปัญหาว่าการเดินทางแต่ละที่จะไปอย่างไร กังวลตลอดเวลาว่าถึงที่หมายหรือยัง ซึ่งตลอดทริปเดินทาง 4 วัน 3 คืน เหมือนภารกิจบรรลุเป้าหมายเนื่องจากตนได้เดินทางไปยังเมืองต่าง ๆ ที่ไม่เคยไป และได้เรียนรู้อะไรหลายอย่าง โดยเฉพาะการถามทางที่ตนเลือกใช้รูปภาพกับภาษามือในการสื่อสาร และการที่คนอื่นเห็นเรามาคนเดียวทำให้หลายคนอยากเข้ามาช่วยเหลือ ซึ่งนั่นเป็นโลกอีกด้านหนึ่งที่ตนไม่เคยเห็นมาก่อน เป็นสิ่งที่ตนเคยกลัวเพราะได้แต่นั่งอยู่บนโต๊ะทำงาน แต่ในที่สุดตนก็สามารถทำได้และรู้สึกประทับใจมาก ทำให้หลังจากนั้น 3 เดือน ตนตัดสินใจไปสิงคโปร์ และจากนั้นอีก 1 เดือนเดินทางไปกัมพูชา และอีก 3 เดือนถัดมาไปกัมพูชาและไปบาหลี รวมทั้งเที่ยวในประเทศไทยด้วย
ระหว่างการเดินทางผมไม่ได้เดินทางสะดวกสบาย และได้เรียนรู้การเดินทางมากมาย อย่างการโบกรถก่อนหน้านี้ผมไม่เคยทำเลย ก็ลองโบกดูเพราะมันเป็นสิ่งสร้างสรรค์ หรือการนอนวัดก็ไม่เคยเพราะผมเป็นคนกลัวผี แต่การเดินทางมันขัดเกลาเราทำให้เราเป็นคนอยู่ง่าย กินง่ายขึ้น แต่เห็นโลกในความเป็นจริงมากขึ้น รวมทั้งได้เห็นน้ำใจของคนที่ซ่อนอยู่เยอะมาก ถือเป็นการบ่มเพาะตัวเองมา 2 ปีกว่า ทั้งในประเทศและต่างประเทศ และเคยใช้เงินตัวเองไปยุโรป อย่าง จุงฟราว หอไอเฟล ผมก็เคยไปมาแล้ว
บอล นเรศร กล่าวต่อว่า สิ่งที่อยากทำต่อจากนี้คือการไปเที่ยวรอบโลกเพื่อได้เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ อาหารและวัฒนธรรมแปลก ๆ เพราะตนสนุกกับการได้เจอผู้คน ได้เปิดโลกกว้าง ผิดกับตอนทำงานออฟฟิศที่ทำงานแล้วเงินก็หมดไป ไม่มีเงินเก็บ ทำให้ตนเคยตั้งคำถามว่าเงินเดือนขนาดนี้มันคุ้มไหมกับอนาคตใน 10 ปีข้างหน้า ซึ่งตนมองว่าเป็นสิ่งที่ยังไม่ตอบโจทย์การใช้ชีวิต ประกอบกับมีคนเคยบอกว่าการเดินทางมีแต่ได้กับได้ ยิ่งเดินทางยิ่งไม่ขาดทุน จึงอยากลองใช้ชีวิตใหม่ ๆ
หากถามว่าได้อะไรจากการเดินทาง บอล นเรศ เผยว่า หลังจากจบทริปเที่ยว 77 จังหวัด ตนเองได้เพื่อนเยอะมาก ได้เห็นอาชีพต่าง ๆ และตนไม่ได้ไปเที่ยวเปล่าแต่ได้คอนเน็คชั่นและเที่ยวเพื่อสังเกตสิ่งต่าง ๆ ส่วนที่ถามว่าก่อนไปเที่ยวได้ปรึกษาใครหรือไม่นั้น ก่อนหน้านี้ตนได้ปรึกษากับแม่ ซึ่งแม่ก็เป็นคนยุให้ผมลาออกจากงานประจำตั้งแต่แรกอยู่แล้ว เพราะแม่ไม่เคยสนับสนุนให้ตนจบปริญญาตรีเพราะเรียนไปจบมาก็ไม่มีอะไร แต่พ่อเป็นคนส่งให้เรียน
ก่อนหน้านี้ผมคิดว่าการทำงานเพื่อได้เงิน แต่ตอนนี้ผมคิดกลับกันคือ การทำงานเพื่อความสุข ผมไม่เคยบอกว่าผมไม่ทำงานเพราะทุกวันนี้ผมทำงาน ผมต้องถ่ายรูปทุกวันแล้วมาเขียนบล็อกเพื่อนำเสนอที่เที่ยวเพื่อให้ทุกคนเห็น ถึงแม้ว่าวันนี้จะได้เพียงกำลังใจแต่หลังจากนี้ตัวเงินจะเข้ามาเอง และที่ผมทำก็เพราะมีความสุขจากการเดินทาง และก่อนเดินทางผมมีเงินติดตัวเพียง 3 หมื่นบาทเพื่อไปเที่ยวให้ครบ 147 อุทยาน แต่พอดีคิดได้ว่าบางจังหวัดที่เราผ่านแต่ไม่มีอุทยานทำไมไม่ลองแวะเพราะเรามีเวลา ส่วนรถที่ใช้ก็เป็นรถจักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟ 110 i สำหรับการเตรียมตัวคือการเตรียมตัวให้พร้อมกับเงินที่ใช้ เพราะแค่ค่าเข้ากับค่ากางเต็นท์ในอุทยานก็รวมแล้วกว่า 2 หมื่น บอล นเรศร กล่าว